การตัดสินใจของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามต่อทัพ “สิงโตคำราม” - OPINION
- ทีมชาติอังกฤษมีคิวเจอกับ ยูเครน และ สก็อตแลนด์
- แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่เรียกนักเตะฟอร์มดีเข้ามาสู่ทีม
- ผู้เล่นตัวสำรองในสโมสรกลับมีชื่อ
โดย Navapun Munarsa
แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นการตัดสินใจตัวเองสำหรับการเรียกผู้เล่นเข้ามาทำศึกคัด ยูโร 2024 และ อุ่นเครื่องกับ ยูเครน และ สก็อตแลนด์ ในวันที่ 9 และ 12 กันยายนนี้
โค้ชวัย 53 ปี ยังคงเชื่อมั่นในตัว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กองหลังส่วนเกินของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใน พรีเมียร์ลีก และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน อดีตกองกลางกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ที่ย้ายไปเล่นในโปรลีก ซาอุดีอาระเบีย กับ อัล-เอตติฟาค รวมถึง คาลวิน ฟิลลิปส์ ห้องเครื่องตัวสำรอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เช่นเคย
ความศรัทธาของ เซาธ์เกต ที่มีต่อนักเตะทีมชาติอังกฤษที่รับใช้เขามาอย่างยาวนั้น เป็นเรื่องที่ดี และน่าชื่นชม แต่ตอนนี้เริ่มมีคำถามจากหลายๆคน รวมถึงแฟนบอล “สิงโตคำราม” แล้วว่า เมื่อไหร่จะมัการเปลี่ยนแปลง
แมกไกวร์ แม้จะไม่เคยก่อความผิดพลาดกับอังกฤษ แต่ถือว่าโชคดีที่มีรายชื่ออยู่ในทีม เนื่องจากสถานการณ์ของเจ้าตัวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาอย่างหนัก โดย เอริก เทน ฮาก กุนซือ “ปีศาจแดง” แสดงออกอย่างชักเจนว่า เขาไม่อยู่ในแผนการทำทีม
เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เทน ฮาก ตัดสินใจปลด แมกไกวร์ จากตำแหน่งกัปตันทีมไปแล้ว และอนุญาตให้ย้ายไปร่วมทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ได้ แต่สุดท้าย ดาวเตะวัย 30 ปี เลือกที่จะอยู่ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อไป
ในซีซันที่แล้ว แมกไกวร์ ได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก เพียงแค่ 16 เกม และลงเล่นไปรวมทุกรายการ 1,600 นาที แต่ดูเหมือนว่า เซาธ์เกต ยังคงเชื่อมั่น และพร้อมจะให้โอกาสอดีตกองหลัง เลสเตอร์ ซิตี อยู่เสมอ
ขณะเดียวกัน การที่กองหลังคนอื่นอย่าง จอห์น สโตนส์ ของ แมนฯ ซิตี้ และ ไทโรน มิงส์ ของ แอสตัน วิลล่า ได้รับบาดเจ็บ นั้น การเรียกตัว แมกไกวร์ เข้ามาร่วมทีมยังเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ แต่ก็มีปราการหลังอีกหลายคนที่ทำผลงานได้ดีกว่า
ขณะที่ เฮนเดอร์สัน ก็ถูกตั้งคำถามเช่นกัน หลังจากเจ้าตัวโยกไปเล่นในซาอุฯ ซึ่งเป็นลีกที่เข้มข้นน้อยกว่า พรีเมียร์ลีก โดยหลายคนมองว่า ถึงเวลาแล้วที่ ดาวเตะวัย 33 ปี ต้องเปิดทางให้รุ่นน้อง แต่สำหรับ เซาธ์เกต ไม่คิดแบบนั้น
ส่วน ฟิลลิปส์ นับตั้งแต่ย้ายจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปเล่นกับ แมนฯ ซิตี้ เมื่อปีที่แล้ว ก็มีโอกาสลงสนามเป้นตัวจริงเพียง 4 เกม โดยลงเล่นไป 594 นาที แต่เห็นได้ชัดว่า เจ้าตัวยังมีเครดิตเพียงพอสำหรับ เซาธ์เกต ที่จะเก็บเขาไว้ในทีม
ขณะเดียวกัน นักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีในช่วงต้นฤดูกาลอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิง ปีก เชลซี ที่ซัดไปแล้ว 2 ประตู นั้น กลับไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ ซึ่งสร้างความสงสัยให้กับหลายคนเป็นอย่างมากกับการตัดสินใจของ เซาธ์เกต
แน่นอนว่า สเตอร์ลิง อาจรู้สึกไม่อพอใจ เพราะตัวเองทำผลงานได้ดีกับสโมสร แต่กลับไร้ชื่อแบบสุดเซอร์ไพรส์ ขณะที่ผู้เล่นที่เป็นตัวสำรองของต้นสังกัดอย่าง แม็กไกวร์ และ ฟิลลิปส์ มีชื่อเป็นตัวเลือกของ เซาธ์เกต มาตลอด
ในแนวรุก เซาธ์เกต มีนักเตะอย่าง บูกาโย่ ซาก้า ของ อาร์เซนอล, มาร์คัส แรชฟอร์ด ของ แมนฯ ยูไนเต็ด, ฟิล โฟเด้น ของ แมนฯ ซิตี้ และกองหน้าตัวจริงอย่าง แฮร์รี เคน ดังนั้น ก็อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามองข้าม สเตอร์ลิง
เซาธ์เกต กำลังเผชิญกับบททดสอบครั้งสำคัญ และ ใน 2 เกมต่อไปหาก อังกฤษ ทำผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมายนั้น คำถามมากมายก็จะกลับมาหาเขาอย่างแน่นอน