ว่าด้วยเรื่องการต่อสัญญาใหม่ จอร์จินโญ่ กับการแข่งขันในแดนกลาง อาร์เซนอล ฤดูกาลหน้า - OPINION
• นักเตะเกิดในบราซิล แต่มาเติบโตและเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลในอิตาลี
จอร์จินโญ่ กองกลางทีมชาติอิตาลี ตกเป็นข่าวว่าตกลงกับ อาร์เซนอลในการต่อสัญญาใหม่ได้แล้ว และหากเรียบร้อยนี่จะเป็นการปักหลักชีวิตของเขาในลอนดอนเป็นปีที่ 7 นับตั้งแต่สมัยลงเล่นกับเชลซี
อิตาเลียนคนแรกในรอบหลายปีของทัพปืนใหญ่ ย้ายมาร่วมงานกับอาร์เซนอลในเดือนมกราคม 2023 ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ และปีนี้ก็ลงเล่นไปถึง 35 เกมด้วยกันในทุกรายการ (ตัวจริง 19 เกม) เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ถูกใช้บริการบ่อยในปีนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ โธมัส ปาเตย์ เจ็บไม่เลิกไม่รานานหลายเดือน จนเพิ่งจะกลับมาได้ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2024 ที่ผ่านมาด้วย
การต่อสัญญาใหม่นี้ ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์อะไร เพราะมีข่าวออกมานานแล้วว่า อาร์เซนอล ก็มองทางเลือกตรงนี้มาตลอด เพราะสัญญานี้สามารถใช้ออฟชั่นต่อหนึ่งปีได้ตามตกลงกันของทั้งสองฝ่าย แต่แน่นอนว่าอาร์เซนอล จะเพิ่มอายุสัญญาไปให้อีกสักหน่อยด้วย ด้วยพื้นฐานอายุนักเตะเกิน 30 ปี ส่วนมากก็จะได้สัญญากันไม่เกิน 2 ปี หรือจะเป็นแบบสมัยนิยมก็แบบ 1+1 หรือว่าถ้าฟอร์มได้ดี และสำคัญกับทีมมากแต่อายุมากแล้วก็รับสัญญาปีต่อปี อยากต่อทีมก็พร้อมต่อเรื่อย ๆ ให้เหมือนเคสของ ลูก้า โมดริช กับ เรอัล มาดริด เป็นต้น
อย่างไรก็ตามในดีลของ จอร์จินโญ่ อาร์เซนอล มองเห็นเส้นทางที่จะให้สถานะกับเขาไว้ชัดเจน ขณะที่ตัวนักเตะก็มองเห็นเส้นทางหลังจากนี้ไว้พอสมควร
โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ กองกลางอียิปต์ถึงเวลาอำลาทีมแน่นอนหลังจากหมดสัญญา เขาคือนักเตะที่อาร์แซน เวนเกอร์ เซ็นสัญญาเข้ามา ซึ่งจะเป็นคนสุดท้ายแล้วที่อยู่กับทีม (ไม่นับรวมที่ได้รับการดันขึ้นจากทีมเยาวชน) เท่ากับว่า “ยุคสมัย” ของเวนเกอร์จบลงโดยสมบูรณ์ ใช้เวลาประมาณ 6 ปี ก็ไม่เหลือนักเตะในยุคของนายใหญ่ฝรั่งเศสอีกแล้ว แต่ อาร์เซนอล ก็ยังคงไม่ลืมบุญคุณ และความดีที่ทำร่วมกันมา ปรัชญาของอาร์แซน ยังคงอยู่ในสนามซ้อมมากมาย เช่นเดียวกับการเชิดชูเกียรติสูงสุดด้วยการมีรูปปั้นหน้าสนามที่เปิดตัวกันในปีที่แล้ว
ขณะที่ในส่วนของ โธมัส ปาร์เตย์ ที่เพิ่งกลับมาลงสนามได้แบบเต็ม 90 นาที เป็นเกมแรกนับจากสิงหาคม 2023 กลายเป็นนักเตะคนเดียวที่มีสัญญาถึงกลางปี 2025 และยังไม่มีการพูดถึงสัญญาใหม่ ซึ่งเขาก็ตกเป็นข่าวว่าอาจจะย้ายทีม แต่ในทางกลับกัน อาร์เซนอล ก็ยังคงเห็นถึงคุณค่าของเขาเช่นกัน เพียงแต่ว่าที่ผ่านมา ปาเตย์ เจ็บหนักเจ็บบ่อยเหลือเกิน ปีนี้ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก 11 เกม (ตัวจริง 6 เกม) น้อยมากสวนทางกับค่าเหนื่อยระดับ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
ศักยภาพของนักเตะ – เวลาในสนาม และค่าแรงที่มอบให้ ทีมได้รับไม่สมดุลกันอย่างมาก ข่าวการลาทีมจึงมีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รวมถึงที่ว่าข้อเสนอจากลีกตะวันออกกลาง รวมถึง ยูเวนตุส และทีมในยุโรปที่เคยให้ความสนใจมาก่อนก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเสียทีเดียว แต่อาร์เซนอลก็ต้องคิดให้รอบด้าน เพราะอย่างน้อยถ้าเสียไปก็อยากได้อะไรกลับมาบ้าง และก็ต้องมองหาตัวแทนไว้ด้วย
ถ้าเสียทั้งสองคนไปพร้อมกัน ก็เป็นเรื่องหนักไม่น้อยสำหรับทีมที่ต้องหาคนมารับช่วงต่อ ซึ่งก็เป็นไปได้ทั้งการดันเด็กสักคนขึ้นมา หรือจะซื้อเข้ามาใหม่ โดยเฉพาะส่วนหลังมีข่าวกับ มาร์ติน ซูบิเมนดี้ กองกลางเรอัล โซเซียดาด อยู่เรื่อย ๆ รอดูในตลาดการซื้อขายจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ดังนั้นการต่อสัญญาใหม่กับ จอร์จินโญ่ จึงเป็นเรื่องที่พวกเขามองว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมและสมควรได้รับ
กองกลางวัย 32 ปี ได้รับการยอมรับในสนามและในห้องแต่งตัว นี่คือนักเตะที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมายทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติอิตาลี เป็นแรงบันดาลใจสำหรับรุ่นน้องหลายคน รวมถึงเขาเคยได้รับเชิญให้ไปถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับทีมเยาวชนอาร์เซนอลมาแล้ว โดยเขาไปเรียนและสอบได้ใบอนุญาตในการทำงานโค้ชมาได้แล้วในระดับบี ไลเซ่นส์ ด้วยบุคลิก ท่าทาง และความชื่นชอบส่วนตัวของเขา มีโอกาสมากว่าเขาจะเลือกเข้าสู่เส้นทางงานโค้ชหลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ
ขณะที่ในสถานการณ์ของเขากับอาร์เซนอลในฐานะนักเตะก็ค่อนข้างชัดในสถานะ มิเคล อาร์เตต้า ยอมรับว่า จอร์จินโญ่ เป็นนักเตะที่เฉลียวฉลาดและมากประสบการณ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถลงเล่นได้ทุกเกม ทั้งในเรื่องของแท็คติกในแต่ละเกม รวมถึงสภาพร่างกายของนักเตะ จอร์จินโญ่ ยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี เพียงแต่ว่าในฤดูกาล 2024-2025 บทบาทของเขากับทีมอาจจะไม่ต่างจากเดิมมาก แต่จำนวนเวลาในสนามจะเป็นการบ่งบอกเองว่าทีมมีทิศทางอย่างไร ขึ้นกับจำนวนการซื้อขายนักเตะในพื้นที่นี้ด้วย แต่แน่นอนว่า จอร์จินโญ่ อยู่ในแผนของทีมแต่จะตรงไหนเท่านั้น
ส่วนตัวผู้เขียนมองว่า จอร์จินโญ่ ไม่ใช่นักเตะระดับทั่ว ๆ ไป เขาคงไม่น่าพอใจในสถานะแบบที่เอลเนนี่ได้รับในปีนี้ และนั่นก็คงเป็นเรื่องดีกับทีมที่จะมีการแข่งขันกันหนักหน่วงในทุกพื้นที่ ทั้งคนหน้าเดิมที่อยู่ในทีม และ “หน้าใหม่” ที่จะมาถึงในตลาดหน้าร้อนนี้ เรียกว่าหากในสนามมองกันแบบเกมต่อเกม นักเตะส่วนมากก็มองกันแบบปีต่อปีเช่นกัน
ทั้งนี้ อาร์เซนอล ถูกคาดหมายว่าจะเข้าสู่ตลาดการซื้อขายเดือนสิงหาคม 2024 ด้วยเป้าหมายหลายราย พวกเขาอยู่ในสถานะของทีมลุ้นแชมป์ และเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางในฐานะของทีมระดับแชมเปี้ยนส์ ลีก นี่คือสิ่งที่พยายามกันมาตลอด 4 ปี ที่ผ่านมา และ เครดิตนี้ มิเคล อาร์เตต้า และทีมงานทุกคนสมควรได้รับการปรบมือชื่นชม แต่นี่เป็นเพียงแค่ทางผ่านเท่านั้น เพราะปลายทางคือการคว้าแชมป์ให้ได้เท่านั้นสำหรับทีมชุดนี้