ฟาด 13 จาก 15 แต้มเต็ม แถมออกตัว UCL สวย... อาร์เซน่อล จะร้อนแรงได้ต่อไหมกับ 'โปรแกรมโหด' ที่รออยู่ - OPINION
• ชนะ 4 จาก 5 เกม พรีเมียร์ลีก พร้อมถล่ม พีเอสวี 4-0 ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
• แต่ถัดจากนี้อาจเป็นปัญหา กับ "โปรแกรมโหด" ที่รอชาวคณะปืนโตอยู่
สานต่อมาตรฐานรองแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นก่อน ด้วยความร้อนแรงตั้งแต่เนิ่นๆ อาร์เซน่อล ดูกำลัง "ไปได้สวย" เลยกับซีซั่นนี้ ที่ชนะเกมลีก 4 จาก 5 นัด เก็บเข้ากระเป๋า 13 จาก 15 คะแนนเต็ม อีกทั้งใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่กลับเข้าเล่นเป็นครั้งแรกรอบ 7 ปี ก็เริ่มต้นได้งามหยดกับการกราดยิง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 4-0
อย่างไรก็ตาม ถัดจากนี้ จะพลิกซ้ายตะแคงขวาดูอย่างไร ก็จะพบว่า "โปรแกรมโหด" กำลังรอ มิเกล อาร์เตต้า และชาวคณะปืนโตอยู่
ด้านล่างนี้คือคิวโหดที่ว่า ซึ่งน่าลองประเมินความเป็นไปได้ในแต่ละเกมดูหน่อย ว่า อาร์เซน่อล จะยังคงความร้อนแรงได้ต่อไหม...
อาทิตย์ 24 กันยายน : สเปอร์ส (เหย้า)
เริ่มต้นคิวหนักอึ้งที่สุดสัปดาห์นี้ กับการเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือ "ตัวแรง" อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ที่แม้ว่าจะเป็นไก่มาดใหม่ไร้ แฮร์รี่ เคน แต่ก็ดันเป็นไก่มาดเท่โคตรห้าวภายใต้การนำของโค้ชออสซี่ อันเก้ ปอสเตโคกลู
เหนือกว่าคาดไปเยอะเมื่อ สเปอร์ส ซีซั่นนี้ ชนะได้ถึง 4 จาก 5 เกมพรีเมียร์ลีก และสะสมยอดพังตาข่ายจนยืนรองจ่าฝูงได้อย่างสวยสดงดงาม (ผลต่าง +8 และยิง 13 ลูก ดีสุดในกลุ่มทีมที่มี 13 แต้ม)
ฟอร์มดี ตัวเจ็บไม่เยอะ (อีวาน เปริซิช, ไบรอัน กิล, โรดริโก้ เบนตันคูร์) สภาพร่างกายยังเต็มถัง ด้วยว่าไม่มีโปรแกรมบอลยุโรปมากวนใจ กลางสัปดาห์ก็หลับสบายหายห่วงเลยทีนี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ อาร์เซน่อล พอจะวางใจได้อยู่กับคิวนอร์ธลอนดอนดาร์บี้ครั้งนี้ ก็คือ "ที่นี่เอมิเรตส์"
เพราะนี่คือเกมที่ออกทรง "บ้านใครบ้านมัน" ชัดเจน -- นับเฉพาะพรีเมียร์ลีกแล้ว สเปอร์ส ไม่อาจบุกมากำชัยที่รังปืนได้นับตั้งแต่ปลายปี 2010 โน่นเลย
อาร์เซน่อล เปิดบ้านทำแต้มจาก สเปอร์ส (ไม่เสมอก็ชนะ) มาตลอด 12 ปีหลัง และแพ้แค่หนเดียวเท่านั้นจาก 30 ครั้งหลังสุด หรือตั้งแต่ 1993/94 เป็นต้นมาโน่นแล้ว
ก็ถ้ายึดสถิตินี้เป็นเกณฑ์ เกมอาทิตย์นี้ โอกาสชนะมีสูง และอย่างน้อย 1 แต้มต้องมี
พุธ 27 กันยายน : เบรนท์ฟอร์ด (ลีกคัพ / เยือน)
คงไม่ต้องนับหรือถือเอาเป็นสาระ เมื่อชัดเจนว่า ลีก คัพ ไม่ใช่ถ้วยที่ อาร์เซน่อล หรือ มิเกล อาร์เตต้า ให้ความสำคัญ ด้วยปรากฏชัดว่าทีมปืนใหญ่ไม่ได้แชมป์ถ้วยนี้มาตั้งแต่ 1993
หลังจากนั้นเข้าชิง 2 หน (2007, 2011) ก็แพ้ทั้งสองรอบ หรือในช่วงปีหลังๆ จะตกรอบ 3 บ้าง รอบ 4 บ้าง หรือ 8 ทีมสุดท้ายบ้าง ก็ไม่มีใครถือสาหาความ
ดังนั้นพุธหน้า รอดูได้เลยถึงบรรดาตัวสำรองและดาวรุ่งจากทีมเยาวชน ที่จะสอดแทรกลงสนาม ส่วนบรรดาตัวหลักคงได้พักทั้งหมด
สรุปว่าเกมนี้ ชนะก็ดี แพ้ตกๆ ไปเสียก็ดีในแบบหนึ่งเหมือนกัน
เสาร์ 30 กันยายน : บอร์นมัธ (เยือน)
นี่แหละ เกมเดียวในช่วงถัดจากนี้ที่ออกทรง "การันตีชัยชนะ" สำหรับ อาร์เซน่อล ถ้าไม่เล่นผิดเล่นพลาดกันไปเอง
เพราะแม้ บอร์นมัธ ของ อันโดนี่ อิราโอล่า จะยันเสมอ เชลซี 0-0 ได้ก็จริงในสัปดาห์ก่อน แต่ระดับคุณภาพของ อาร์เซน่อล เหนือกว่า เชลซี ชัดเจนอยู่แล้ว
และไม่ว่าจะเหย้าหรือเยือน อาร์เซน่อล ก็ข่มขาด บอร์นมัธ โดยสถิติ อย่างที่เจอกันซีซั่นก่อน ปืนบุกยิง 3-0 ก่อนกลับมาเปิดบ้านย้ำชัยอีก 3-2 จากลูกยิง 90+7 ของ รีสส์ เนลสัน ลูกนั้น
อังคาร 3 ตุลาคม : ล็องส์ (ชปล. / เยือน)
หลังจากเปิดบ้านกินนิ่ม พีเอสวี แล้ว ต้นเดือนหน้า อาร์เซน่อล จะเจอเกมเยือนบ้าง โดยเดินทางใกล้ออกไปเตะกับ ล็องส์ รองแชมป์เก่า ลีก เอิง
ล็องส์ ชุดนี้นำโดย เอลเย่ วาฮี หอกเด็กวัย 20 ที่ย้ายมาจาก มงต์เปลลิเยร์ 35 ล้านยูโร กระนั้นซีซั่นนี้ฟอร์มภาพรวมถือว่าฝืดสนิท ชปล. เกมแรกเสมอ เซบีย่า 1-1 ถัดจากที่ 5 เกมแรกของลีกน้ำหอม ชนะใครไม่เป็นเลย (เสมอ 1 แพ้ 4)
ดังนั้นไม่ว่ามองในมุมไหนก็ค่อนข้างชัดอยู่ว่า อาร์เซน่อล เหนือกว่า น่าเป็นฝ่ายกำชัยกลับออกไปมากกว่า
ปัญหาคือ อาร์เซน่อล จะเสียพลังงานไปมากขนาดไหนกับเกมนี้ เมื่อคิวถัดไปที่รออยู่ก็คือ... ก้อคืออออ....
อาทิตย์ 8 ตุลาคม : แมนฯ ซิตี้ (เหย้า)
มาเร็วในเพียงเกมที่ 8 ของซีซั่น สำหรับการเจอ "ของแสลง" ของปืน ที่ไม่ว่าที่ไหนเมื่อไหร่ หลายปีมาแล้วที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตบปืนแตกทุกครั้งไป
ล่าสุดกับ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เดือนก่อน ที่แม้จะจบด้วยผลเสมอและ อาร์เซน่อล ดวลจุดโทษชนะ แต่ภาพจำยังชัดเจนปิ๊งๆ ว่ากว่าที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ จะลั่นไกตีเสมอได้ ก็ปาไปเพลย์สุดท้าย 90+11
นับรวมทุกรายการแล้ว ก็ต้องย้อนถึงท้ายซีซั่น 2019/20 ที่ อาร์เซน่อล โค่นเรือลงได้ 2-0 ในรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ
ส่วนถัดจากนั้น (นับรวมคอมมิวฯ แต่ไม่นับจุดโทษ) เจอกันอีก 9 ครั้ง แมนฯ ซิตี้ ชนะ 8 เสมอ 1 -- ซีซั่นก่อนเจอกัน 3 ครั้ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เช็คบิลลูกศิษย์อย่าง อาร์เตต้า ด้วยสกอร์ 1-0, 3-1 และ 4-1 โดยที่ 6 แต้มใน พรีเมียร์ลีก นั่นเองก็เป็นปัจจัยสำคัญมากในการส่ง แมนฯ ซิตี้ แซงหน้า อาร์เซน่อล เข้าเส้นชัยในท้ายที่สุด
ฉะนั้น ก็ชัดเจนว่า อาร์เซน่อล จะลงสนามเกมนี้ไปด้วยความเป็นรอง หากดึงได้สัก 1 แต้มถือว่าประสบความสำเร็จ
เสาร์ 21 ตุลาคม : เชลซี (เยือน)
ถัดจากเกมกับ แมนฯ ซิตี้ แล้ว จะเข้าสู่ช่วงเบรคทีมชาติประจำเดือน ต.ค. เป็นระยะ 2 สัปดาห์เหมือนเช่นเคย แต่คิวที่รออยู่หลังพ้นเบรคแล้ว ก็จัดว่าหนักอยู่ไม่น้อย กับลอนดอนดาร์บี้ บุกเตะ เชลซี ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์
แน่นอนว่ามองจากตรงนี้ อาร์เซน่อล เหนือกว่า เชลซี ชัดเจน เมื่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ดูยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ปัญหาในทีมยังมีอยู่แทบทุกพื้นที่ แต่เมื่อไม่มีใครล่วงรู้อนาคต ก็บอกไม่ได้ ณ ตอนนี้เหมือนกันว่า เชลซี จะเริ่มเข้าฝักได้พอดีรึเปล่าเมื่อถึงวันนั้น
ซีซั่นก่อน เป็นเรื่องเข้าใจได้ที่ อาร์เซน่อล สยบสิงห์ป่วยแบบไปกลับ แต่ถ้าย้อนไปอีกสักปี เชลซี (โธมัส ทูเคิ่ล) ก็กล้าๆ บุกทุบปืนถึงเอมิเรตส์มาแล้ว 2-0
ที่สำคัญ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อาร์เตต้า จะเสียนักเตะรายไหนเจ็บเพิ่มหรืออ่อนล้ามาจากการรับใช้ชาติด้วย
อังคาร 24 ตุลาคม : เซบีย่า (ชปล. / เยือน)
ไม่ต้องพักต้องผ่อนกันครับพี่น้อง ได้หยุด อาทิตย์-จันทร์ สองวันแล้ว (จริงๆ คงหยุดอาทิตย์วันเดียว จันทร์ซ้อมและเดินทาง) อาร์เซน่อล ก็ต้องเจอศึกหนักกับ เซบีย่า ต่อเนื่องใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3
ในภาพรวมจากตรงนี้ อาร์เซน่อล ก็เหนือกว่านั่นแหละ แต่ใครจะกล้าปรามาสทีมแชมป์ ยูโรป้า ลีก 7 สมัยรายนี้ได้ -- ภายใต้การทำทีมของ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ และขุมกำลังที่นำโดยดาวเด่นอย่าง ราฟา มีร์, อีวาน ราคิติช, เอริค ลาเมล่า, เซร์คิโอ รามอส, ลูคัส โอคัมโปส เซบีย่า อาจเริ่มต้น ลา ลีกา ปีนี้ได้แย่ด้วยการแพ้ 3 เกมซ้อน แต่ล่าสุดก็ฮึดขึ้นแล้วด้วยการชนะ ลาส ปัลมาส 1-0 ขณะที่่เกมแรกของ ชปล. ออกตัวด้วยผลเสมอ ล็องส์ 1-1
ฉะนั้น นี่คงเป็นอีกเกมที่ประมาทไม่ได้ และยังมั่นใจไม่ได้ว่าจะชนะแน่ๆ
สรุป : 4 เกมลีกถัดไป ได้สัก 7-8 แต้มจัดว่าแจ่ม
เพราะหนึ่งคือ 4 เกมลีกถัดไป จัดเป็น "เกมหนัก" ซะ 3
สองคือ ในคิวหนักหน่วงเหล่านั้นก็สอดแทรกด้วยเกมกลางสัปดาห์ คาราบาว คัพ บ้าง แชมเปี้ยนส์ ลีก บ้าง รวมถึงพักเบรคทีมชาติ--ที่นักเตะหลายๆ คนก็ไม่ได้พักกับเขาหรอก
โฟกัสอยู่ที่ พรีเมียร์ลีก อย่างที่ว่าไป...
- เจอ สเปอร์ส อาทิตย์นี้ น่าชนะได้
ชนะชัวร์ๆ ในเกม บอร์นมัธ
กับ แมนฯ ซิตี้ แพ้ถือว่า "เรื่องปกติ"
ปิดท้ายกับ เชลซี ตีซะ 1 แต้มไว้ก่อน
นั่นเท่ากับ, หลังจากเปิด 5 เกมแรกด้วย 13 จาก 15 คะแนนเต็ม, หากว่า อาร์เซน่อล จะดึงแต้มเข้ากระเป๋าได้สัก 7-8 แต้มใน 4 เกมโหดถัดไป ควรถือว่า "เข้าท่า" แล้ว
แต่เกิดถ้าผ้าป่าคว่ำ ปืนแตกยับตั้งแต่อาทิตย์นี้ขึ้นมา ก็ตัวใครตัวมันครับเจ้านาย!