หรือนี่คือเหตุผลที่ จู๊ด เบลลิงแฮม ตัดสินใจเลือก เรอัล มาดริด มากกว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล - OPINION

VfL Bochum 1848 v Borussia Dortmund - Bundesliga
VfL Bochum 1848 v Borussia Dortmund - Bundesliga / Lars Baron/GettyImages
facebooktwitterreddit

มันเป็นเวลาหลายทศวรรษที่ เรอัล มาดริด สโมสรดังแห่งศึก ลา ลีกา สเปน มีชื่อเสียงในด้านการสร้างทีมรวมดารานักฟุตบอลระดับโลกค่าตัวแพง หรือที่เรารู้จักกันว่า “กาแลกติกอส” และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สนาม ซานติอาโก เบอร์นาบิว เป็นจุดหมายปลายทางของผู้เล่นหลายๆคน

นโยบายการซื้อซุเปอร์สตาร์ของ มาดริด เริ่มขึ้นในปี 2000 หลังจาก ฟลอเรนติโน เปเรซ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานสโมสร โดยเริ่มจากการกระชาก หลุยส์ ฟิโก ผู้เล่นที่ดีที่สุด และเป็นสัญลักษณ์ของคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บาร์เซโลน่า เข้ามาร่วมทีม

Ronaldo, Zinedine Zidane, Luis Figo, Ivan Helguera
Spanish club team Real Madrid midfielder Luis Figo / TOSHIFUMI KITAMURA/GettyImages

หลังจากนั้น บรรดานักเตะระดับท็อปอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, โรนัลโด้, เดวิด เบ็คแฮม, ไมเคิล โอเว่น และ โรบินโญ่ ต่างก็ทยอยกันเดินเข้ามายังทัพ “ราชันชุดขาว” เพื่อผนึกกำลังกับ ราอูล กอนซาเลซ, กูตี รวมถึง โรแบร์โต้ คาร์ลอส

ในปี 2009 เปเรซ กลับมาดำรงตำแหน่งประธานสโมสร มาดริด อีกครั้ง และก็ยังคงนโยบายเดิมด้วยการเดินเครื่องล่าตัว คริสเตียโน โรนัลโด้, กาก้า, แกเร็ธ เบล และ ฮาเมส โรดริเกซ เข้ามาร่วมทีม พร้อมกับกวาดความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่

อย่างไรก็ตาม ในยุคหลัง โปรเจคต์ “กาแลกติกอส” ได้ยุติลงไปแล้ว และ มาดริด เปลี่ยนนโยบายไปอย่างสิ้นเชิงด้วยการมองหานักเตะดาวรุ่งมากพรสวรรค์จากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาเสริมทัพ พร้อมกับสร้างทีมแห่งอนาคต

การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ มาดริด เริ่มมาจากความคิดของ เปเรซ และมือขวาที่รู้ใจอย่าง โฮเซ่ อังเคล ซานเชซ และดำเนินการโดย จูนี คาลาฟัต หัวหน้าแมวมองของสโมสร โดยจุดประสงค์หลักคือ การปรับแนวทางการใช้เงินให้สมเหตุสมผลมากขึ้น

แม้ในช่วงหลัง มาดริด จะมองมาที่นักเตะอายุน้อยเป็นหลัก แต่ในบางกรณีพวกเขาก็มีข้อยกเว้น อาทิ การทุ่มเงิน 100 ล้านปอนด์ คว้าตัว เอเด็น อาซาร์ มาจาก เชลซี  เมื่อปี 2019 และการล่าลายเซ็นของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

Vinicius Junior, Rodrygo Goes
Real Madrid CF v CA Osasuna - Copa del Rey Final / Eurasia Sport Images/GettyImages

ดีลสำคัญครั้งแรกภายใต้นโยบายใหม่ของ มาดริด เกิดขึ้นในปี 2017 เมื่อพวกเขาทุ่มเงิน 46 ล้านยูโร คว้าตัว ปีกชาวบราซิล วัย 16 ปี มาร่วมทีม และจะย้ายมาเล่นอย่างทางการเมื่ออายุครบ 18 ปี ซึ่งผู้เล่นคนนั้นคือ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ปัจจุบันเป็นหนึ่งในแนวรุกที่ระดับท็อปของโลก

หลังจากนั้น บรรดาดาวรุ่งจากอเมริกาใต้อย่าง เฟเดริโก บัลเบร์เด้ กองกลางชาวอุรุกวัย และ โรดรีโก ปีกชาวบราซิล ก็ย้ายตามเข้ามา ซึ่งตอนนี้ทั้ง บัลเบร์เด้ และ โรดรีโก ก็กลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมชุดแรกไปเรียบร้อยแล้ว

มาดริด ยังคงเดินหน้านโยบายใหม่อย่างต่อเนื่อง และคราวนี้เป็นการมองหานักเตะวันเดอร์คิดจากยุโรป โดยทัพ “ราชันชุดขาว” จ่ายเงิน 40 ล้านยูโร คว้าตัว เอดูอาร์โด้ คามาแว็งก้า มิดฟิลด์วัย 21 ปี มาจาก แรนส์ เมื่อปี 2021 และปีต่อมาก็ทุ่มเงิน 80 ล้านยูโร คว้าตัว โอเรเลียง ชูอาเมนี กองกลางวัย 22 ปี มาจาก โมนาโก

ในซัมเมอร์นี้ มาดริด ยังคงยึดแนวทางเดิมของตัวเอง และวาง จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางทีมชาติอังกฤษของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เป็นเป้าหมายลำดับแรก โดยดาวเตะวัย 19 ปี เคยลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ “เสือเหลือง” มาแล้วเกือบ 200 นัด และติดทีมชาติไปแล้ว 24 เกม รวมถึงได้รับความสนใจจาก ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใน พรีเมียร์ลีก อีกด้วย

 มาดริด มีความตั้งใจที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาพร้อมให้โอกาสนักเตะอายุน้อยได้ประสบความสำเร็จในการเล่นฟุตบอลระดับสูงสุด และทำให้ ซานติอาโก เบร์นาบิว กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับผู้เล่นดาวรุ่ง

หากไม่มีอไรผิดพลาด เบลลิงแฮม จะกลายเป็นนักเตะใหม่ของ มาดริด ในเร็วๆนี้ ซึ่งมิดฟิลด์ดาวรุ่งเลือดผู้ดี ถูกวางไว้เป็นตัวแทนของ ลูก้า โมดริช ที่จะอายุครบ 38 ปีในช่วงต้นฤดูกาลหน้า และ โทนี่ โครส ที่อยู่ในวัยมากถึง 33 ปีแล้ว  

แผงมิดฟิลด์ของ มาดริด ไม่น่าเป็นกังวลอีกแล้ว เบลลิงแฮม จะได้เข้ามาเล่นร่วมกับ บัลเบร์เด้, คามาแว็งก้า และ ชูเอมานี ส่วนแนวรุก “ราชันชุดขาว” วางแผนอนาคตไว้เรียบร้อยแล้วด้วยการเซ็นสัญญากับ เอ็นดริค ดาวรุ่งชาวบราซิลวัย 16 ปี จาก พัลไมรัส ที่จะย้ายมาเล่นอย่างเป็นทางการในปี 2024

เมื่อพิจารณาถึงกลยุทธ์การสร้างทีมของ มาดริด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั้น การที่ เบลลิงแฮม ตัดสินใจย้ายสู่ถิ่น ซานติอาโก เบร์นาบิว ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง และเขาอาจไม่มีโอกาสดีไปกว่านี้ในการ "ก้าวกระโดด" ขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก