เกมแห่งความผิดพลาดของ ลิเวอร์พูล ที่อาจส่งผลต่อตำแหน่งจ่าฝูงในอนาคต - OPINION
- ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย อาร์เซนอล ขาดลอย 3-1
- นักเตะ “หงส์แดง” โชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง
- เยอร์เก้น คล็อปป์ ต้องพาทีมกลับมาให้เร็วที่สุด
โดย Navapun Munarsa
ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ต้องเจอกับความปราชัยนัดที่ 2 ในฤดูกาลนี้เรียบร้อยแล้ว หลังทำโชว์ฟอร์มต่ำกว่ามาตรฐานบุกไปโดน อาร์เซนอล ไล่ถล่มแบบหมดรูป 3-1 ในเกมลีกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ในเกมนี้นักเตะ ลิเวอร์พูล ทำผลงานต่ำกว่ามาตรฐานกันแทบทุกคน และแสดงให้เห็นถึงความผิดพลาดแทบตลอดทั้ง 90 นาที ซึ่งเรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งนัดที่น่าผิดหวังที่สุดของพลพรรค “หงส์แดง” ในซีซัน 2023-2024 เลยก็ว่าได้
ภาพรวมตลอดทั้งเกมเห็นได้ชัดเจนว่า บรรดาแนวรุก ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเจาะแนวรับ อาร์เซนอล ได้เลย และประตูที่ได้เกิดจากความผิดพลาดของ กาเบรียล มากัลเญส กองหลังเจ้าบ้านที่ที่ทำเข้าประตูตัวเองก่อนหมดครึ่งแรก
โคดี กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ และ ดิโอโก โชตา 3 กองหน้า ลิเวอร์พูล บวกกับมิดฟิลด์ตัวทำเกมอีก 2 คนอย่าง เคอร์ติส โจนส์ และ ไรอัน กราเฟนแบรช์ ไม่ได้ประสานงานร่วมกันมากนัก และไม่ได้สร้างความกดดันให้แนวรับ อาร์เซนอล ได้มากพอ
ขณะที่ นักเตะแดนหลัง ลิเวอร์พูล ก็ก่อความผิดพลาดแบบที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก โดยการเสียประตูที่ 2 อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารทีมชาติบราซิล และ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังกัปตันทีมชาวดัตช์ นั้น สื่อสารกันสับสน
ส่วน อิบราฮิมา โกนาเต้ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศส ก็ตัดสินใจพลาดจนใบแดงไล่ออกจากสนามในช่วงท้ายเกมจากการทำฟาวล์ ไค ฮาแวร์ตส์ กองกลาง อาร์เซนอล ที่บริเวณกลางสนาม ซึ่งจังหวะนั้น หลายคนมองว่า เจ้าตัวไม่ควรตัดเกมแบบนั้น
นอกจากฟอร์มที่ต่ำกว่ามาตรฐานของนักเตะ ลิเวอร์พูล แล้ว คล็อปป์ ก็อาจมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดในบางจุดเช่นกัน โดยเฉพาะการตัดสินใจเลือก โคดี กัคโป กองหน้าสารพัดประโยชน์ชาวดัตช์ลงสนามเป็น 11 คนแรกก่อน ดาร์วิน นูนเญซ ดาวยิงชาวอุรุกวัย
กัคโป มีโอกาสสับไกยิงเพียงครั้งเดียว และ จ่ายบอลสำเร็จ 6 ครั้ง จากทั้งหมด 11 ครั้ง โดยในภาพรวมก็แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก และก็ไม่น่าแปลกใจหาก คล็อปป์ จะคิดถึงการตัดสินใจของตัวเองหากส่ง นูนเญซ ลงเล่นก่อน แม้จะไม่ฟิตเต็มร้อยก็ตาม
ขุมกำลังของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ มีทั้งข่าวดี และข่าวร้าย เนื่องจาก 2 นักเตะอย่าง คอเนอร์ แบรดลีย์ และ โดมินิค โซบอสซ์ไล ไม่พร้อมลงสนาม ส่วน นูนเญซ ก็ไม่ฟิตเต็มร้อย แต่พวกเขาได้ ติอาโก อัลคันทารา กองกลางจอมเก๋าชาวสเปน ที่หายไปนานกว่า 10 เดือน กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นที่ ลิเวอร์พูล มีอยู่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ที่ย่ำแย่ในเกมนี้ได้เลย นูนเญซ ลงมาในนาทีที่ 58 แต่ก็ไม่มีส่วนร่วมกับเกม ขณะที่ ติอาโก ลงมาในช่วง 5 นาทีสุดท้าย และก็ยังจับจังหวะเกมไม่ได้ รวมทั้งยังส่งบอลพลาดอยู่หลายครั้ง
การพ่ายแพ้เกมนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล สุ่มเสี่ยงที่จะเสียตำแหน่งจ่าฝูง หลังจาก อาร์เซนอล ไล่ตามมาเหลือ 2 คะแนน และมีแต้มนำหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียง 5 คะแนน แต่แข่งมากกว่า 2 เกม ซึ่งทำให้ คล็อปป์ ต้องพาทีมกลับมาโดยเร็วที่สุดหากต้องการจะปิดฉากกับทีมแบบสวยหรูตามที่แฟน ๆ วาดฝันเอาไว้