ซาบิตเซอร์ กับ แมนยู "รุ่ง หรือ ร่วง" ? - OPINION

การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่ง พรีเมียร์ลีก ประกาศยืมตัว มาร์เซล ซาบิตเซอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรียมาจาก บาเยิร์น มิวนิค ของ ในวันเดดไลน์ตลาดนักเตะรอบล่าสุดนั้น สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับหลายๆคนพอสมควร

เอริก เทน ฮาก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกบีบให้เข้าสู่ช่วงตลาดซื้อ-ขายในช่วงท้ายๆ หลังได้รับข่าวร้ายว่า คริสเตียน อิริคเซ่น จอมทัพชาวเดนมาร์ก ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าต้องพักอย่างน้อย 3 เดือน ซึ่งทำให้ต้องรีบเจรจรากับ ซาบิตเซอร์ ที่ติดตามดูฟอร์มมานานแล้ว

ทำไมดาวเตะทีมชาติออสเตรียวัย 28 ปีรายนี้ จึงถูกระบุว่าเป็นคนที่จะเติมเต็มช่องว่างในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และกองกลางตัวเลือกอันดับ 4 ของ บาเยิร์น จะทำผลงานได้ดีกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือไม่ วันนี้เราจะไปวิเคราะห์กัน

การย้ายทีมแบบยืมตัวของ ซาบิตเซอร์ เกิดขึ้นได้เพราะ จูเลียน นาเกลส์มันน์ ผู้จัดการทีม บาเยิร์น ต้องการปล่อยหนึ่งในกองกลางตัวสำรองของเขาไป หลังเป็นตัวเลือกรองจาก โยชัว คิมมิช, ลีออน โกเรทซ์ก้า และ จามาล มูเซียล่า

ขณะเดียวกัน การที่ บาเยิร์น กำลังจะได้ตัว คอนราด ไลเมอร์ กองกลาง แอร์เบ ไลป์ซิก มาร่วมทีมแบบฟรีๆในช่วงซัมเมอร์นี้ มันก็เป็นที่ชัดเจนว่า ซาบิตเซอร์ ไม่มีอนาคตกับ “เสือใต้” อีกแล้ว

ซาบิตเซอร์ ตั้งใจจะอยู่กับ บาเยิร์น จนจบฤดูกาล แต่เมื่อโอกาสจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เข้ามาก็รีบฉวยไว้ทันที โดยเจ้าตัวระบุว่า “บางครั้งในชีวิตคุณต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว และเจอการตัดสินใจครั้งสำคัญ จากช่วงเวลาที่ผมได้ยินเกี่ยวกับโอกาสนี้ ผมรู้ว่ามันเหมาะกับผม”

ซาบิตเซอร์ หนึ่งในมิดฟิลด์ระดับท็อปของยุโรป เขามีเทคนิค มีความเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ และเป็นมิดฟิดล์ที่เล่นเกมรุได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงสามารถเล่นได้หลากหลายบทบาทในแผงกองกลางทั้งการปักหลักหน้าแผงแนวรับ หรือไปยืนเป็นเพลย์เมคเกอร์หมายเลข 10

สมัยที่ยังเล่นกับ ไลป์ซิก นั้น ซาบิตเซอร์ ได้รับการจับตามองจากทีมงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด มานานแล้ว ก่อนจะได้มายังถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในที่สุด

ซาบิตเซอร์ ไม่ใช่คนจ่ายบอลระดับมาสเตอร์คลาส หรือสามารถเลี้ยงผ่านคู่แข่งได้บ่อยๆตลอดทั้งเกม แต่สิ่งที่เขาทำได้คือ การขับเคลื่อนเกม และช่วยทีมพาบอลออกมาจากสถานการณ์ที่คับขัน รวมถึงการแก้เพรสซิ่งจากฝ่ายตรงข้าม

อีริคเซ่น สามารถอ่านสนามได้ดีกว่า และเปิดแผลแนวรับคู่แข่งได้ดีกว่า ซาบิตเซอร์ แต่ดาวเตะทีมชาติออสเตรียก็มีพลังงานที่จะสามารถเคลื่อนที่ไปได้ทั่วทั้งสนาม และเล่นได้แทบทุกพื้นที่ของแดนกลาง ซึ่งทำให้ เทน ฮาก มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น

มันจะเป็นการทดสอบสำหรับทั้งตัว เทน ฮาก เอง และ ซาบิตเซอร์ ในการทำงานร่วมกันสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ว่า พวกเขาจะพา แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ไกลเพียงใด

ถึงแม้จะไม่ใช่ดีลที่สร้างความฮือฮา หรือเป็นข่าวตื่นเต้นมากมาย แต่สำหรับ ซาบิตเซอร์ ก็เป็นการตัดสินใจในนาทีสุดท้ายอย่างชาญฉลาดของ แมนฯ ยูไนเต็ด เพื่อแก้ปัญหาระยะสั้นที่ดีที่สุด ณ เวลานี้ และมีโอกาสสูงที่เขาจะพา “ปีศาจแดง” ประสบความสำเร็จ