ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม พรีเมียร์ลีก นัดฉลองชัยหนแรกยุค แลมพาร์ด บุกสยบ บอร์นมัธ 1-3 : Player Ratings

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2022/23
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2023
สนาม: ไวทัลลิตี้ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน: บอร์นมัธ 1-3 เชลซี

หลังจากรอคอยด้วยใจตุ๊มๆ ต่อมๆ มานานนับเดือน แฟน เชลซี ก็ได้ฉีกยิ้มกับเขาบ้างเสียที กับการบุกสยบ บอร์นมัธ 3-1 ที่ควรต้องนับว่ามีโชคช่วยพอตัว ที่ในขณะเสมออยู่ 1-1 และเจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองในจังหวะที่ควรแซงนำนั้น สกอร์ 2-1 ก็ขยับขึ้นทาง เชลซี แทน ก่อนที่สุดท้ายจะปิดเกมกำชัยได้ด้วยสกอร์ 3-1 เป็น 3 แต้มเต็มหนแรกในยุค แฟร้งค์ แลมพาร์ด

คะแนนนักเตะเชลซี

เคปา อาร์ริซาบาลาก้า - 7

เสียง่ายไปนิดกับประตูตีเสมอ 1-1 ของ บอร์นมัธ ที่ดูเหมือนจะขยับออกมาข้างหน้ามากขึ้นไปนิดจนโดน มาติอัส วินญ่า ยิงข้ามหัวเข้าเสาไกล แต่ต่อมาก็ไม่มีข้อผิดพลาด และเซฟช่วยทีมไว้ได้ 2-3 หนในครึ่งหลัง จนถือว่ามีส่วนช่วยให้ทีมชนะทางอ้อม

เบน ชิลเวลล์ - 6

พยายามเติมขึ้นสุดทางทุกครั้งที่โอกาสเปิด แต่ก็ชัดเจนว่าช่วงนี้ยังไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีเหมือนเก่า โดยเฉพาะกับการเล่นร่วมกับ มูดริค ที่กราบซ้าย ซึ่งไม่ไหลลื่นอย่างที่ควรจะเป็น กระทั่งบาดเจ็บกำเริบอีกจนต้องออกก่อนจบ

เบอนัวต์ บาเดียชิล - 7

ลงตัวจริงแทน คาลิดู คูลิบาลี่ ที่บาดเจ็บ โดยแม้จะยืนตำแหน่งพร้อมประสานงานกับ ติอาโก้ ซิลวา ได้ไม่เลว แต่ก็เสียประตูง่ายกับลูก 1-1 ที่ตามปิดทาง วินญ่า ไม่ทัน กระนั้นสุดท้ายก็มาพังตาข่าย 2-1 เสียเฉยๆ ด้วยการดอดขึ้นชาร์จลูกเปิดฟรีคิกท้ายเกม น.82

ติอาโก้ ซิลวา - 6

ฟอร์มดูยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่หลังหายเจ็บกลับมา แต่ก็อาจกล่าวโทษไม่ได้นักกับลูกโดนทวง 1-1 จากนั้นครึ่งหลังมีช็อตสกัดจังหวะสำคัญป้องกันไม่ให้ โดมินิก โซลันกี้ หลุดไปซัดโล่งๆ

เทรโวห์ ชาโลบาห์ - 5

ถูกถ่างออกไปยืนแบ็กขวาแทน รีซ เจมส์ ที่บาดเจ็บ และ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่ฟอร์มแน่หลังหายเจ็บกลับมา แต่ก็ชัดเจนว่าคุณภาพเกมรุก การขึ้นช่วยปีกอย่าง มาดูเอเก้ ค่อนข้างมีปัญหาไม่ไหลลื่นนัก

คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ - 7

ยังไม่ทันทำอะไรมากก็สอดเข้าโขกประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 9 แล้วหลังจากนั้นก็มีส่วนร่วมเยอะ ด้วยบทบาทเน้นรุกมากที่สุดในบรรดาแผงกลางเชลซี เพียงแต่ครึ่งหลังก็เงียบๆ ไปพอสมควร

เอ็นโซ เฟร์นานเดซ - 5

เป็นตัวออกบอลจากตรงกลางเหมือนเช่นเคย และไม่มีปัญหากับการจ่ายสั้นๆ หาเพื่อนรอบตัว แต่การสอดขึ้นยิงไกลจากแถวสองยังไม่แม่นยำ เช่นเดียวกับไม่สุดสักทางทั้งรุกและรับ

เอ็นโกโล่ ก็องเต้ - 6

ยืนมิดฟิลด์ตรงกลางฝั่งขวา และครอสแม่นๆ จากขวาเข้าหัว กัลลาเกอร์ เป็นประตูนำ 1-0 ตอนต้นเกม แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้โดดเด่น เล่นไปตามเกม ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรมากทั้งรุกรับ

มิไคโล มูดริค - 5

โดนใบเหลืองเร็วจากการพ่งลุ้มจะเอาจุดโทษ น.15 ทำให้ต้องเล่นอย่างระมัดระวังตลอดหลังจากนั้น และภาพรวมก็คือเงียบหายพอสมควรด้วย (โดนถอดออกหลังครบชั่วโมง) นับเป็นอีกเกมที่ยังคงเล่นไม่คุ้มค่าตัว

ไค ฮาแวร์ตซ์ - 4

ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าลงตัวจริงกับเขาด้วย เมื่อนอกจากจะมีโอกาสเล่นกับบอลน้อยในครึ่งแรก ก็ไม่อาจเอาชนะคู่แข่งได้เลยในการดวลตัวต่อตัว จนน่าแปลกเหมืนกันที่ แลมพาร์ด ให้โอกาสเล่นยาวๆ ยัน 10 นาทีท้าย

โนนี่ มาดูเอเก้ - 7

สร้างความวูบวาบได้ดี มีโอกาสทองเป็นคนแรกจากลูกส้มหล่น น.8 แต่ยิงตรงเข้ามือ เนโต้ ง่ายๆ จากนั้นทำได้สวยกับการตะลุยเดี่ยวจนถึงสุดเส้นหลัง น.31 แต่ก็ทื่อไปนิดจนยิงเข้าข้างตาข่ายไปเอง จากนั้นยังสร้างบททดสอบให้เกมรับเจ้าถิ่นได้อยู่ตลอดจนถูกถอดออก

สำรอง

รูเบน ลอฟตัส-ชีค (แทน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.63) - 6

ลงไปใช้ความแข็งแกร่งและความสดช่วยงานแดนกลาง และช่วยให้เกมของ เชลซี นิ่งขึ้น ไม่มีข้อผิดพลาดเพิ่มเติม

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (แทน มิไคโล มูดริค น.63) - 7

ลงสำรองไปยืนริมเส้นซ้าย แต่โดนบอลแทบจะนับครั้งได้เมื่อเกมครึ่งหลัง บอร์นมัธ คุมสถานการณ์อยู่นาน กระนั้นก็ทำแอสซิสต์ได้ในลูก 3-1 ของ เจา เฟลิกซ์

เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า (แทน เบน ชิลเวลล์ น.75) - 6

ลงไปยืนตำแหน่งไม่ค่อยถนัดนักอย่างริมเส้นซ้าย ช่วง 15 นาทีสุดท้ายแทน ชิลเวลล์ ที่บาดเจ็บต้องออกจากสนาม แต่โดยรวมถึอว่าไม่มีข้อผิดพลาดอะไร

ฮาคิม ซีเย็ค (แทน โนนี่ มาดูเอเก้ น.75) - 7

แม้ภาพรวมคือไม่ได้ทำอะไรมากมาย แต่ก็ทำแอสซิสต์ด้วยการสาดฟรีคิกให้ เบอนัวต์ บาเดียชิลด์ กระโดดเข้าชาร์จลูก 2-1

เจา เฟลิกซ์ (แทน ไค ฮาแวร์ตซ์ น.84) - 7

พังประตูตอกฝาโลง 3-1 ด้วยเพียงสัมผัสแรกที่ลงสำรอง และเกือบๆ จะเป็นสัมผัสเดียวด้วยซ้ำจากแค่สี่ซ้าห้านาทีที่ได้อยู่ในสนาม