สิ่งที่ ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0 ยังต้องปรับปรุงเพื่อไล่ล่าความสำเร็จ - OPINION

  • ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอกับ ลูตัน ในเกมลีกนัดล่าสุด
  • มีอย่างจุดที่ยังต้องปรับปรุง
  • เยอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีเวลาให้แก้ไข
Luton Town v Liverpool FC - Premier League
Luton Town v Liverpool FC - Premier League / Clive Rose/GettyImages
facebooktwitterreddit

ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำทัพของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานในเกมลีกนัดล่าสุด หลังทำได้แค่บุกไปตามตีเสมอ ลูตัน ทาวน์ 1-1 ที่สนาม เคนิล เวิร์ธ โรด เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

เมื่อมองในภาพรวมเห็นได้ชัดว่า นักเตะ ลิเวอร์พูล หลายคนพากันฟอร์มหลุดแบบไม่น่าเชื่อทั้งที่มีโอกาสครองบอลเหนือกว่าเจ้าบ้าน และมีโอกาสลุ้นทำประตูมากมาย แต่บรรดาพลพรรค “หงส์แดง” กลับไม่เด็ดขาดเอง

Darwin Nunez
Luton Town v Liverpool FC - Premier League / Clive Rose/GettyImages

ในเกมนี้ คล็อปป์ การตัดสินใจปรับการยืนแนวรับด้วยการส่ง โจ โกเมซ ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คซ้ายก่อน คอสตาส ซิมิกาส ฟูลแบ็คทีมชาติกรีซ ซึ่งดูเหมือนว่า เกมริมเส้นทางฝั่งซ้ายของ ลิเวอร์พูล ขาดความสมดุลไปอย่างสิ้นเชิง

เรื่องเกมรับ โกเมซ ทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่เจ้าตัวทำผลงานน่าผิดหวังอย่างมากในการเล่นเกมรุก โดย ดาวเตะวัย 26 ปี ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการเปิดบอลทางฝั่งซ้ายได้เลย และ คล็อปป์ ก็ต้องทบทวนอย่างหนักกับตำแหน่งแบ็คซ้ายในช่วงที่ แอนดรูว์ โรเบิร์สตสัน ไม่พร้อมลงสนาม

ขยับมาที่แผงกอลางกลาง โดมินิค โซบอสซ์ไล ที่โชว์ฟอร์มโดดเด่นมาตลอด กลับฟอร์มตกแบบไม่มีใครคาดคิด โดยเตะวัย 23 ปี ไม่สามารถสร้างสรรค์เกมได้เลย และแทบไม่ได้มีส่วนร่วมกับบรรดาแนวรุกเหมือนกับช่วงที่ผ่านมา

โซบอสซ์ไล อายุยังน้อย และเพิ่งย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก เป็นปีแรก ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่นักเตะต้องเจอวันที่ดี และวันที่แย่ โดยบทเรียนในครั้งนี้จะทำให้ มิดฟิลด์กัปตันทีมชาติฮังการี ไปปรับปรุง และพัฒนาตัวเองต่อไป

สำหรับในแนวรุก นับตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2023-2024 เป็นต้นมา ดูเหมือนว่า ดาร์วิน นูนเญซ  จะเรียความมั่นใจกลับมาคืนได้เหมือนสมัยที่เล่นให้กับ เบนฟิก้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมองจากตัวเลขที่ยิงไป 7 ประตู จาก 15 เกมรวมทุกรายการ

อย่างไรก็ตาม ดาวยิงวัย 24 ปี ยังแสดงให้เห็นถึงการเป็นกองหน้าที่ใช้โอกาสเปลืองเหมือนเดิม โดยเกมกับ ลูตัน นั้น เจ้าตัวมีโอกาสับไกยิงประตูมากถึง 9 ครั้ง แต่เขายิงตรงกรอบเพียงแค่ 3 ครั้ง และพลาดโอกาสจ่อๆในช่วงครึ่งหลังแบบไม่น่าเชื่อ

Juergen Klopp, Luis Diaz, Anthony Taylor
Luton Town v Liverpool FC - Premier League / Clive Rose/GettyImages

แน่นอนว่า ผลลัพธ์ในเกมกับ ลูตัน มันไม่ใช่เรื่องที่ดีหาก ลิเวอร์พูล ยังหวังลุ้นแชมป์ แต่มันยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0 ในมือ คล็อปป์ ที่ นั้นเป็นทีมที่ดีพอจะท้าทายตำแหน่งแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ หรือ อาร์เซนอล

11 เกมใน พรีเมียร์ลีก ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้น่าพอใจด้วยการอยู่กลุ่มผู้นำมาตลอดโดยไม่โดนทิ้งห่างไปมากนัก และการเสมอกับ ลูตัน ในเกมล่าสุดเรียกได้ว่า มันยังมีมุมมองที่ดีอยู่บ้างคือ ทำให้ คล็อปป์ และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชได้เห็นปัญหา และข้อบกพร่องของทีมชัดเจนมากขึ้น

ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 3 ในตารางคะแนนด้วยการเก็บไป 24 แต้ม โดยตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงเพียง 3 คะแนน เท่านั้น และในอีก 2 เกมถัดไป พวกเขาก็ต้องเจองานยากในการเปิด แอนฟิลด์ รอรับการมาเยือนของ เบรนท์ฟอร์ด ต่อด้วยบุกไปเยือน “เรือใบสีฟ้า” หลังเบรกทีมชาติ

คล็อปป์ ยังมีเวลามากพอที่จะปรับจูน ลิเวอร์พูล เวอร์ชั่น 2.0 ต่อไปให้เข้าที่เข้าทาง ซึ่งหากผ่านเกมบุกไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ได้แบบไม่ปราชัยกลับออกมา นั้น บางทีพลพรรค “หงส์แดง” ก็อาจกลายเป็นม้ามืดที่ได้ลุ้นแชมป์ไปจนถึงท้ายซีซันก็เป็นได้