ถึงเวลาที่ แมนยู ต้องดร็อป มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นตัวสำรอง ? - OPINION

  • มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟอร์มตกลงจากซีซันที่แล้ว
  • เอริก เทน ฮาก อาจต้องเปลี่ยนแปลงแนวรุก
  • ถึงเวลาเปิดโอกาสให้นักเตะคนอื่นลงสนามบ้างหรือไม่ ?
Manchester United v Luton Town - Premier League
Manchester United v Luton Town - Premier League / James Gill - Danehouse/GettyImages
facebooktwitterreddit

มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก เป็นผู้เล่นที่กุนซือ เอริก เทน ฮาก แทบจะขาดไม่ได้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ในเวลานี้เจ้าตัวกลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างหนักว่า ควรจะถูกดร็อปแล้วหรือยัง

เทน ฮาก กำลังเจอกับสถานการณ์ที่ยากที่สุดนับตั้งแต่เข้ามาทำงานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด และจากฟอร์มอันย่ำแย่ของ แรชฟอร์ด ที่ยิงได้เพียง 2 ประตู จาก 18 เกมรวมทุกรายการในปีนี้ มันบ่งบอกถึงวิกฤตของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เป็นอย่างดี

Lewis Hall, Marcus Rashford
Newcastle United v Manchester United - Premier League / Clive Brunskill/GettyImages

ปัจจุบัน แรชฟอร์ด เป็นนักเตะที่มีรายได้สูงสุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากเซ็นสัญญาฉบับใหม่ยาว 5 ปี เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และรับค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลถึง 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ พร้อมกับถูกมองว่า จะเป็นต้นแบบให้กับนักเตะเยาวชนท้องถิ่น “ปีศาจแดง”

 ผลงาน และพฤติกรรมของ แรชฟอร์ด ในเกมที่บุกไปพ่าย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อดีตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง รอย คีน และ พอล สโคลส์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

หากมองจากฟอร์มการเล่นตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาล 2023-2024 เทน ฮาก หมดเหตุผลที่จะอดทนกับแรชฟอร์ด แล้ว โดยนักวิเคราะห์หลายคนมองว่า การที่ ดาวยิงวัย 26 ปี โดนดร็อปอาจส่งผลให้ฟอร์มของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้น และเจ้าตัวก็จะได้ไปเรียกสมาธิเพื่อดึงฟอร์มเก่าของตัวเองกลับมา

 เมื่อต้นปี 2023 ฟอร์มของ แรชฟอร์ด ยังคงร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังจากทำสถิติซัดประตูเกมเหย้าติดต่อกัน 9 เกม เทียบเท่าสถิติของ เดนนิส ไวโอเลต์ ตำนาน แมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงยังช่วยให้ทีมจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 คว้าตั๋วไปเล่นใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สำเร็จ

  ขณะเดียวกัน แรชฟอร์ด ยังยิงไปถึง 30 ประตู จาก 56 เกมในทุกรายการ แต่ตอนนี้ผลงานของเจ้าตัวตกลงอย่างน่าใจหาย และดูเหมือนว่า ตำแหน่งปีกซ้ายกำลังจะโดน อเลฮานโดร การ์นาโช่ ดาวรุ่งชาวอาร์เจนไตน์ แย่งเป็นตัวจริงในไม่ช้า

Marcus Rashford
Everton FC v Manchester United - Premier League / Visionhaus/GettyImages

ปัญหาของ เทน ฮาก คือ ถ้าเอดทนกับ แรชฟอร์ด ต่อไป มันจะส่งข้อความไปยังผู้เล่นที่เหลือว่า พวกเขาจะไม่ถูกตัดสินจากผลงานในสนาม และอาจเกิดผลกระทบที่ทำให้บรรยากาศภายในทัพ “ปีศาจแดง” เกิดความไม่มั่นคงได้

นับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2021-22 แรชฟอร์ด ยิงได้ 37 ประตูจาก 106 เกมในทุกรายการให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นผลงานที่อาจต้องปรับปรุงหากเทียบกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำได้ 74 ประตู จากการลงสนาม 122 เกมให้กับ ลิเวอร์พูล ขณะที่ ซอง ฮึง-มิน ของ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ทำได้ 47 ประตู จากการลงเล่น 107 นัดในช่วงเวลาเดียวกัน

บางที แรชฟอร์ด เขาอาจจะรู้สึกสบายใจเกินไปที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่า ไม่มีใครมาแย่งตำแหน่งตัวจริงไปได้ หรือสโมสรอาจจะตามใจเจ้าตัวมากเกินที่ไม่ต้องให้เผชิญหน้ากับการแข่งขันแย่งตำแหน่งกับนักเตะคนอื่นๆที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน

เทน ฮาก จะต้องรับมือ และหาคำตอบจากภาษากายที่น่าสงสัยของ แรชฟอร์ด และหากผู้จัดการทีมเลือกทีม 11 คนแรก โดยพิจารณาจากฟอร์มการเล่นในสนาม และผลงานปัจจุบัน นั้น การตัดสินใจของโค้ชชาวดัตช์เกี่ยวกับ แรชฟอร์ด จะถูกจับตามองอย่างแน่นอน