ปัญหาเรื้อรังของ แมนยู และสิ่งที่ เอริก เทน ฮาก ต้องเผชิญ - OPINION

หลังจบเกม “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมทช์” ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปถล่ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ “เรือใบสีฟ้า” ให้สัมภาษณ์อย่างน่าสนใจว่า ทำไมทีมของตนถึงเหนือกว่า “ปีศาจแดง”

กวาร์ดิโอล่า พูดด้วยความเคารพต่อ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ของ แต่ก็แสดงให้เห็นในทางอ้อมว่า สถานการณ์ปัจจุบันคู่อริร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ นั้น กำลังมีปัญหาอย่างหนักทั้งใน และนอกสนาม

กวาร์ดิโอล่า กล่าวว่า “ผมพูดมาหลายครั้งแล้วว่า เรากำลังเดินไปในทิศทางเดียวกัน ประธานสโมสร, ซีอีโอ, ผู้อำนวยการด้านกีฬา, ผู้จัดการทีม และนักเตะ แน่นอนว่า เราเคยทำผิดพลาด แต่เมื่อเราแพ้หรือสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปด้วยดี เราไม่ได้ตำหนิใครสักคน เราแค่เห็นว่าเราต้องทำอะไรให้ดีขึ้น และหาทางแก้ไข”

“ในฤดูกาลแรกของผม เราไม่ได้แชมป์ ผมไม่เห็นว่า ประธานจะบ่นผมเลย เขาสนับสนุนผมโดยไม่มเงื่อนไข เมื่อเราแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ เชลซี ผมเสียใจมาก ประธานบอกกับผมว่า เอาน่า เราจะเดินไปด้วยกันเพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ เราต้องไปต่อ ลุยเลย”

“เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เราจะไม่ตื่นเต้นมากเกินไปเมื่อเราชนะ และเมื่อเราแพ้ เราจะไม่กังวลเกินไปนัก นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมคิดว่าสโมสรแห่งนี้มีความมั่นคงมาก”

ในทางตรงกันข้าม แมนฯ ยูไนเต็ด มีความไม่มั่นคงในหลายๆอย่าง อาทิ เจ้าของสโมสรกำลังจะขายทีม ขณะที่ เทน ฮาก ก็มีปัญหาความสัมพันธ์กับผู้เล่นบางราย และแฟนบอล “ปีศาจแดง” ก็เริ่มไม่พอใจผลงานที่ย่ำแย่

สถานการณ์ที่คลุมเครือของ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคอดีตกุนซืออย่าง หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ มูรินโญ, โอเล กุนนาร์ โซลชา, ราล์ฟ รังนิก มาจนถึง เทน ฮาก และดูเหมือนว่า มันจะยังไม่ได้รับการแก้ไขในเร็วๆนี้

รังนิก กล่าวว่า “สิ่งที่ชัดเจน ไม่เพียงแต่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แต่ยังรวมถึง ลิเวอร์พูล ด้วย คือ พวกเขามีความต่อเนื่อง และมีความสม่ำเสมอกับผู้จัดการทีมของพวกเขา พวกเขามีตัวตนที่ชัดเจนมาก และมีความคิดที่ชัดเจนว่า พวกเขาอยากเล่นฟุตบอลอย่างไร”

“แนวคิดนี้เป็นแนวทางสำคัญของทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในสโมสร เพราะนี่คือความลับเบื้องหลังความสำเร็จทั้งหมด และเป็นสิ่งที่สโมสรชั้นนำในยุโรปมี มันเป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จำเป็นต้องพัฒนา และปรับปรุงในอนาคต”

“คุณไม่จำเป็นต้องมีแว่นตาเพื่อดู และวิเคราะห์ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน การแก้ไขเล็กๆ น้อยๆ บางอย่างนั้นไม่เพียงพอ เพราะมันเหมือนการผ่าตัดหัวใจครั้งใหญ่”

มันชัดเจนว่า คำพูดของ รังนิก เป็นความจริงแทบทั้งหมด และเป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ โดยสิ่งที่พวกเขาทำได้คือ การหันกลับมาร่วมมือกันตั้งแต่ระดับประธานสโมสร, บอร์ดบริหาร, เทน ฮาก และนักเตะ ที่จะต้องพาทีมผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้