ภาพรวมของ ยอร์ก ชมัดท์เคอ ผอ.กีฬาคนใหม่ ลิเวอร์พูล ใน 3 เดือนแรก - OPINION

  • ยอร์ก ชมัดท์เคอ เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.กีฬา ลิเวอร์พูล ในช่วงซัมเมอร์
  • ทำการเซ็นสัญญานักเตะใหม่ 4 ราย
  • ผู้เล่นใหม่ส่วนใหญ่ทำผลงานดี
Liverpool FC v AFC Bournemouth - Premier League
Liverpool FC v AFC Bournemouth - Premier League / Chris Brunskill/Fantasista/GettyImages
facebooktwitterreddit

ยอร์ก ชมัดท์เคอ ต้องเจอกับงานที่วุ่นวายเป็นอย่างมากหลังเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต่อดจาก จูเลียน วอร์ด โดยมีการเซ็นสัญญาระยะสั้น 3 เดือน

มีรายงานระบุว่า ชมัดท์เคอ ถูกทาบทามเข้ามาเพื่อลุยตลาดนักเตะในบุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นหลัก โดยนักเตะใหม่ 3 รายจากทั้งหมด 4 รายของ ลิเวอร์พูล นั้น มาจากลีกสูงสุดเมืองเบียร์ แต่นักวิเคราะห์ และแฟน “หงส์แดง” บางส่วนยังมองว่า ทีมยังเสริมทัพได้ไม่ดีพอ

Joerg Schmadtke
VfL Wolfsburg v FC Bayern München - Bundesliga / Stuart Franklin/GettyImages

เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เสียกองกลางทีมชุดแรกออกไป 5 ราย ประกอบด้วย ฟาบินโญ, นาบี เกอิตา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์ และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ซึ่งเป็นจุดใหญ่พวกเขาต้องหาคนเข้ามาทดแทน

ตลาดนักเตะ ลิเวอร์พูล เริ่มต้นได้อย่างสวยงามด้วยการคว้าตัว อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กองกลางทีมชาติอาร์เจนตินา มาจาก ไบรท์ตัน ในราคา 35 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นผลงานของ วอร์ด ที่เจรจาล่วงหน้าก่อนจะอำลาตำแหน่ง

โดมินิค โซบอสซ์ไล กัปตันทีมชาติฮังการี ย้ายตามเข้ามาด้วยค่าฉีกสัญญา 60 ล้านปอนด์ จาก แอร์เบ ไลป์ซิก ภายใต้การเจรจาของ ชมัดท์เคอ และดูเหมือนว่า แม็ค อัลลิสเตอร์ และ โซบอสซ์ไล เป็นการทำธุรกิจที่ยอดเยี่ยมของ ลิเวอร์พูล

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตามมาหลัง โซบอสซ์ไล และ แม็ค อัลลิสเตอร์ คือ ความเงียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งกองกลางตัวรับที่เสียทั้ง ฟาบินโญ และ เฮนเดอร์สัน ไป แต่ยังไม่ได้ใครมาทดแทน ขณะที่เป้าหมายหลักอย่าง โรเมโอ ลาเวีย ก็เจรจาไม่สำเร็จ

ลิเวอร์พูล พยายามอย่างยิ่งที่จะจ่ายเงิน 110 ล้านปอนด์กับ ไบรท์ตัน เพื่อคว้าตัว มอยเซส ไกเซโด้ มาเสริมทัพ แต่สุดท้าย ดาวเตะวัย 21 ปี ก็ตัดสินใจย้ายไปยัง เชลซี ในราคา 115 ล้านปอนด์ พร้อมกับทำลายสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในอังกฤษ

FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-ASTON VILLA
FBL-ENG-PR-LIVERPOOL-ASTON VILLA / PAUL ELLIS/GettyImages

การค้นหามิดฟิลด์หมายเลข 6 ของ ลิเวอร์พูล ในที่สุดก็สิ้นสุดลงเมื่อได้ วาตารู เอ็นโด กองกลางกัปตันทีมชติญี่ปุ่น มาจาก สตุ๊ตการ์ท ด้วยค่าตัว 16.25 ล้านปอนด์ แต่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ดาวเตะวัย 30 ปี จะเข้ามาแทน ฟาบินโญ่ ได้หรือไม่

ขณะเดียวกัน ไรอัน กราเวนเบิร์ช กองกลาวดาวรุ่งชาวดัตช์ ก็ถูกคว้าตัวมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ในวันเดดไลน์ แต่บทบาทของ แข้งวัย 21 ปี ในทีม ลิเวอร์พูล ยังคงต้องรอการประเมินอีกครั้งว่า จะได้ลงเล่นในตำแหน่งใด

อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นการยกเครื่องกองกลางที่สมดุลที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในฤดูกาลที่ผ่านมา เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” แทบไม่มีตัวเลือกในตำแหน่งมิดฟิลด์เลย

ชมัดท์เคอ เคยอธิบายว่า โครงสร้างการทำงานระหว่างฟุตบอลอังกฤษและเยอรมัน แตกต่างกัน โดยระบุว่า “คล็อปป์ เป็นคนจัดลำดับความสำคัญ จากนั้น เราก็ทำงานร่วมกับนักวิเคราะห์ข้อมูล และแมวมอง และ คล็อปป์ จะเลือกจากรายชื่อผู้เล่นที่เขาอยากร่วมงานด้วย

“หลังจากนั้นผมจะไปพูดคุยเป้าหมาย และสอบถามถึงความเป็นไปได้ และสุดท้ายแล้วเจ้าของก็ต้องพอใจกับการลงทุนด้วย”

การยกเครื่องของ ลิเวอร์พูล จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เวลาเท่านั้นที่จะตอบได้ แต่ดูเหมือนว่า การทำงานของ ชมัดท์เคอ บวกกับนักเตะใหม่ทั้ง 4 ราย ที่ย้ายเข้ามา ก็พอจะสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับ “หงส์แดง” มากทีเดียว