ตัดเกรดนักเตะ เชลซี นัดลุ้นใจหาย ไล่ตี นิวคาสเซิ่ล 90+2 ก่อนชนะดวลเป้าลิ่วตัดเชือก คาราบาว คัพ : Player Ratings
• แต่กว่าจะตีเจ๊าได้ก็ลุ้นกันใจหาย ก่อนจะมาเอาชนะช่วงดวลจุดโทษ
• และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะ เชลซี ประจำเกม คาราบาว คัพ นัดนี้
รายการ: ฟุตบอล คาราบาว คัพ อังกฤษ 2023/24 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
วันแข่งขัน: วันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 1-1 นิวคาสเซิ่ล (เชลชี ชนะจุดโทษ 4-2)
อันที่จริง นี่เป็นเกมที่ เชลซี เหนือกว่าทุกรูปแบบ เมื่อ นิวคาสเซิ่ล อ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ความผิดพลาดของคู่เซนเตอร์แบ็กสิงห์ก็ทำให้เสียประตู จนต้องมาไล่ตีเสมอกันใจหายใจคว่ำ 90+2 จังหวะ คีแรน ทริปเปียร์ แจกของขวัญคืนให้ และที่สำคัญ ทริปเปียร์ ก็ยังยิงจุดโทษพลาดอีก ผลคือ เชลซี ได้เข้าสู่รอบตัดเชือก คาราบาว คัพ ลุ้นโทรฟี่ต่อไป
คะแนนนักเตะ เชลซี
ยอร์เย่ เปโตรวิช - 8 - หมดสิทธิ์ป้องกันกับประตูแรกที่ คัลลั่ม วิลสัน หลุดเดี่ยวมาแบบที่ตกใจกันหมดทั้งสนาม จากนั้นถือว่าไม่ค่อยมีบทบาทตลอด 90 นาที เพียงแต่ก็มาเป็นฮีโร่เซฟจุดโทษลูกสุดท้ายของ แม็ตต์ ริทชี่ เอาไว้ได้
ลีวาย โคลวิลล์ - 6 - ลงประจำการแบ็กซ้ายอีกครั้ง ทำพลาดในการออกบอลจนเสียประตูแรก กระนั้นยังไม่ทันได้ออกลีลาวาดลวดลายอะไรเต็มที่ก็โดนถอดออกเมื่อเริ่มต้นครึ่งหลัง
เบอนัวต์ บาเดียชิล - 5 - เล่นพลาดอย่างไม่น่าเชื่อในจังหวะบีบสองเข้าหา คัลลั่ม วิลสัน แต่ปรากฏว่าดึงบอลหลุดเท้าจนเสียประตู 0-1 เสียเฉยๆ ส่วนจากนั้นยังดีว่าไม่มีความผิดพลาดเพิ่มเติม
ติอาโก้ ซิลวา - 6 - ทั้งที่ทำได้ดีแล้วในการบีบเข้าหา คัลลั่ม วิลสัน เพื่อรุมแย่งบอล แต่เพื่อนก็ดันทำพลาดจนเสียประตูแรก จากนั้นถือว่าเล่นอย่างแข็งแกร่งตามมาตรฐานตลอดเกม และไม่เจอบททดสอบมากมายด้วย
อักเซล ดิซาซี่ - 6 - ต้องเจองานหนักเลยกับการประมือ แอนโธนี่ กอร์ดอน ในฐานะแบ็กขวา แต่ก็ถือว่าสภาพร่างกายสดกว่าคู่แข่งเยอะ จนทำได้ไม่เลวทั้งรับและรุก แม้รุกจะหายๆ ไปหน่อยก็ตาม
มอยเซส ไคเซโด้ - 5 - ตัดเกม แอนโธนี่ กอร์ดอน อย่างโฉ่งฉ่างจนโดนใบเหลืองอย่างรวดเร็วหลังเริ่มเกมไป 1 นาทีกับ 40 วินาที เท่ากับตลอดช่วงที่เหลือต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้ฟาวล์หนักอีก และยังมีส่วนผิดพลาดจับบอลคืนหลังไม่ทันในจังหวะเสียประตูแรกด้วย
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ - 8 - เกือบซัดให้ เชลซี ขึ้นนำตั้งแต่ 7 นาทีแรก จังหวะเก็บตกเตะมุมยิงสวนไปจากหน้าเขตโทษ ที่ชนคานเข้าเต็มๆ และจากนั้นถือว่าเล่นได้ดีในฐานะแกนกลาง ตัวเชื่อมเกมและออกบอล รวมถึงเป็นหนึ่งในมือสังหารจุดโทษด้วย
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - 7 - วูบวาบอันตราย ไม่ใช่จากการลากเลื้อยแต่มาจากจังหวะจบที่ สเตอร์ลิ่ง มีโอกาสงามๆ ทั้งครึ่งแรกครึ่งหลัง ทำให้ทั้งแนวรับสาลิกากับ ดูบราฟก้า ต้องบล็อคเซฟกันจ้าละหวั่น
เอ็นโซ เฟร์นานเดซ - 5 - กลับคืนทัพตัวจริงอีกครั้งหลังโดนดร็อปสำรองในเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อวันเสาร์ แต่ไม่แน่ชัดว่าการที่โดนถอดออกหลังพ้นแค่ครึ่งชั่วโมงแรก เป็นเพราะบาดเจ็บหรือแค่เรื่องแท็กติก หลังจากโดนยิงนำ
โคล พาลเมอร์ - 6 - โดนถ่างออกไปฝั่งขวาเมื่อ เอ็นโซ กลับคืนตัวจริง ซึ่งก็ทำให้ได้บอลน้อยลงชัดเจน มีพยายามส่องไกลให้เห็นแต่กิน ดูบราฟก้า ไม่ลง อย่างไรก็ตามถือว่าไม่ได้เล่นแย่ และยิงจุดโทษได้เฉียบคมเช่นเคยในการรับหน้าที่เป็นมือแรก
นิโคลัส แจ๊คสัน - 5 - ไม่ใช่เกมที่มีโอกาสสับไกมากครั้งนัก และเมื่อได้ยิงก็ทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะตอนต้นครึ่งหลังที่สบช่องซัดโล่งๆ แล้วแต่กดหลุดเสาไป เท่ากับภาพรวมเป็นอีกวันที่น่าผิดหวัง
สำรอง
อาร์มันโด้ โบรย่า (แทน เอ็นโซ เฟร์นานเดซ น.32) - 5 - ลงสำรองไปปุ๊บด็มีโอกาสยิงเข้าประตูปับ แต่โดนจับล้ำหน้าไปเสีย และจากนั้นแม้จะมีความพยายาม แต่ถือว่าคุณภาพไม่ได้
มาโล กุสโต้ (แทน ลีวาย โคลวิลล์ น.46) - 7 - ลงไปดูแลเกมรับฝั่งซ้ายแทนที่ โคลวิลล์ ตลอดครึ่งหลัง รวมถึงมีช่วงที่ขยับมาอยู่ฝั่งขวาตามถนัด และถือว่าทำให้เกมรับช่วงท้ายของ เชลซี หายห่วง
คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (แทน นิโคลัส แจ๊คสัน น.69) - 7 - แม้จะไม่ได้มีโอกาสเข้าทำในการลงสำรอง 20 นาทีท้าย แต่การฟิตกลับมาแล้วก็ถือเป็นข่าวดีของ เชลซี และยังมั่นใจมากพอที่จะสังหารจุดโทษกับเขาด้วย
ยาน มาตเซ่น (แทน อักเซล ดิซาซี่ น.78) - 7 - ลงไปบู๊ได้ดีเลยในช่วงท้ายเกม เพิ่มความสดและดุดันในเกมรับ ถือว่าลงไปแล้วทำประโยชน์ได้
มิไคโล มูดริค (แทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.79) - 8 - ลงสำรองไปยิงประตูสำคัญสุดนับตั้งแต่ย้ายมา ฉกฉวยความผิดพลาดของ คีแรน ทริปเปียร์ จนได้ประตูตีเสมอ 1-1 ก่อนจบเกมแค่อึดใจ และจากนั้นก็ยิงไม่พลาดในการสังหารจุดโทษคนที่ 4