หรือนี่จะเป็นโอกาสทองของ แมนฯ ซิตี้ กับการคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยแรก ? - OPINION
โดย Navapun Munarsa
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำทัพของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดเทรนเนอร์ชาวสเปน ขยับเข้าไปใกล้อีกขั้นสำหรับการไล่ล่าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้ หลังพา “เรือใบสีฟ้า” เปิดบ้านไล่อัด แอร์เบ ไลป์ซิก จากเยอรมัน แบบขาดลอย 7-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เลก 2 เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปในเกมเลกแรก แมนฯ ซิตี้ บุกไปเสมอกับ ไลป์ซิก 1-1 ก่อนจะกลับมายิงคืนที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม 7 ประตู รวด ซึ่งทำให้พลพรรค “เรือใบสีฟ้า” เดินหน้าเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 8-2
ขณะเดียวกัน บรรดาทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, เชลซี, เอซี มิลาน และ เบนฟิก้า เป็น 4 สโมสรที่ผ่านเข้ารอบไปยืนรออยู่แล้ว โดย แมนฯ ซิตี้ ก็จูงมือ อินเตอร์ มิลาน ตามเข้าไปติด ๆ ส่วน นาโปลี ก็มีโอกาสสูงมาก และ เรอัล มาดริด ก็น่าจะเป็นอีกทีมที่เข้ารอบเกมเลกแรกบุกไปถล่ม ลิเวอร์พูล ที่สนาม แอนฟิลด์ แบบขาดลอย 5-2
คริส ซัตตัน อดีตหัวหอก เชลซี แสดงความคิดเห็นว่า “ฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลนี้มันแปลกมาก ๆ ถ้าคุณเดาว่าใครจะเป็นเต็งแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เราทุกคนคงไม่พูดถึง นาโปลี ในตอนนี้หรอกมั้ง แต่ผมคิดว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในจุดที่ดีที่สุด”
“โอกาสสำหรับ แมนฯ ซิตี้ มันเปิดกว้างมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และไม่มีทีมที่โดดเด่นจริงๆ เลยในปีนี้ ซึ่งหากเป็นฤดูกาลก่อนๆ ที่มันก็อาจจะแตกต่างออกไป”
เบน สมิธ กูรูฟุตบอลจาก นิวยอร์ค ไทมส์ กล่าวว่า “สำหรับผม เรอัล มาดริด, แมนฯ ซิตี้ และ บาเยิร์น คือ สามสโมสรมหาอำนาจที่เป็นตัวเต็ง พวกเขารู้ว่า ตัวเองเป็นสามสโมสรที่โดเด่น”
“ถ้าให้เลือก แมนฯ ซิตี้ น่าจะเป็นตัวเต็ง เพราะทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ไม่อยู่ในรายการนี้ ลิเวอร์พูล ก็ไม่น่าจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้ และ อาร์เซนอล ทีมที่ฟอร์มดีใน พรีเมียร์ลีก ก็ไม่ได้อยู่ในการแข่งขันรายการนี้เช่นเดียวกัน”
“มันไม่มีอะไรต้องกังวลเลยสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ผมคิดว่า นี่เป็นโอกาสที่ดีจริงๆ ของพวกเขาในการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดตลอดในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา”
แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์รายการใหญ่มาแล้ว 9 รายการ นับตั้งแต่ กวาร์ดิโอลา เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2016 แต่พวกเขาไม่เคยถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้แลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทำให้ กุนซือวัย 52 ปี ถูกตั้งคำถามว่า เขาจะทำให้ “เรือใบสีฟ้า” เป็นเจ้ายุโรปได้หรือไม่
กวาร์ดิโอลา เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่ได้หมายความว่าผมเห็นด้วยกับมัน แต่แน่นอนว่าผมจะถูกตัดสินในเรื่องนั้น (คว้าแชมป์ยุโรป) ก่อนเกมแรกของผมในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก กับ แมนฯ ซิตี้ ผู้คนบอกว่าผมมาที่นี่เพื่อคว้าแชมป์ ผมได้เพียงแต่พูดว่า อะไรนะ ผมยังไม่เริ่มคิดแบบนั้นเลย แต่ผมยอมรับมันได้เมื่อเวลาผ่านไป และผมมจะไม่เปลี่ยนแปลงมัน”
ช่วงเวลาที่ใกล้เคียงที่สุดของ แมนฯ ซิตี้ เกิดขึ้นในปี 2021 ที่เข้าไปชิงชนะเลิศกับ เชลซี แต่น่าเสียดายที่ต้องพ่ายไปด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งหลังจากนั้น กวาร์ดิโอลา ก็ยังไม่สามารถพาพลพรรค “เรือใบสีฟ้า” เข้าสู้เกมชิงดำได้อีกเลย
เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ แมนฯ ซิตี้ กล่าวว่า “เรายังไม่ได้คว้าแชมป์ แต่เราทำได้ดีมากใน แชมเปี้ยนส์ลีก ผมรู้ว่าผู้คนยึดติดทุกอย่างไว้กับการคว้าชัยชนะเท่านั้น แต่ผมรู้สึกว่ามันมีสถานการณ์มากมายในเกมแบบนี้”
“มันมีบางเกมที่เราสมควรผ่านเข้ารอบ แต่ก็ไม่ผ่าน นี่คือช่วงเวลาในเกมที่สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้น แน่นอนว่าผมต้องการคว้าแชมป์ แต่ผมรู้ว่าตราบใดที่เราทำไม่สำเร็จ ผมจะมาที่นี่ และโดนถามคำถามเดิมๆ ต่ผมสบายดี เพราะรู้แล้ว่า ผู้คนตัดสินคุณจากเรื่องนั้น เราแค่พยายามชนะให้มากที่สุด และเป็นนทีมที่ดีที่สุดเท่าที่เราจะเป็นได้”
ไม่มีใครรู้ว่าตอนจบของซีซันนี้จะเป็นอย่างไร แต่สำหรับ แมนฯ ซิตี้ มันเป็นเป็นอีก 1 ปีที่พวกเขามีโอกาสดีในการคว้าแชมป์ยุโรปมาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้สำเร็จ