แดงเดือดจากมุมมองแฟนบอลทีมอื่นคนหนึ่ง - OPINION

Manchester United v Liverpool FC - Premier League
Manchester United v Liverpool FC - Premier League / Clive Brunskill/GettyImages
facebooktwitterreddit

เอริค เทน ฮาก ค้นพบกับชัยชนะเกมแรกในพรีเมียร์ ลีก แล้วในฐานะผู้จัดการทีม และมันจะเป็นสามคะแนนในความทรงจำของนายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างแน่นอน เจอกันสองครั้งในตำแหน่งงานใหม่ เทน ฮาก มีชัยเหนือ เยอร์เก้น คล็อปป์ทั้งสองครั้ง

เป็นเกมแรกในรอบหลายปีที่ผู้เขียนตั้งใจมากที่จะตื่นมารับชม หลายปีที่ผ่านมาความแตกต่างของทั้งสองทีมมีมากพอสมควร แต่มาวันนี้ก่อนเกมนี่คือแดงเดือดที่มีความดิ้นรนกระหายชัยชนะด้วยกันทั้งคู่ หลังการออกสตาร์ทเลวร้ายพอกันโดยเฉพาะเจ้าบ้าน ที่ได้ตัว คาเซมิโร่ มาเดินทักทายแฟนบอลเรียบร้อยแล้วก่อนเกม

Casemiro
Manchester United v Liverpool FC - Premier League / Michael Regan/GettyImages

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเลือก ลิซานโดร มาร์ติเนซ (24 ปี สัญญาถึงกลางปี 2027) เล่นเป็นกองหลังตัวกลาง แม้จะโดนปรามาสเรื่องความสูงของแนวรับคนนี้เอาไว้มากในสองเกมแรก โดยเลือกดรอป แฮร์รี่ แมคไกวร์ ไว้ข้างสนาม และวันนี้เขาทำให้เห็นถึงศักยภาพของตนเอง ทั้งความเร็วและ การเข้าบล็อคจังหวะสอง ทำได้อย่างโดดเด่นมาก อีกคนที่ดาบิด เด เคอา ที่เซฟชีวิตทีมไว้หลายครั้ง (อีกแล้ว) ส่วนแนวรุกวัยหนุ่มทั้งหลายจะบอกว่าดีมากก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่พวกเขาเล่นกันได้อย่างมีความมุ่งมั่นและมีแบบแผน

ส่วนตัวชอบบอลสวนกลับของเจ้าบ้าน แต่ที่ชอบกว่านั้นคือการเปลี่ยนจังหวะการโจมตีออกริมเส้นสองฝั่งที่หลายเพลย์สวยมากในครึ่งแรก รวมถึงประตูที่สองของเกมก็ทำได้สวย เกมนี้เห็นถึงแววตาอยากชนะออกมาจากผู้เล่น แม้จะทุลักทุเลท้าย ๆ เกม แต่ก็ได้ใจแฟนบอล พูดกันแบบง่าย ๆ คือนี่คือสิ่งทีแฟนบอลอยากเห็นอย่างแรกจากทีมตนเอง นั่นคือเรื่อง “ใจสู้” ที่วันกับ เบรนท์ฟอร์ด ไม่มีแบบนี้

Marcus Rashford
Manchester United v Liverpool FC - Premier League / Michael Regan/GettyImages

ลิเวอร์พูล ณ วันนี้ 75 นาทีของเกมให้ความรู้สึก “ไม่ดุดัน” แบบเก่าก่อน พวกเขาสร้างโอกาสได้เยอะตามสไตล์แต่กลับไม่เฉียบขาด การขาดหายไปของผู้เล่นหลายคน ทำให้เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีทางเลือกจะเปลี่ยนทีมอะไรได้แบบเต็มที่ หลายครั้งเราจะเห็นกุนซือเยอรมัน ออกมาปลุกเร้าทีมแต่ลูกทีมของเขาไม่ได้ดีขึ้นเลย จนกระทั่ง 15 นาทีสุดท้าย พวกเขาเริ่มได้โอกาส และมาได้ประตูแรกของทีม ซึ่งตามปกติทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น แต่มันก็ไม่ต่อเนื่อง และแย่กว่านั้นคือร้อนรนจนพลาดกันไปหลายจังหวะ

“ความไม่ชัดเจนไม่เคยให้ประโยชน์กับใครเลย” ลิเวอร์พูล วันนี้ให้ความรู้สึกแบบนั้น เกมบุกไม่สุดใจ เกมรับมีความกังวล ตัวเปลี่ยนก็จำกัด ตรงข้ามกับเจ้าบ้านที่พวกเขาชัดเจน เตรียมการบ้านมา และลูกทีมทำได้ตามสั่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ต่อก็สำรอง และเริ่มต้นสร้างทีมด้วยความเป็นทีมมาเป็นอันดับแรก 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ความหวังสูงสุดในแนวรุกยิงได้ในเกมนี้ แต่ใน 90 นาทีเขาเงียบกว่าปกติ เช่นเดียวกับแนวรุกคนอื่น เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ มีส่วนเต็มๆ กับการเสียประตูแรก ปีนี้สามเกมผ่านไปแนวรับดัตซ์ ไม่เข้าที่เข้าทางเลยโดยเฉพาะการตัดสินใจเคลื่อนที่ในจังหวะสำคัญที่เป็นจุดขายของเขามาตลอด แต่ท้ายเกม ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ลงสนามมาเด็กคนนี้ดูดีทีเดียว 

Mohamed Salah
Manchester United v Liverpool FC - Premier League / Michael Regan/GettyImages

สามคะแนนในเกมนี้ของเจ้าบ้านน่าจะส่งผลในแง่กำลังใจกันได้มาก เพราะได้ทั้งชัยชนะ และได้ส่งต่อความพ่ายแพ้ให้อริเบอร์หนึ่งไปรับช่วงต่อ ส่วนลิเวอร์พูล ตอนนี้กล้ำกลืนความผิดหวังกันไป และไปลงในสนามซ้อมกันให้หนัก 3 เกมได้ ยังไม่ชนะใคร และได้มา 2 คะแนน นี่ไม่ใช่มาตรฐานของพวกเขา และแน่นอน “รับไม่ได้ทุกกรณี” หากคุณคือทีมลุ้นแชมป์ 

เกมนี้ส่งให้อะไรหลายอย่างในตารางคะแนนเปลี่ยนไป ส่วนจะเป็น “จุดเปลี่ยน”หรือไม่คงต้องติดตามในวันที่ตลาดการซื้อขายกำลังจะเข้าสู่สัปดาห์สุดท้าย

ว่ากันว่า “ดาร์บี้แมตซ์” มักเป็นเกมที่อย่าไปแคร์ว่าเกมที่ผ่านมาทีมจะมีฟอร์มรุ่งเรือง หรือฉิบหายอย่างไรมาก่อน เพราะทุกอย่างวัดกันที่ 90 นาทีในสนาม เกมนี้แม้จะไม่ใช่เกมแห่งศักดิ์ศรีร่วมเมืองเดียวกัน แต่พวกเขาก็เกลียดขี้หน้ากันมากพอจนทำให้ความพ่ายแพ้คือการยัดเยียดความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายได้รุนแรง เจ็บช้ำไปตลอดจนกว่าจะพบกันในครั้งต่อไป

รอเอาคืนที่บ้านตัวเอง หรือรอย้ำแค้นถึงบ้านคู่อริ ไว้รอติดตามกัน


สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด