ฟาบิโอ คาวัลโญ่ เส้นทางที่ต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อกลับไปทวงตำแหน่งกับ ลิเวอร์พูล - OPINION
- ฟาบิโอ คาวัลโญ่ ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก
- แข้งรายนี้ยังไม่สามารถยึดตัวจริงในทีม ลิเวอร์พูล
- เป้นนักเตะที่มีพรสวรรค์
โดย Navapun Munarsa
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ เพลย์เมคเกอร์อนาคตไกลชาวโปรตุเกส ของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากหลังย้ายจาก “หงส์แดง” ไปเล่นแบบยืมตัวกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลนี้
ดาวเตะวัย 21 ปี ย้ายจาก ฟูแล่ม มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล แบบไม่มีค่าตัวเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ไม่สามารถสอดแทรกเข้ามาอยู่ในทีมตัวจริงของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ และต้องโดนปล่อยให้ไปหาโอกาสลงสนามกับ ไลป์ซิก
อย่างไรก็ตาม ในอดีตที่ผ่านมา คาร์วัลโญ่ ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในนักเตะอายุน้อยมากพรสวรรค์ โดยย้อนกลับไปในปี 2013 ในระหว่างที่สโมสร บัลแฮม เอฟซี ฝึกซ้อมกันตามปกติ เกร็ก ครัตต์เวลล์ ผู้ก่อตั้ง และผู้อำนวยการของสโมสรได้ทำสิ่งที่หลายคนไม่คาดคิดคือ การพา แข้งเลือดฝอยมอง เข้ามาทดสอบฝีเท้ากับทีมเยาวชน
ครัตต์เวลล์ เล่าว่า “ตอนนั้นผมอยู่กับโค้ชอีกคน และปกติแล้วเราจะไม่ปล่อยให้คนไม่เกี่ยวข้องเป็นในสนามซ้อมอันขาด ถ้าคนๆนั้น โดยไม่ได้ติดต่อกับสโมสรอย่างเป็นทางการ แต่เราให้โอกาส ฟาบิโอ ได้ลงสนาม และภายใน 30 วินาที คุณจะเห็นว่า เขาเหนือกว่าเด็กคนอื่น ผมมองไปที่โค้ชอีกคน และเราทั้งคู่ต่างก็พูดว่า ว้าว เด็กคนนี้สุดยอดจริงๆ”
คาร์วัลโญ่ เคยฝึกฟุตบอลกับ เบนฟิก้า สโมสรดังลีกโปรตุเกสบ้านเกิด จากนั้น พ่อ-แม่ของเขาก็ย้ายมาอยู่ในอังกฤษ และ ครัตต์เวลล์ ก็มอบโอกาสให้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ บัลแฮม
ครัตต์เวลล์ เล่าต่อว่า “เขามีคุณภาพที่จะก้าวมาเป็นนักเตะชั้นนำได้แน่นอน เขามีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม มีความสมดุลทางร่างกาย และก็รวดเร็วมากด้วย เขาเป็นเพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10 โดยธรรมชาติจริงๆ”
“ในตอนท้ายของเการซ้อมวันนั้น ผมพูดกับแม่ของเขา ซึ่งแทบจะไม่พูดภาษาอังกฤษเลย ผมบอกเขาว่า ได้โปรดพาเขามาฝึกซ้อมกับเราอีกครั้ง ครอบครัวของเขายอดเยี่ยมมาก เขามาร่วมซ้อมกับเราตลอด และเราเซ็นสัญญากับเขาในที่สุด”
“เขาเป็นเด็กที่น่ารัก อ่อนน้อมถ่อมตน ทั้งหมดที่เขาต้องการคือ เล่นฟุตบอลทุกที่ทุกเวลา พ่อ-แม่ของเขาก็ดีมากๆ พวกเขาไม่เร่งเร้า ฟาบิโอ เลย เขาไม่ได้คิดที่จะคนที่โดดเด่นกว่าคนอื่นๆเลย เขาแค่ต้องการเล่นฟุตบอลเพียงอย่างเดียว”
