เส้นทางที่น่าทึ่งของ ดาบิด ราย่า จากนายทวารทีมนอกลีกสู่การเฝ้าเสาให้ อาร์เซนอล - OPINION
- ดาบิด ราย่า ย้ายมาเล่นกับ อาร์เซนอล ในซีซันนี้
- เคยผ่านการเล่นกับทีมนอกลีกมาแล้ว
- มีคุณสมบัติของนายทวารยุคใหม่
โดย Navapun Munarsa
ดาบิด ราย่า นายทวารคนใหม่ของ อาร์เซนอล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก มีความสามารถรอบด้านของในเรื่องปฏิกิริยา ทักษะการหยุดลูกยิง การผ่านบอลด้วยเท้า และการสั่งการแนวรับ ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นผู้รักษาประตูสมัยใหม่ที่สมบูรณ์แบบ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กล่าวมาไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ สตีเว่น เดรนช์ อดีตโค้ชโกล์ในอคาเดมี แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่เคยทำงานร่วมกับ ราย่า ในตอนที่ย้ายจาก โคนอลลา ในบ้านเกิด มาเฝ้าเสาให้กับ พลพรรค “กุหลาบไฟ” ด้วยวัยเพียง 15 ปี ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา
เดรนช์ ซึ่งปัจจุบันเป็นโค้ช และเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูให้กับ ชอร์ลีย์ ทีมนอกลีก กล่าวว่า “การที่เขามาจากสเปน เขามีวิธีการยืนตำแหน่งที่แตกต่างออกไป แต่สิ่งที่โดดเด่นคือเทคนิคของเขา การหยุดลูกยิง และความเป็นนักกีฬาอย่างแท้จริง”
“สมัยอยู่ที่สเปน เขาเล่นฟุตซอลบ่อยมากตอนที่เขายังเด็ก ดังนั้น เขาจึงรู้สึกผ่อนคลายเมื่อครองบอลเราฝึกซ้อมกับลูกฟุตบอลเยอะมาก โดยมีการฝึกซ้อมหลายๆอย่าง เพราะเรารู้ว่านั่นคือจุดแข็งของเขา”
“ส่วนเหตุผลที่ผมเล่นได้จนถึงอายุ 37 ก็เพราะว่าผมสามารถเล่นด้วยเท้าได้ดี เพราะทุกวันนี้วิธีการเล่นในสนามที่เปลี่ยนไปมาก ถ้าผู้รักษาประตูเก่งในการใช้เท้า นั่นเป็นสิ่งแรกที่ทุกคนจะมองหา ต่อมาก็จะมองไปที่การ เซฟประตู และการรับมือกับลูกครอสได้ไหม”
“การมีความสามารถหลายอย่างของเขาเป็นข้อดีที่สำคัญ และการอยู่ที่ เบรนท์ฟอร์ด ด้วยสไตล์ฟุตบอลที่พวกเขาเล่น ดาบิด ราย่า เหมาะกับที่นั่มากๆ แต่เขาสามารถย้ายไปทีมใดก็ได้ในลีกชั้นนำของยุโรป เพราะเขาความมั่นใจเมื่อบอลอยู่ที่เท้า เขาเป็นเหมือนผู้เล่นที่เพิ่มมาอีกคนหนึ่ง”
รายา ได้นำสไตล์การเล่นในสไตล์ของตังเองมาใช้กับ เบรนท์ฟอร์ด และพาทีมเลื่อนชั้นสู่ พรีเมียร์ลีก ได้สำเร็จในปี 2021 โดยเจ้าตัวจบฤดูกาลในศึก เดอะ แชมเปียนชิพ ด้วยการจ่ายบอลสำเร็จมากกว่า 300 ครั้งเลยทีเดียว
มือกาวชาวสเปน เคยกล่าวว่า “มันเป็นแค่สไตล์ที่เราเล่น เราเล่นในแนวทางนี้มาตลอด ทีมต่างๆ ไม่ค่อยกดดันผู้รักษาประตูมากนัก ดังนั้น ผมจึงมีเวลามากกว่าเซ็นเตอร์แบ็คเล็กน้อย มันเป็นสิ่งที่เราพยายามทำมา เราสามารถสร้างโอกาสได้ตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา การผ่านบอลของผมจะเลือกผู้เล่นที่อาจทำประตูไม่ได้ แต่จะสร้างโอกาสต่อไปได้”
ในซีซันที่แล้ว จอมหนึบวัย 27 ปี ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ด้วยการลงสนามไป 39 เกมรวมทุกรายการ พร้อมกับพาทีมจบด้วยอันดับที่ 13 ซึ่งทำให้ อาร์เซนอล ยืมตัวมาใช้งาน พร้อมออฟชั่นซื้อขาดเกือบ 30 ล้านปอนด์
แกร์รี่ บาร์บิน อดีตกุนซือ เซาธ์พอร์ธ ซึ่งเป็นทีมที่ ราย่า เคยไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวในซีซัน 2014-2015 กล่าวว่า “ตอนนี้เขาเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่ แบล็คเบิร์น บางทีผมก็คิดว่า เขาจะมีประสบการณ์เพียงพอสำหรับการต่อสู้เพื่อตกชั้นหรือไม่ เพราะคุณต้องการนักแตะที่จิตใจแข็งแกร่ง”
“ผมเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ ทีมอยู่อันดับบ๊วยของลีก และหลายๆ คนก็สับสัน พวกเขากำลังพิจารณาว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่นั่นไม่ใช่กรณีของ ดาบิด เขาเป็นนักเตะที่น่าเหลือเชื่อ มีความมั่นใจ และร่าเริง และมันเป็นเรื่องดีที่ความคิดนั้นกระจายมันไปในทีม มันเป็นสปิริตของทีมที่ยอดเยี่ยม”
“การใช้เท้าของเขาทำให้ผมประทับใจจริงๆ เขามั่นใจมาก เราเล่นฟุตบอลบนพื้นมากกว่าทีมอื่นๆ ในระดับเดียวกับเรา และเราก็หลุดจากโซนตกชั้นได้อย่างรวดเร็ว เขาเป็นส่วนสำคัญของเรื่องนั้น เพราะเขาทำผลงานได้ดีมาก
“เรารู้สึกปลอดภัยที่มีเขาอยู่ข้างหลัง และมันไม่ใช่แค่ป้องกันบอล แต่เขาเริ่มขึ้นเกมจากแนวรับ เขาเป็นจุดเริ่มต้นของเรา และมันก็ประสบความสำเร็จสำหรับเรา”
หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม อาร์เซนอล ถึงต้องการตัว รายา โดย มิเกล อาร์เตต้า เทรนเนอร์ “ปืนใหญ่” เคยทาบทามเขาครั้งแรกในปี 2020 ก่อนจะตัดสินใจทั้งเลือก อารอน แรมส์เดล เข้ามายืนเป็นนายทวารมือหนึ่ง
สิ่งที่เราได้เห็นคือ ความคล้ายคลึงกันอย่างชัดเจนระหว่างวิธีการเล่นของ อาร์เซนอล กับ เบรนท์ฟอร์ดที่ผู้รักษาประตูต้องสร้างเกมขึ้นจากแดนหลัง ซึ่ง ราย่า สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี และมีความคุ้นเคยกับแนวทางดังกล่าว
สำหรับ ราย่า มันเป็นการเดินทางที่น่าทึ่งจากการเฝ้าเสาให้ทีมนอกลีกอย่าง เซาธ์พอร์ธ และทีมใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อย่าง แบล็คเบิร์น ก่อนจะก้าวมาเป็นสมาชิกของ อาร์เซนอล ที่ลุ้นแชมป์ และได้ไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก