ปัญหาฟอร์มฝืดของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ส่งผลกระทบถึงแนวรุก แมนยู - OPINION
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นฤดูกาลน่าผิดหวัง
- มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟอร์มตกจากปีที่แล้ว
- เอริก เทน ฮาก กำลังเจอปัญหาแนวรุก
โดย Navapun Munarsa
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แหง่ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เอริก เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ กำลังเผชิญกับการเริ่มต้นฤดูกาลที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 1989-90 หลังจากต้องพบกับความพ่ายแพ้ไปแล้วถึง 4 จาก 7 เกมที่ลงสนามในลีก
หลายคนมองว่า ส่วนหนึ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานไม่ดีนั้น มาจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ซึ่งฟอร์มร้อนแรงเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ด้วยการซัดไปถึง 30 ประตู จาก 56 เกมรวมทุกรายการ แต่กลับไม่สามารถต่อยอดมาถึงซีซัน 2023-24 ได้ หลังจากซัดไปเพียงลูกเดียวจาก 9 เกมรวมทุกรายการ
แรชฟอร์ด เพิ่งกลายเป็นนักเตะที่มีรายได้สูงสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยรับค่าเหนื่อยจำนวน 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ หลังจรดปากกาต่อสัญญาฉบับใหม่เป็นระยะเวลา 5 ปี เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ฟอร์มการเล่นในเวลานี้ของเจ้าตัวมันไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคาดหวัง
ปัญหาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ชัดเจนที่สุดคือ ไม่สามารถหาคนมายิงประตูแทนที่ แรชฟอร์ด ได้ในช่วงที่เขาฟอร์มตก โดยดาวยิงวัย 25 ปี ก็ไม่ใช่กองหน้าที่ยิงประตูแบบถล่มทลายแทบทุกซีซันอยู่แล้ว และมักจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เสมอ
หลังกลับมาจากการรับใช้ทีมชาติอังกฤษในศึก ฟุตบอลโลก 2022 เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา แรชฟอร์ด มีสถิติสุดยอดด้วยการยิงได้ถึง 17 ประตู จาก 19 เกม รวมทุกรายการ ซึ่งเป็นผลงานที่ทำให้เจ้าตัวลืมฝันร้ายจากซีซัน 2021-22 ที่ยิงไปเพียง 5 ประตู จาก 32 เกม
หากย้อนหลับไป 22 เกมหลังสุดในทุกรายการ แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายแพ้ไปถึง 9 เกม เสมอ 1 เกม และชนะ 12 เกม ขณะที่ผลงานของ แรชฟอร์ด ตลอด 25 เกมล่าสุด ยิงได้แค่ 5 ลูก โดยตัวเลขดังกล่าแสดงให้เห็นว่า ทีมของ เทน ฮาก กำลังเจอปัญหา
ฤดูกาลที่แล้ว ความเหนื่อยล้าอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฟอร์มของ แรชฟอร์ด ถดถอยลงไปในช่วงท้ายซีซัน หลังจากไปช่วยอังกฤษในรายการ ฟุตบอลโลก ซึ่งหลายๆคนก็ไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของเจ้าตัวมากนัก
แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังได้รับผลกระทบอย่าหนักจากฟอร์มของ แรชฟอร์ด รวมไปถึงปัญหาทางวินัยจากบรรดาแผงแนวรุกอย่าง จาดอน ซานโช่ ที่โดนตัดชื่อออกจากทีมไปแล้ว ขณะที่ แอนโทนี่ ก็ถูกพักงานชั่วคราวหลังพัวพันกับคดีทำร้ายร่างกาย
นอกจากนี้ นักเตะใหม่อย่าง เมสัน เมาท์ กองกลางชาวอังกฤษ และ ราสมุส ฮอจลุนด์ ดาวยิงทีมชาติเดนมาร์ก ที่เพิ่งย้ายเข้ามาต่างก็โชคร้ายได้รับบาดเจ็บจนต้องพักไปหลายสัปดาห์ ซึ่งทำให้ขาดความต่อเนื่องในการลงสนาม และขาดความเข้าใจในแท็คติคการเล่น
ขณะเดียวกัน เทน ฮาก กล่าวถึง แรชฟอร์ด หลังเกมพ่ายแพ้ต่อ คริสตัล พาเลซ คาสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด 0-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า “เขารู้ว่าเขาสามารถทำได้ดีกว่าตอนนี้ ทุกคนในทีมต้องช่วยเหลือกันและกัน และต้องทำงานหนักเพื่อกันและกัน”
เมื่อ แรชฟอร์ด อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม มันก็ส่งผลทำให้แนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไหลลื่น และมีความอันตรายมากยิ่งขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามเมื่อฟอร์มการเล่นไม่เหมือนเดิม ทีมของ เทน ฮาก ก็ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อเอาชนะคู่แข่ง
มันเป็นปัญหาของทั้ง แรชฟอร์ด และ เทน ฮาก ที่ต้องเรียกความมั่นใจ และความเฉียบขาดกลับมาอีกครั้ง และหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เชื่อได้ว่า ความกดดันจะยิ่งถาโถมเข้ามาใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่างแน่นอน