“ตอนนั้นทีมของเราคือ บาแลม เบลเซอร์ส และเขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับเรา เรามีชื่อเสียงในด้านการพัฒนาผู้เล่นอายุน้อย และปล่อยพวกเขาย้ายไปยังทีมที่ใหญ่กว่า มันโชคดีมาก เมื่อเขาย้ายมาเล่นกับเรา เรากำลังทำงานกับกลุ่มผู้เล่นอายุที่ใกล้เคียงกับเขา และที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์”
ตลอด 2 ฤดูกาลกับ บัลแฮม นั้น คาร์วัลโญ่ ทำผลงานได้อย่างยอดเยีย่มจนทำให้หลายสโมสรในอังกฤษ และยุโรปเริ่มจับตามองเขาอย่างจริงจัง และในปี 2015 เจ้าตัวก็ได้ย้ายไปเล่นกับ ฟูแล่ม ซึ่ง ครัตต์เวลล์ ก็มีส่วนอย่างมากในการย้ายสังกัดครั้งนี้
“แม้ว่า ฟาบิโอ จะเคยอยู่ที่สโมสรใหญ่อย่าง เบนฟิก้า แต่ พ่อ-แม่ของเขาต้องการให้เขาอยู่ในสโมสรทีเหมาะสม และมีการพัฒนา พวกเขาค่อนข้างพอใจที่ ฟาบิโอ จะอยู่กับเราไปนานๆ แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็มันก็เกิดขึ้น และข้อเสนอก็เข้ามา”
“พวกเขาผ่อนคลายมาก และไว้วางใจให้เราพัฒนา ฟาบิโอ พวกเขาเห็นว่า เขาทำได้ดี เมื่อคุณอายุระหว่าง 10 ถึง 14 ปี คุณต้องพัฒนาตัวเอง แต่ต้องสนุกไปกับฟุตบอลด้วย”
ในห้วงเวลานั้น ฟูแล่ม เป็นสโมสรแรกที่จับตาดู คาร์วัลโญ่ อย่างจริงจัง ขณะที่สโมสรยักษ์ใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อย่าง เชลซี, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ก็ติดตามสถานการณ์ของเขาอย่างใกล้ชิด
ครัตต์เวลล์ กล่าวว่า “เรารับมือกับความสนใจจากสโมสรต่างๆ เพราะครอบครัวของเขารู้สึกกดดันจากการที่ทีมเหล่านั้นติดต่อมา พวกเขากำลังคิดหนัก แต่มันเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับเขาที่จะย้ายทีม และผมคิดว่า ฟูแล่ม ดูเหมือนจะเป็นสโมสรเหมาะสมที่สุด”
“ทีมเยาวชนของ ฟูแล่ม ยอดเยี่ยมมากๆ และยังคงสุดยอดอยู่จนถึงทุกวันนี้ พวกเขาเป็นหนึ่งในอคาเดมี่ที่ดีที่สุด และเรารู้สึกว่า ฟาบิโอ น่าจะมีโอกาสที่ดีที่นั่น ฮิว เจนกิ้นส์ ผู้บริหารของ ฟูแล่ม ในตอนนั้นก็เป็นคนดีมากๆ และสร้างนักเตะอย่าง แพทริค โรเบิร์ตส์ และ ไรอัน เซสเซยง มาแล้ว”
หลังจากเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ ฟูแล่ม ในปี 2020 คาร์วัลโญ่ ก็ค่อยๆพัฒนามาเป็นกำลังสำคัญของทีม และช่วยพาพลพรรค “เจ้าสัวน้อย” ภายใต้การนำของกุนซือ มาร์โก ซิลวา คว้าแชมป์เดอะ แชมเปี้ยนชิพ พร้อมเลื่อนชั้นมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก สำเร็จ
หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ฟูแล่ม นั้น ลิเวอร์พูล ก็ไม่รอช้าที่จะดึงตัว คาร์วัลโญ่ มาร่วมทีม โดยปีแรกกับ “หงส์แดง” เจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นไปรวมทุกรายการ 21 เกม ซัดไป 3 ประตู ก่อนจะโยกไปเล่นกับ ไลป์ซิก
คาร์วัลโญ่ มีเวลา 1 ฤดูกาลเพื่อพัฒนาฝีเท้ากับ ไลป์ซิก ซึ่งหากได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และมีประสบการณ์มากขึ้น นั้น บางทีเขาอาจจะกลับมาแย่งตำแหน่งตัวจริงในทีม ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้