หรือใบแดงของ คาเซมิโร่ อาจไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายสำหรับ แมนยู ? - OPINION

Manchester United v Crystal Palace - Premier League
Manchester United v Crystal Palace - Premier League / Michael Regan/GettyImages
facebooktwitterreddit

การโดนแบนของ คาเซมิโร่ ทำให้เกิดความกังวลอย่างหนักให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากอิมแพ็คของเขาเมื่ออยู่ในสนาม ตั้งแต่ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา บรูโน่ แฟร์นานเดส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงคนละประตูให้ทีมปีศาจแดงนำห่าง

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อ แอนโทนี่ โดน เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ นักเตะทีมเยือนผลักจนกระเด็นออกนอกสนาม แน่นอนว่าสร้างความไม่พอใจแก่เหล่านักเตะเจ้าถิ่นอย่างมาก

และด้วยความเป็นเพื่อนร่วมชาติบวกกับการเป็นพี่ใหญ่ คนแรกที่ปรี่เข้าไปหา ชลุปป์ เลยก็คือ คาเซมิโร่ จากนั้นก็เกิดการชุลมุน ซึ่งจากภาพถ่ายทอดสดไม่รู้เลยว่าใครออกไม้ออกมือบ้าง

แต่หลังจากได้เห็นภาพช้า จังหวะที่ดูสะดุดตาที่สุดคงไม่พ้น คาเซมิโร่ ด้วยมุมกล้องที่เห็นชัด เหมือนกับว่ามิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนไปคว้าคอ วิลล์ ฮิวจ์ส ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแอคชั่นที่ดูไม่งามนัก

อันเดร มาร์ริเนอร์ เข้าไปเช็คที่จอมอนิเตอร์เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ด้วยตัวเอง ก่อนแจกใบแดงให้อดีตมิดฟิลด์ราชันชุดขาวแบบไม่ลังเล แม้มีข้อครหาว่าทำไม จอร์แดน อายิว ที่ไปคว้าคอ เฟร็ด ในแบบเดียวกันไม่โดนใบแดงเหมือนกันก็ตาม

ทันทีที่ปีศาจแดงเหลือผู้เล่น 10 คน แผนการของ เอริค เทน ฮาก ต้องรื้อใหม่หมด และเราคงได้เห็นแล้วว่าการขาด คาเซมิโร่ ทำให้แดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีปัญหาขนาดไหน แม้ว่าเกมนี้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ได้ประเดิมสนามลงเป็นตัวสำรองก็ตาม

อย่างไรก็ดีแม้ว่าหลายคนต่างกังวลกับการขาดหายไปของ คาเซมิโร่ ในอีก 3 เกมข้างหน้า แต่เชื่อว่ามันยังมีข้อดีบางประการที่คิดว่าคงทำให้แฟนบอลปีศาจแดงได้หายห่วงไปบ้าง

1. ได้เวลาคู่หู ซาบิตเซอร์ + เฟร็ด

Marcel Sabitzer
Manchester United v Crystal Palace - Premier League / Alex Livesey/GettyImages

การย้ายเข้ามาของ ซาบิตเซอร์ เหมือนถูกช่วงเวลา เพราะตอนแรกเขาถูกดึงเข้ามาแทนที่ คริสเตียน อีริคเซ่น ซึ่งเจ็บยาว แต่ตอนนี้สถานการณ์บังคับ กลายเป็นว่ามิดฟิลด์ชาวออสเตรียอาจได้ลงตัวจริงเร็วขึ้น เพื่อทดแทน คาเซมิโร่

ซาบิตเซอร์ ลงเป็นตัวสำรองในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมที่ชนะ พาเลซ และผลงานของเขาก็ไม่ได้แย่เลย มีจังหวะเข้าสกัดคู่แข่ง รวมถึงการสร้างสรรค์โอกาส โดยเฉพาะการสกัด อัลเบิร์ต แซมบี้ โลคองก้า แล้วจ่ายเร็วให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด เตรียมสวนกลับ เป็นพาร์ทที่น่าสนใจทีเดียว แม้ว่าผู้ตัดสินเป่าฟาวล์แบบน่ากังขาก็ตาม

เราได้เห็นการจับคู่กันของ ซาบิตเซอร์ และ เฟร็ด ในแดนกลาง ซึ่งแม้ว่าดูมีปัญหาเล็กน้อย แต่อย่าลืมว่านี่เป็นการเล่นร่วมกันครั้งแรกของพวกเขา แต่ทั้งสองเป็นประเภทมิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์ที่พร้อมวิ่งสู้ฟัดตลอดทั้งเกม ซึ่งมันน่าสนใจมาก ๆ กับ 3 เกมต่อจากนี้

เฟร็ด เป็นกองกลางมดงานที่แม้ว่าเกมรับอาจไม่ได้ดีเลิศเลอ แต่เขาเป็นประเภทที่สร้างความรำคาญให้คู่แข่งได้ เพราะชอบตอดเล็กตอดน้อยไม่ให้คู่แข่งได้เล่นง่าย และอีกหนึ่งจุดเด่นของเจ้าตัวในช่วงหลังคือการสอดขึ้นไปยิงประตูที่เราได้เห็นบ่อย ๆ เช่นเดียวกับเกมล่าสุด

ซาบิตเซอร์ เองจัดเป็นมิดฟิลด์พลังไดนาโม และมีลูกยิงไกลเป็นอาวุธ มันน่าติดตามไม่น้อยเมื่อได้เห็นการสลับขึ้นลงของคู่หูนี้

2. ดัน วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ เล่นกลางรับ

Victor Lindelöf
Manchester United v Reading: Emirates FA Cup Fourth Round / Visionhaus/GettyImages

เทน ฮาก ไม่มีปัญหาเรื่องตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค เพราะ 4 ตัวเลือกที่มีอยู่ต่างฟิตพร้อมทั้งหมด และเราได้เห็นว่าเฮดโค้ชชาวดัตช์ทดลองให้ ลินเดเลิฟ เล่นกลางรับในเกมคาราบาว คัพ ที่เอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เมื่อกลางสัปดาห์

การทดลองดังกล่าวอาจถูกนำมาใช้อย่างจริงจังในช่วงที่ คาเซมิโร่ ไม่อยู่ ถ้าหาก เทน ฮาก มองว่าการใช้มิดฟิลด์บ็อกซ์ทูบ็อกซ์สองตัวมาจับคู่อาจทำลายความสมดุลของทีม เพราะงั้นการมีกลางรับหรือตัวรับจ๋า ๆ มาเล่นในตำแหน่งนั้นอาจสบายใจกว่า

ที่จริง ลินเดเลิฟ ลงเล่นในตำแหน่งกลางรับสมัยเป็นนักเตะเยาวชนของ เบนฟิก้า ก่อนถูกดันเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค เพราะงั้นเขาจึงเข้าใจการเล่นในตำแหน่งนี้เป็นอย่างดี

เทน ฮาก อาจให้ ลินเดเลิฟ เป็นกลางรับ แล้วจับคู่กับ เฟร็ด หรือ ซาบิตเซอร์ คนใดคนหนึ่งก็ได้ใน 3 เกมต่อจากนี้ โดยมี บรูโน่ คอยปั้นเกมตามถนัด

3. คู่แข่ง 3 นัดต่อจากนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก

Erik ten Hag
Leicester City v Manchester United - Premier League / James Williamson - AMA/GettyImages

แมนฯ ยูไนเต็ด จะเจอกับ 2 ทีมใน 3 นัดต่อจากนี้ พวกเขาจะเปิดบ้านพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในศึกพรีเมียร์ลีก วันที่ 8 กุมภาพันธ์ แล้วต้องไปเยือนทัพยูงทองในวันที่ 12 ก่อนปิดท้ายด้วยการเปิดรังดวล เลสเตอร์ ซิตี้ วันที่ 19 จากนั้น คาเซมิโร่ ก็พ้นโทษแบน

ลีดส์ ตอนนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมพวกเขาเสียกองหน้าคนสำคัญอย่าง โรดริโก้ โมเรโน่ ที่บาดเจ็บด้วย ทีมของ เจสซี่ มาร์ช กำลังลุ้นหนีตกชั้น และสถิติที่ผ่านมาในการเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นรอง เพราะงั้นเชื่อว่า 2 เกมที่ทั้งสองทีมเจอกัน จะเป็นปีศาจแดงเก็บชัยชนะในท้ายที่สุด

ทีมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อาจต้องระวังหน่อยคงเป็น เลสเตอร์ เพราะหลังจากได้ข่าวดีที่ปลดหนี้สโมสรสำเร็จ เหมือนนักเตะคึกเป็นม้า ส่วนแข้งใหม่ก็เสริมได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าเข้ากับเพื่อน ๆ ที่มีอยู่ได้อย่างลงตัว

พวกเขาเพิ่งบุกพลิกชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2 โดยมีปีกตัวจี๊ดตัวใหม่อย่าง เตเต้ เป็นตัวอันตราย บวกกับ เจมส์ แมดดิสัน ที่ร่างกายเต็มร้อยก็น่ากลัวทีเดียว เพราะงั้นหากปีศาจแดงจะทำแต้มหล่นได้ ก็น่าจะเป็นการเจอทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เพราะช่วงหลังเหมือนเป็นของแสลง


กระนั้นยังต้องติดตามกันต่อไปว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะยื่นอุทธรณ์ใบแดงของ คาเซมิโร่ หรือไม่ เพราะถ้าอุทธรณ์ผ่าน เขาก็อาจกลับมาเร็วกว่ากำหนด


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด