"ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก" กับความหวังอันริบหรี่ของ ลิเวอร์พูล ในการกลับไปแก้มือในฤดูกาลหน้า - OPINION
โดย Navapun Munarsa
หลังจากตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยฝีมือ เรอัล มาดริด จากผลสกอร์รวม 6-2 เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า “หงส์แดง” ต้องเจอกับงานยากสุด ๆ ในการกลับมาเล่นฟุตบอลรายการใหญ่ของยุโรปอีกครั้งในฤดูกาลหน้า
หากย้อนกลับไปในปี 2019 ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทัพของ คล็อปป์ สร้างความน่าเกรงขามให้กับคู่แข่งทุกทีมหลังจากคว้าแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนว่า ในปีนี้เราอาจไม่ได้เห็นพลพรรค “หงส์แดง” มีส่วนร่วมในรายการนี้อีกแล้ว เว้นแต่ฟอร์มของพวกเขาจะดีขึ้นช่วงที่เหลือของซีซัน
คล็อปป์ กล่าวหลังเกมบุกไปพ่าย มาดริด 1-0 ที่สนาม ซานติอาโก เบอร์นาบิว เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “เราเตรียมพร้อมสำหรับฟอร์มการเล่นที่พิเศษ แต่เราไม่สามารถแสดงมันออกมาในสนามได้เลย มันชัดเจน และไม่มีใครคิดว่า ลิเวอร์พูล จะไม่ได้มีส่วนร่วมกับรายการนี้”
แนวรุกที่พา ลิเวอร์พูล เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 สมัยในรอบ 5 ปี กำลังพังทลายลง ซาดิโอ มาเน่ ย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว และ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ กำลังย้ายจะออกไปเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ซึ่งเหลือเพียง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพียงคนเดียวเท่านั้น
ชาร์ลี อดัม อดีตกองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ ซึ่งเคยเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในปี 2011-12 แสดงความคิดเห็นว่า “ผมคิดว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ เชื่อใจผู้เล่นเหล่านี้มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณดูสิ่งที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา ทำกับคนที่เขาเคยชื่นชอบอย่าง ชูเอา กันเซโล่ ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเปิดทางให้ผู้เล่นคนอื่นเข้ามาแทน”
“แต่ผมคิดว่าในฐานะผู้จัดการทีม คุณต้องเคารพสิ่งที่นักเตะทำเพื่อคุณ และนั่นคือการตัดสินใจที่ต้องทำโดยสตาฟฟ์ทั้งหมด”
คริส ซัตตัน อดีตหัวหอก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เชลซี และ กลาสโกว์ เซลติก กล่าวว่า “มันเป็นผลงานที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ผมคิดว่า ฤดูกาลนี้พวกเขาไม่สม่ำเสมอเลยในแง่ของระดับผลงานในสนาม และผลการแข่งขัน”
“มันสำคัญอย่างยิ่งที่พวกเขาต้องขึ้นไปสู่ตำแหน่งท็อปโฟร์ให้ได้ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องคิดในตอนนี้ มันน่าสนใจที่จะได้เห็นว่า ลิเวอร์พูล จะไปอยู่ในจุดไหนหลังจบฤดูกาล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันจะเป็นผลต่อการทำธุรกิจในช่วงซัมเมอร์”
ฤดูกาลที่แล้ว ลิเวอร์พูล อยู่ในการไล่ล่า 4 แชมป์ จนถึงสัปดาห์สุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งคว้าแชมป์บอลถ้วยในประเทศ 2 รายการ แต่พลาดเสียแชมป์ลีกให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในวันสุดท้าย และแพ้ให้กับ มาดริด ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ความหวังของ ลิเวอร์พูล ในทุกถ้วยหมดลงตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยรั้งอันดับ 6 พรีเมียร์ลีก ซึ่งมีเพียงผลต่างประตูได้-เสีย เท่านั้น ที่ทำให้พวกเขาอยู่เหนือ ไบรท์ตัน ทีมในอันดับ 7 และมีโอกาสโดนแซงอีกด้วย
คล็อปป์ กล่าวต่อว่า “ด้วยประวัติศาสตร์ที่เรามีในการแข่งขันรายการนี้ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก) เรามักจะเริ่มต้นด้วยความคิดที่จะคว้าแชมป์ มันคือการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม และเราต้องการเป็นส่วนหนึ่งของมันทุกปี และตอนนี้มันเป็นงานที่ยากสำหรับเรา”
“เรากลับมาจากช่วงพักเบรกทีมชาติ และเรามีสัปดาห์ฟุตบอลที่เหมาะสมรอเราอยู่สามเกมด้วยการเจอกับ แมนฯ ซิตี้, เชลซี, อาร์เซน่อล – ซึ่งน่าจะเป็นตัวกำหนดว่าเราจะไปอยู่จุดไหน ซึ่งสัปดาห์นั้นเป็นตัวชี้ขาด งานของเราคือ ทำทุกอย่างเพื่อคว้าท็อปโฟร์ให้ได้”
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด