จากความในใจของแฟนเฉพาะกิจสู่เกมนัด "สุดท้าย" และ "ท้ายสุด" ที่หมดทั้งใจจะมอบให้ อาร์เจนตินา - OPINION

ในที่สุด ฟุตบอลโลก 2022 ก็เดินทางมาจนถึงวันชี้ชะตาซึ่งหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าสองชาติที่จะมาชิงดำกันในปีนี้คือ อาร์เจนตินา ตัวเต็งกับ ฝรั่งเศส แชมป์เก่า สำหรับแฟนบอล ทีมฟ้าขาว แน่นอนเกมนี้เป็นนัดที่มีความหมายสุด ๆ รวมถึงแฟน "เฉพาะกิจ" อย่างผมและใครหลาย ๆ คนที่หวังจะเห็น ลิโอเนล เมสซี ได้รับการยอมรับจาก "ทุกคน" บนโลกใบนี้ว่าเขาคืออันดับ 1 อย่างแท้จริง

ที่บอกว่าเป็นแฟนเฉพาะกิจ นั่นก็เป็นเพราะตลอดชีวิตการดูฟุตบอลมีนักเตะเพียงไม่กี่คนบนโลกที่ผมดูแล้วรู้สึกอินไปกับการตามเชียร์และลุ้นให้เขาประสบความสำเร็จชนิดที่พร้อมจะตะโกนลั่นซอยเมื่อยิงเข้าหรือร้องไห้เสียใจเมื่อต้องผิดหวัง และ เมสซี คือหนึ่งในนั้น แต่ต้องขอสารภาพไว้ตรงนี้เลยว่าตัวผมเองก็เพิ่งจะมาจดจ่อกับการเชียร์ทีมชาติ อาร์เจนตินา ครั้งแรกเมื่อฟุตบอลโลกปี 2010 ที่ผ่านมานี้เองแม้ว่าจะชื่นชอบดาวเตะจาก บาร์เซโลนา ณ เวลานั้นมาตั้งแต่ยุคที่เล่นร่วมกับ โรนัลดินโญ แล้วก็ตาม

ซึ่งก็อย่างที่ได้กล่าวไป นับตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 2010 เป็นต้นมา ผมก็ประกาศตนเป็นสาวกทีมชาติ อาร์เจนตินา ชนิดที่ใครถามก็ตอบได้อย่างภาคภูมิใจว่าเชียร์ อาร์เจนตินา มาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่แค่ ฟุตบอลโลก อย่างเดียวแต่นั้นรวมถึงการตามเชียร์ผลงานของพวกเขาในศึก โคปา อเมริกา (ชิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้) ด้วยเช่นกัน

แน่นอนสิ่งที่ทำให้ผมยังคง "อิน" และมีอารมณ์ร่วมกับการดู อาร์เจนตินา ลงแข่งขันในรายการใหญ่เสมอ ๆ นั่นก็เป็นเพราะในนามทีมชาติ ลิโอเนล เมสซี หนึ่งในนักเตะในดวงใจของผมยังสามารถไม่ประสบความสำเร็จอย่างจริง ๆ จัง ๆ เสียทีนับตั้งแต่คว้าแชมป์ โอลิมปิก เมื่อปี 2008 ทุกทัวร์นาเมนต์ที่ลงแข่งมากสุดก็เป็นได้แค่พระรองตั้งแต่การพ่าย เยอรมนี อย่างเจ็บปวดในช่วงต่อเวลารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 2014 รวมถึงการแพ้จุดโทษต่อ ชิลี สองปีติดต่อกันในรอบชิงศึก โคปา อเมริกา เมื่อปี 2015 และ 2016 มันยิ่งทำให้ความอัดอั้นและความกระหายที่ต้องการจะเห็น เมสซี ประสบความสำเร็จกับทีมชาติและได้รับการยอมรับมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบทวีคูณ

กระทั่งเมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ระดับทวีปครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปีหลังจากทำได้หนล่าสุดต้องย้อนกลับไปในปี 1993 ถึงแม้นั่นจะเติมเต็มความสำเร็จให้กับ เมสซี และ "ติ่ง" อย่างผมได้ระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ทุกคนก็รู้ดีว่าหากต้องการเป็นเบอร์หนึ่งที่ผู้คนยอมรับคุณต้องคว้า "แชมป์โลก" มาครองให้ได้เท่านั้น จึงจะถูกยกให้เป็นตำนานในระดับเดียวกับรุ่นเก๋าอย่าง เปเล่ หรือ มาราโดนา

หลังจากเสือเตี้ย พาทีมพ่าย เยอรมนี ย่อยยับจนตกรอบ 8 ทีมเมื่อปี 2010 ยังต้องมาอกหักในนัดชิงปี 2014 จากน้ำมือของ ทีมอินทรีเหล็ก เหมือนเดิมจนทำเอานอนไม่หลับไปหลายวัน มาที่ปี 2018 ดูไปก่ายหน้าผากไปเพราะปีนั้นเรียกได้ว่าเป็น อาร์เจนตินา ชุดที่ "ง่อย" ที่สุดที่เคยเห็นมาเลยก็ว่าได้ เกือบจะตกรอบแรก ก่อนจะเข้ามาโดน ฝรั่งเศส ยิงแซงชนะไป 4-3 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปแบบป่วย ๆ ซึ่ง ณ เวลานั้น เมสซี ก็อายุปาเข้าไป 31 ปีจนผมเองก็คิดในใจว่าอาจจะไม่ได้เห็นนักเตะที่เทิดทูนมีโอกาสชูถ้วยใบนี้แน่นอนแล้ว แต่สุดท้าย เมสซี กลับสามารถยืนระยะการค้าแข้งในระดับท็อปมาได้จนถึงปัจจุบันพร้อมกับยืนตระหง่านเป็นจอมทัพให้กับ อาร์เจนตินา ได้แม้จะอายุปาเข้าไป 35 ปีแล้วก็ตาม

ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม ทีมฟ้าขาว ผลงานยอดเยี่ยมไร้ที่ติตั้งแต่คว้าแชมป์อเมริกาใต้มา แต่แล้วนัดแรกกลับโดน ซาอุฯ สอยไปแบบช็อคคนทั้งโลก ผมเองก็คิดในใจแล้วว่า อาร์เจนตินา ชุดนี้ที่ไม่ได้มีสตาร์ดังอย่าง กุน อเกวโร อิกวาอิน มาสเชราโน เตเบซ เหมือนเมื่อก่อน นักเตะที่มาก็ไม่ใช่ตัวเกรดเอบวกเหมือนทีมเต็งอื่น ๆ แถมแข้งสตาร์ดังหลายคนที่ติดทีมมาก็อายุมากแล้วทั้งนั้นตั้งแต่ โอตาเมนดี้ ดิ มาเรีย โกเมซ หรือแม้แต่ เมสซี เองก็ตามซึ่งทีมคงไม่น่าไปได้ไกลนักหากดูจากผลงานในเกมแรก แต่หลังจากนั้นพวกเขาเริ่มจับทางดีขึ้น ๆ บวกกับพลังแห่ง "เดอะแบก" ของ เมสซี ที่จุดประกายฟอร์มการเล่นของแข้งหลาย ๆ คนให้ดูดีขึ้นทันตาอย่างน่าอัศจรรย์ โดยหวังเพียงจะส่งให้ "ลูกพี่" ไปถึงจุดสูงสุด และนั่นทำให้บรรดาแข้งแข้งฟ้าขาววิ่งพล่านสู้ตายถวายหัวแบบไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยเลยก็ว่าได้ รวมถึงต้องยกเครดิตให้กับกุนซืออย่าง ลิโอเนล สคาโลนี ที่อาศัยความผิดพลาดเป็นบทเรียนและค่อย ๆ แก้ปัญหาแบบนัดต่อนัดได้อย่างตรงจุดจนพาทีมมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

และก็อย่างที่ทราบกันก่อนเกม ลิโอเนล เมสซี ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าเกมวันอาทิตย์นี้จะเป็นฟุตบอลโลกนัดสุดท้ายของเขา สำหรับผมเองนั่นเท่ากับว่าเกมนัดนี้จะเป็นจุดสิ้นสุดการเป็นแฟนบอล อาร์เจนตินา แบบเฉพาะกิจด้วยเช่นกัน เพราะต้องยอมรับตามตรงว่าเมื่อไม่มี เมสซี อยู่ในสารบบ การเชียร์ อาร์เจนตินา ต่อไปก็แทบจะไม่มีความหมายอะไรเหมือนนักกับเกมทั่ว ๆ ไปที่ดูเพื่อใช้ทำงานแต่ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมชนิดที่พร้อมจะดีใจลั้นบ้านหรือนั่งซึมเศร้าโศกเสียใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าหมดจากเขาคนนี้ไปจะมีโอกาสได้ดูฟุตบอลโลกแบบเต็มอารมณ์และมีอินเนอร์สุด ๆ แบบนี้อีกเมื่อไหร่ นอกเสียจากทีมชาติไทยจะได้ไปบอลโลกเสียเอง

เพราะฉนั้นสิ่งที่ผมและเชื่อว่าใครหลาย ๆ คนที่เชียร์ อาร์เจนตินา เฉพาะกิจแบบผมคิดตรงกันคือไม่ว่าวันอาทิตย์นี้ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ลิโอเนล เมสซี ก็จะยังเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลสำหรับผมเสมอ แม้ว่าเงื่อนไขจะไม่สมบูรณ์ในการขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุด แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผลงานของเขาก็ชัดเจนแล้วว่าคู่ควรกับคำว่านักเตะที่ดีที่สุดในโลก ขอบคุณที่ทำให้การดูฟุตบอลโลกตลอดหลายปีที่ผ่านมาไม่น่าเบื่อ ขอบคุณที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมและใครอีกหลายคนยิ่งตกหลุมรักฟุตบอลมากขึ้นไปอีก สำหรับ เมสซี ผมจะยังตามเชียร์เขาต่อไปจนถึงเกมนัดสุดท้ายของอาชีพการค้าแข้ง แต่สำหรับ อาร์เจนตินา คงต้องกล่าวคำว่า "ลาก่อน" ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ทั้งสุขและเศร้าตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา มันจะเป็นความทรงจำที่ผมจะไม่มีวันลืมและยินดีจะส่งต่อความรู้สึกนี้เหมือนกับที่คุณปู่เคยเล่าถึง เปเล่ คุณพ่อพูดถึงความเก่งกาจของ มาราโดนา ส่วนผมก็บอกคนในยุคถัดไปถึงเรื่องราวของ เมสซี และ ทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นความสุขให้ผมและแฟนบอลอีกหลายล้านคนทั่วโลกต่อไปเช่นกัน...

สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด