บททดสอบของ เอริก เทน ฮาก ที่ต้องพิสูจน์ตนเองอีกครั้งว่าคือคนที่ใช่สำหรับ แมนยู - OPINION
- เอริค เทน ฮาก เจอกับความท้าทายตั้งแต่เข้ามาคุม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- ในฤดูกาลนี้ทีมมีผลงานย่ำแย่
- “ปีศาจแดง” ได้ผู้ถือหุ้นรายใหม่
โดย Navapun Munarsa
นับตั้งแต่การให้สัมภาษณ์ที่ดุเดือดของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ไปจนถึงการทะเลาะวิวาทกับ จาดอน ซานโช่ ตลอดระยะเวลา 18 เดือนของ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ในการคุมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เต็มไปด้วยความท้าทาย
ขณะเดียวกัน ผลงานที่ไม่สม่ำเสมอของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ มันยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ เทน ฮาก ต้องแสดงให้ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ประธาน และซีอีโอของ Ineos ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ของสโมสรเห็นว่า มีความสามารถมากพอในการพา “ปีศาจแดง” ก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต
เมื่อต้นปี 2023 ก่อนที่ แรตคลิฟฟ์ จะยื่นข้อเสนอซื้อหุ้น แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรก กลุ่มแฟนบอลที่มีชื่อว่า Manchester United Supporters' Trust (Must) ออกแถลงการณ์สนับสนุนให้ เทน ฮาก อยู่กุมบังเหียนในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ต่อไป
Must ระบุว่า “ทุกคนสามารถเห็นความก้าวหน้าของทีมภายใต้การนำของ เอริค เทน ฮาก หลังจากความวุ่นวายในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่า ทีมมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่ ผู้ที่จะเข้าร่วมประมูลหุ้นของสโมสรจะต้องแสดงความมุ่งมั่นอย่างชัดเจนในการสนับสนุน เอริค และแผนการของเขาในการนำ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาสู่ความรุ่งโรจน์อีกครั้ง”
นั่นเป็นเวลากว่า 10 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังทำผลงานได้ดี และคว้าแชมป์ ลีก คัพ ได้ แต่ในฤดูกาล 2023-24 พวกเขาต้องเริ่มต้นด้วยการพ่ายแพ้ 14 นัด จาก 28 เกม รวมทุกรายการ และฝั่ง Must ก็ไม่ออกมาให้ความเห็นถึง เทน ฮาก อีกแล้ว
การตกรอบแบ่งกลุ่มในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงพ่ายแพ้ให้ทีมอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ในช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ทำให้เริ่มมีกระแกเรียกร้องให้ปลด เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งก่อนจบฤดูกาลนี้
ภาพรวมการบริหารงานของ แรตคลิฟฟ์ นั้น จะมอบหมายให้คนสนิทอย่าง เซอร์ เดฟ เบรลส์ฟอร์ด เข้ามารับหน้าที่ผู้อำนวยการกีฬา และแน่นอนว่า เทน ฮาก จะต้องเผชิญกับการทำงานร่วมกับบอร์ดบริหารชุดใหม่ ที่มีแนวทางแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน มีรายงานอ้างว่า เทน ฮาก ไม่เต็มใจที่จะลดบทบาทการทำงานของตัวเองในโครงสร้างใหม่ ของสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทหลักในการระบุเป้าหมายนักเตะที่ต้องการ และเป็นคนกุมอำนาจในการตัดสินใจแทบทั้งหมด
ในทางตรงกันข้ามแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ แรตคลิฟฟ์ จะยอมทุ่มเงิน 100 ล้านปอนด์ และทุ่มค่าเหนื่อยมหาศาลเพื่อคว้าตัวนักเตะเป้าหมายเพียงรายเดียว ซึ่งเป็นนโยบายที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำผิดพลาดมาตลอด อาทิ ในรายของ เจดอน ซานโช และ อันโทนี
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า แรตคลิฟฟ์ ตั้งใจจะเก็บ เทน ฮาก ไว้จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูกาลนี้เป็นอย่างน้อย แม้ว่าจะทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ โดยมีเป้าหมายอย่าง เกรแฮม พ็อตเตอร์ อดีตโค้ช ไบรท์ตัน และ เชลซี ที่จะถูกดึงตัวเข้ามาทดแทนเพื่อสร้างทีมในระยะยาว
ในการแถลงข่าวครั้งแรกของ เทน ฮาก หลังจาก แรตคลิฟฟ์ ได้รับการยืนยันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ของ แมนฯยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ นั้น เขาระบุว่า ต้องการทำงานร่วมกับบอร์ดบริหารชุดใหม่ แต่คำถามเร่งด่วนกว่านั้นก็คือ ในระยะยาวทีมงานของ Ineos ยังต้องการร่วมงานกับโค้ชชาวดัตช์รายนี้หรือไม่