ชัยชนะสุดดราม่าของ ลิเวอร์พูล ที่สร้างความมั่นใจในการเดินหน้าลุ้นแชมป์ - OPINION
- ลิเวอร์พูล บุกไปเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แบบหืดจับ
- เยอร์เก้น คล็อปป์ แสดงให้เห็นถึงการเป็นสุดยอดกุนซือ
- “หงส์แดง” เล่นด้วยความอดทนและจบลงด้วย 3 คะแนน
โดย Navapun Munarsa
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน สร้างผลงานสุดดราม่าอีกครั้งหลังบุกไปเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ถึงสนาม ซิตี้ กราวด์ แบบหืดจับ1-0 ในนาทีสุดท้ายของครึ่งหลังของเกมลีกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในเกมนี้บรรดาผู้เล่น ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับความอึดอัดกับเกมรับที่เหนียวแน่นอนของ ฟอเรสต์ แต่พลพรรค “หงส์แดง” ก็เล่นอย่างอดทน และสามารถเก็บ 3 คะแนนกลับออกมาได้ ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งนัดในความทรงจำของสาวก “เดอะ ค็อป” เลยก็ว่าได้
ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น ลิเวอร์พูล ต้องเจอปัญหาผู้เล่นตัวหลักหลายรายที่ไม่พร้อมลงสนามอาทิ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อลิสซอน เบ็คเกอร์, ไรอัน กราเฟนแบร์ช, ดิโอโก โชต้า, เคอร์ติส โจนส์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ขณะที่ ดาร์วิน นูเนซ, วาตารุ เอนโด และ โดมินิค โซบอสซ์ไล ก็มีรายชื่อเป็นตัวสำรองเท่านั้น
คล็อปป์ ต้องเจอปัญหานักเตะบาดเจ็บอย่างต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา แต่เกมนี้ โค้ชวัย 56 ปี แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า สามารถบริหารจัดการทีมได้อย่างสมดุล และชัยชนะนัดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ ลิเวอร์พูล ได้รับสามแต้มสำคัญ เท่านั้น แต่มันยังทำให้พวกเขามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขณะเดียวกัน หนี่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล พบกับชัยชนะคือ ฟอร์มระดับมาสเตอร์คลาสของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งเป็นคนแอสซิสต์ให้กับ ดาร์วิน นูนเญซ โขกประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลัง
ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ยืนปักหลักในแดนกลางได้อย่างน่าประทับใจ และตลอดทั้งเกมเจ้าตัวทำสถิติจ่ายบอลสำเร็จ 57 ครั้ง สร้างสรรค์โอกาสไ 6 ครั้ง สกัดบอล 5 ครั้ง และเอาชนะการดวล 11 ครั้ง และการที่ ลิเวอร์พูล ได้ตัวมาจาก ไบรท์ตัน ในราคาเพียง 35 ล้านปอนด์ นั้น มันเกินคำว่าคุ้มค่าไปเรียบร้อยแล้ว
อีกส่วนหนึ่งที่สมควรได้รับเครดิตของบรรดาแนวรับของ ลิเวอร์พูล อย่าง ควีวีน เคลเลเฮอร์ นายทวารมือ 2 ที่โชว์ฟอร์มซุเปอร์เซฟจังหวะสำคัญได้หลายครั้ง ขณะที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และ อิบราฮิมา โคนาเต้ ยังปักหลักคู่กันได้อย่างแข็งแกร่ง แลไม่มีข้อผิดพลาดเลยตลอดเกม
ขณะที่ บ๊อบบี้ คลาร์ก และ โจ โกเมซ ก็เป็นอีก 2 คนที่ควรได้รับคำชม โดย คลาร์ก วัย 19 ปี ลงเป็นตัวจริงในเกม พรีเมียร์ลีก ครั้งแรก ขณะที่ โกเมซ ก็ต้องขยับจากกองหลังขึ้นมายืนเป็นกองกลางตัวรับ และทั้งคู่ก็ทุ่มเทช่วยทีมอย่างเต็มที่
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ นูนเญซ คนยิงประตูชัยที่ก่อนหน้านี้โดนวิพากย์วาจารณ์มาตลอด แต่เกมนี้ ดาวยิงชาวอุรุกวัย วัย 24 ปี แสดงให้เห็นแล้วว่า กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก
ลิเวอร์พูล ของ คล็อปป์ ยังคงเดินหน้าเก็บ 3 คะแนนต่อไปในวันที่สภาพทีมไม่สมบูรณ์ และขาดนักเตะตัวหลักมากมาย และดูเหมือนว่า พวกเขายังไม่มีวี่แววที่จะผ่อนคันเร่งง่ายๆอีกด้วย