Squad Depth ของ อาร์เซนอล และการเข้ามาของ มิเคล เมริโน่ - OPINION

  • อาร์เซนอล และ เรอัล โซเซียดาด กำลังจะสิ้นสุดมหากาพย์การย้ายทีมของกองกลางทีมชาติสเปน
  • นักเตะกำลังจะกลับมาสู่ พรีเมียร์ลีก อีกครั้งนับจากปี 2018 เป็นต้นมา
Mikel Merino of Spain celebrates during the ceremony after...
Mikel Merino of Spain celebrates during the ceremony after... / SOPA Images/GettyImages
facebooktwitterreddit

หลังจากที่พูดถึงการเข้ามาของ เมริโน่ มาหลายรอบ ณ เวลานี้แฟนบอล อาร์เซนอล ทั่วโลกต่างรอว่าทุกอย่างในดีลนี้จะจบลงเมื่อไร หลังจากราคาและรายละเอียดทุกอย่างดูจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว หวังในใจเหลือเกินว่าทุกอย่างจะจบลงภายในสุดสัปดาห์นี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าวันไหน ใครจะรู้เกมที่ วิลล่า พาร์ค วันเสาร์นี้เราอาจได้เห็นเขาอยู่ในสนามในฐานะผู้ชมเกมแล้วก็เป็นได้

ตัวเลข 32.5 ล้านปอนด์ นับเป็นราคาที่แพงไปเสียหน่อยในความเห็นของผู้เขียน หลังจากเริ่มต้นกันที่ประมาณ 20 ล้านปอนด์ แต่สุดท้ายมีอีก 12.5 ล้านปอนด์งอกขึ้นมา แลกมากับฟอร์มที่เด่นชัดในยูโร 2024 ของเจ้าตัว พร้อมกับโครงสร้างการจ่ายเงินแบบแบ่งชำระจำนวน 4 งวด (ตามข่าวโดยไม่ระบุว่าจบภายในกี่ปี) ซึ่งเป็นสิ่งที่ อาร์เซนอล ดูจะต้องการเพื่อบริหารตัวเลขบัญชี

Declan Rice, Jorginho - Soccer Midfielder - Born 1991
Wolverhampton Wanderers v Arsenal FC - Premier League / Visionhaus/GettyImages

แดนกลางหัวใจสำคัญของ ปืนใหญ่ !

4 ผู้เล่น แดนกลางในระบบ 4-3-3 หรือ 3-2-5 ของ อาร์เซนอล ที่มีทั้งดีแคลน ไรซ์ – โธมัส ปาเตย์ – จอร์จินโญ่ รวมถึง มิเคล เมริโน่ Squad Depth ในพื้นที่หมายเลข 6 และ 8 ของ ปืนใหญ่ ดูเป็นกลุ่มคนที่เข้มแข็งที่สุดในรอบหลายปี มีทั้งอายุน้อยพลังหนุ่ม ทั้งตัวเก๋ามากประสบการณ์ และมีความเป็นผู้นำในห้องแต่งตัว แต่ดีลของ เมริโน่ แน่นอนว่าไม่ใช่เพื่ออนาคต แต่เป็นการซื้อเพื่อยกระดับทีมในปัจจุบัน รวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเตรียมการผ่องถ่ายเลือดครั้งใหม่

หากมองตามหลักคิดการซื้อขายของ เอดู เรื่อง “อายุ - ผลงาน - ค่าแรง”

โธมัส ปาเตย์ กำลังจะหมดสัญญาลงในปีนี้ ซึ่งเจ้าตัวจะอายุครบ 32 ส่วนผลงานในปีนี้ยังตอบไม่ได้ แต่ปีที่แล้วเจ็บเกินครึ่งฤดูกาล และค่าแรงระดับ 200,000 ปอนด์ ดีลนี้เป็นดีลที่ไปต่อด้วยยาก หรืออาจจะมองว่าคือโค้งของโค้งสุดท้ายของอาชีพของเขาแล้วก็เป็นได้

จอร์จินโญ่ ได้สัญญาใหม่แบบ 1+1 ปี ปีนี้จบอายุครบ 33 ปี ผลงานปีที่แล้วมีส่วนร่วมค่อนข้างเยอะ และก็เป็นลูกหาบสำคัญในตำแหน่งเกมรับ มีเรื่องควาเป็นผู้นำในห้องแต่งตัว สัญญาดูตามผลงานแบบปีต่อปี

ดึแคลน ไรซ์ ชัดเจนว่ามาปีแรกก็กลายเป็นตัวหลักทันที สัญญาถึง 2028 ถ้ายังรักษามาตรฐานได้ ไม่เกินสองฤดูกาลได้ปรับปรุงสัญญากันใหม่แน่นอน

Thomas Partey
Arsenal v Olympique Lyonnais - Pre-Season Friendly / Catherine Ivill - AMA/GettyImages

ขณะที่ เมริโน่ ถูกคาดหวังว่าดึงตัวเข้ามาทำให้ทีมมีการหมุนเวียนทีมได้คล่องขึ้น จากปีที่แล้ว โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ไม่สม่ำเสมอพอ โธมัส ปาเตย์ บาดเจ็บพักนาน ส่วน ไค ฮาแวตซ์ แรกเริ่มเดิมทีจนถึงตรงนี้ การลงเล่นในพื้นที่หมายเลข 8 เขายังเป็นเพียงคน “เล่นได้” แต่ไม่ได้ “เล่นดี” เมื่อเทียบกับการยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า False 9 ที่เขาโดดเด่นจนเบียด กาเบรียล เชซุส และ เอ็ดดี้ เอนเคเธีย ไปนั่งสำรอง

ด้วยความที่สามารถเล่นได้ทั้งกองกลางตัวรับ หรือว่า Box to Box เขาตอบโจทย์ 2 ใน 3 ในหลักคิดของ เอดู อายุมากไปเสียหน่อย 28 ปี สัญญายาว 4 + 1 ปี หากฟอร์มดีสมราคาก็พอรับได้ ดีลนี้ซื้อมาเพื่อใช้ หลังจากนั้นจะขายออกหรือเลิกเล่นไว้ว่ากันเรื่องอนาคต แต่ถ้าเรื่องของผลงานมันประจักษ์ชัดด้วยแชมป์ยูโร 2024 กับทีมชาติสเปน ส่วนค่าแรงก็ไม่สูงนัก (ตามข้อมูลระบุว่ารับที่โซเซียดาดประมาณ 52,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์) ต่อให้มาที่ อาร์เซนอล รับคูณสองเท่าก็ประมาณ 100,000 ปอนด์ เป็นตัวเลขที่ ปืนใหญ่ ไม่ติดขัดจ่ายไหวแน่นอน

มองแล้วดีลนี้ อาร์เซนอล เลือกเพื่อเติมเต็มการโรเตชั่นให้สมบูรณ์แบบมากกว่าเดิม หลังจากปีที่แล้ว อาร์เซนอล ใช้ผู้เล่นประมาณ 18 คนที่ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่มีกลุ่มลงเล่นน้อยกว่า 10 เกมไป 4 คน และที่สำรองของสำรองรวมทั้ง ยูเรี่ยน ทิมเบอร์ ที่พักยาวในปีที่แล้วรวม 3 คน และไม่มีการดันดาวรุ่งที่ยืนระยะได้เลยแม้แต่คนเดียวในปีก่อน

Myles Lewis-Skelly, Ethan Nwaneri
Arsenal v Olympique Lyonnais - Pre-Season Friendly / Angel Martinez/GettyImages

มาปีนี้ หากปล่อยกลุ่มที่เหลืออีก 4 คนในช่วงไม่กี่วันสุดท้าของตลาดการซื้อขาย ทั้ง เอ็ดดี้ เอนเคเธีย, อารอน แรมสเดล, รีส เนลสัน และ คีแรน เทียร์นีย์ ออกได้ทั้งหมด เติมด้วย มิเคล เมริโน่ + นายทวารคนใหม่ที่จะมาแทนที่แรมสเดล อาร์เซนอล จะมีผู้เล่นในทีมเหลือประมาณ 22 -23 คน ไม่รวมกลุ่มดาวรุ่งที่ไม่ต้องลงทะเบียนอีก 2-3 คนที่ อาร์เตต้า ยืนยันเองแล้วว่า กลุ่มนี้ “ใช้งานได้” ไม่ว่าจะเป็น อีธาน เอนวาเนรี่, ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ หรือว่า เอเดน เฮเว่น ทีมก็จะมีขุมกำลังที่ครบเครื่องมากขึ้นในการใช้หมุนเวียน ขึ้นกับว่าการให้โอกาสลงเล่นจะมีสมดุลมากแค่ไหน และแน่นอนที่สุด อาการบาดเจ็บ + ฟอร์มการเล่น จะเป็นอย่างไรก็ต้องมาวัดกันที่หน้างานอีกครั้ง

ทั้งนี้ทั้งนั้นเป้าหมายคือ Squad Depth ต้องเกิดทั้งความสมดุลของจำนวน – คุณภาพในเชิงลึกของทีม และแน่นอนผลงานของทีมต้องเป็นไปตามเป้าหมายอย่างที่ต้องการ โดยมองช่วงเวลาที่เหลือในตลาดการซื้อขายรอบนี้ รอลุ้นการปล่อยออกให้จบ หวังเพิ่มเติมอีกสักดีลสำหรับผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์ ปีนี้ “ปืนใหญ่” น่าจะพร้อมแล้วสำหรับฤดูกาลใหม่นี้ แต่ก็นะ... อีกตั้ง 7 วันตลาดการซื้อขายจึงจะปิด น่าจะยังพอมีเวลาให้ได้ลุ้นอีกสักคนสองคนไหมนะ ?


อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม อาร์เซนอล ได้ที่นี่

feed