ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม พรีเมียร์ลีก นัดงัดฟอร์มร้อน พลิกกระดานรัวแซง เบิร์นลี่ย์ 4-1 : Player Ratings
• แต่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง งัดฟอร์มสุดยอดออกมาโชว์ จนทีมแซงเข้าป้ายอย่างสวยงาม
• และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะ เชลซี ประจำเกมนี้
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566
สนาม: เทิร์ฟ มัวร์
ผลการแข่งขัน: เบิร์นลี่ย์ 1-4 เชลซี
ถือว่าเริ่มต้นได้ไม่ดี เชลซี ตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อนจากโอกาสจบแรกเท่านั้นของ เบิร์นลี่ย์ แต่หลังจากนั้นชัดเจนว่าแนวรับเจ้าถิ่นเอา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ร่างซูเปอร์ไซย่า ไม่อยู่เลย โดนทีมตราสิงห์ทวงคืนทีละเม็ดๆ จนชนะขาดลอย 4-1 ควัก 3 แต้มกลับออกไปอย่างสวยงามก่อนพักเบรคทีมชาติ
คะแนนนักเตะ เชลซี
โรเบิร์ต ซานเชซ - 7
เสียประตูทันทีจากโอกาสลุ้นสกอร์แรกสุดของเจ้าถิ่น แต่ก็อาจว่าไม่ได้เมื่อ วิลสัน โอโดแบร์ ยิงดีเชียว และครึ่งหลังมีเซฟสำคัญป้องกันลูกส่องไกลของเจ้าเดิมที่หวิดเสียบใต้คาน เท่ากับถ้าไม่ใช่ลูกยากเกินไป ก็ไม่ผ่านมือง่ายๆ
ลีวาย โคลวิลล์ - 6
โดนเลี้ยงผ่านง่ายไปหน่อยจนนำมาซึ่งประตูนำของ เบิร์นลี่ย์ แต่ถัดจากนั้นก็ไม่มีข้อผิดพลาดอะไรให้เห็น และเป็นเกมที่เล่นไม่ยากด้วยเมื่อไม่ต้องเติมเกมขึ้นสูงอะไร ปล่อย สเตอร์ลิ่ง โชว์ไปคนเดียว
อักเซล ดิซาซี่ - 6
ไม่ใช่เกมที่ต้องทำงานอะไรมากมาย เมื่อแนวรุกของ เบิร์นลี่ย์ นอกจากประตูนำแล้วก็แทบไม่มีพิษสงอะไรให้เห็น และดูว่า ดิซาซี่ ก็ปรับตัวเข้ากับ พรีเมียร์ลีก ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ติอาโก้ ซิลวา - 6
เช่นเดียวกับ ดิซาซี่ คือไม่ใช่เกมที่โดดเด่น แต่ก็ไม่ได้เจอบททดสอบหนักหนาจากเกมรุกเจ้าถิ่น โดยเฉพาะครึ่งหลังที่สัมผัสบอลนับครั้งได้
มาร์ก กูกูเรย่า - 4
ลงที่แบ็กขวาอีกครั้ง แต่เสียท่าหยุดเล่นไปแวบหนึ่งจนกลายเป็นประกบห่าง โดน วิลสัน โอโดแบร์ ลงโทษด้วยการส่องเข้าเสาไกลในนาทีที่ 15 แถมยังโดนเหลืองเร็วในนาทีที่ 26 จากการเตะสกัดโฉ่งฉ่าง ดีที่ไม่ส่งผลเสียกับทีมมากมาย
มอยเซส ไคเซโด้ - 7
เล่นได้อย่างแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละเกมที่ผ่านมา โดยแม้อาจไม่ใช่คนที่เด่นสุดในสนาม แต่ก็ทำงานของตัวเองอย่างมีวินัย และปิดกั้นเกมบุกของเจ้าถิ่นได้ดีตลอด
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ - 7
มีหน้าที่ลักษณะเดิมกับช่วงหลัง คือเป็นมิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกม มีส่วนร่วมทั้งรับและรุก โดยเกมนี้มีผลงาน 1 แอสซิสต์ แทงแม่นๆ ให้ สเตอร์ลิ่ง ทะลุเข้าไปกดลูก 3-1
โคล พาล์มเมอร์ - 7
ครึ่งแรกออกเงียบๆ ไม่มีโอกาสปั้นเกมอะไรมากมาย แต่ครึ่งหลังเริ่มไปไม่นานก็เปิดสกอร์แรกกับ เชลซี ได้จากจุดโทษที่ สเตอร์ลิ่ง โดนรวบ จากนั้นต่อมาก็แอสซิสต์ให้ นิโคลัส แจ๊คสัน ยิงปิดกล่อง 4-1 แต่ที่เป็นปัญหาคือดูเหมือนจะบาดเจ็บจนต้องออกในช่วงท้าย
เอ็นโซ เฟร์นานเดซ - 6
คุณภาพในการครองบอลหรือจ่ายบอลไม่ใช่ปัญหา แต่ในฐานะมิดฟิลด์ตัวรุกเต็มกำลัง ดูว่า เอ็นโซ น่าจะต้องขอเวลาปรับตัวปรับใจกับบทบาทนี้อีกสักหน่อย
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - 10
ถูกวางลงที่ปีกซ้าย และเป็นเกมที่โดดเด่นที่สุดครั้งหนึ่ง สร้างประตู 1-1 ได้จังหวะลุยเข้าทางซ้ายแล้วเปิดยัดชนคู่แข่งเข้าประตูตัวเอง, ต้นครึ่งหลังเรียกจุดโทษได้จากจังหวะกระชากเข้าเขตโทษ, เพิ่มเติมความสมบูรณ์แบบด้วยการพาเข้าไปกดตูมเสียบเสาสอง 3-1 ยิ่งกว่านั้น ลูก 4-1 จุดเริ่มต้นก็มาจากการขึ้นเกมทางซ้ายแบบเอาไม่อยู่ของ สเตอร์ลิ่ง ด้วย
อาร์มันโด้ โบรย่า - 5
ได้สิทธิ์ลงตัวจริงต่อแม้ นิโคลัส แจ๊คสัน จะพ้นแบน แต่เงียบไปหน่อยแบบที่แทบไม่ออกจอเลยในครึ่งแรก และการโดนเปลี่ยนออกทันทีก็น่าสงสัยว่าจะเจ็บเพิ่มด้วยหรือไม่
สำรอง
นิโคลัส แจ๊คสัน (แทน อาร์มันโด้ โบรย่า น.46) - 7
ลงสำรองไปแทน โบรย่า เมื่อเริ่มต้นครึ่งหลัง และทำได้เยี่ยมเลยกับการดึงจังหวะหลอกกองหลังก่อนซัดจมตาข่ายอย่างเยือกเย็น เป็นลูกปิดเกม 4-1
มิไคโล มูดริค (แทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.83) - 5
มีจังหวะสร้างความวุบวาบอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ก็ชัดเจนว่าเป็นการเปลี่ยนตัวที่ไม่ได้หวังผล นอกจากให้ สเตอร์ลิ่ง ออกมาพัก
ยาน มาตเซ่น (แทน โคล พาล์มเมอร์ น.86) N/A
ลงไปแค่เพื่อแทนที่ พาล์มเมอร์ ซึ่งบาดเจ็บ เท่ากับอยู่ในสนามแป๊บเดียว ไม่ทันทำอะไรเกมก็จบแล้ว