ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม เอฟเอ คัพ นัดเร่งเครื่องครึ่งหลังเอาชนะ เปรสตัน ขาดลอย 4-0 : Player Ratings

รายการ: ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2023/24 รอบ 3
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 6 มกราคม 2567
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 4-0 เปรสตัน นอร์ธเอนด์

แม้ว่าจะมีเกมสำคัญอย่างรอบตัดเชือก คาราบาว คัพ รออยู่ แต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ยังใจแข็ง (และโดนสถานการณ์บังคับให้) ส่งตัวจริงหน้าเดิมๆ ลงสนามต่อเนื่อง เปลี่ยนแค่ 2-3 ตำแหน่งเท่านั้น และแม้ครึ่งแรกจะผ่านไปแบบไร้สกอร์ แต่ครึ่งหลัง เชลซี ก็แสดงความเหนือกว่าออกมาแบบรัวๆ ด้วยการเจาะ 3 ประตูซ้อนในระยะ 10 นาที ตบท้ายด้วย 4-0 ตอนท้าย จึงเป็นอันเช็กบิลทีมระดับ แชมเปี้ยนชิพ อย่าง เปรสตัน จนผ่านเข้ารอบ เอฟเอ คัพ ได้ตามสมควร

คะแนนนักเตะ เชลซี

ยอร์เย่ เปโตรวิช - 6 - มีช็อตเซฟแบบไม่ยากเย็น 2-3 หนในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังหายเงียบแทบไม่ออกจอ เมื่อ เชลซี ดาหน้าลุยใส่อยู่ฝ่ายเดียว ถือเป็นเกมง่ายๆ สบายๆ ไม่มีอะไรต้องซีเรียส

มาโล กุสโต้ - 8 - ต้องโยกมาอยู่ฝั่งไม่ถนัดนักอย่างแบ็กซ้าย แต่ก็ถือว่าทำงานส่วนตัวได้ดีเยี่ยม ประสานงานกับ มูดริค ไหลลื่นในหลายจังหวะ และสำคัญสุดคือเปิดแม่นๆ แอสซิสต์ประตูนำ 1-0 ก่อนที่ช่วงท้ายจะย้ายไปลงแบ็กขวา และได้ซัดจนเกือบเป็น 4-0 ด้วยเหมือนกัน

ลีวาย โคลวิลล์ - 6 - แสดงให้เห็นชัดถึงสภาพความฟิตที่กลับมาเต็มถังแล้ว รวมถึงความแข็งแกร่ง เชิงบอล ทักษะ ที่เหนือกว่าแนวรุกคู่แข่งในทุกรูปแบบ แม้ไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากนักก็ตาม

อักเซล ดิซาซี่ - 6 - เจอเกมไม่ลำบากเช่นกัน เมื่อกองหน้า เปรสตัน ไม่ค่อยมีอะไรมาโชว์สักเท่าไหร่ ลำพังแค่เกมปะทะเบียดไหล่ชนไหล่ก็เสร็จ ดิซาซี่ เกือบหมดแล้ว

อัลฟี่ กิลคริสต์ - 7 - กับการออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็กขวานัดนี้ เกมรุกอาจขาดหาย ไม่มีการต่อเกมกับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ให้เห็นเท่าไหร่ แต่ถือว่าเกมรับไม่แย่ ก่อนโดนถอดไปพักเมื่อครบชั่วโมง

มอยเซส ไคเซโด้ - 7 - ไม่ใช่เกมที่โดดเด่นมากนัก แต่ก็มีประโยชน์โดยตรงกับแท็กติก สามารถตัดเกมบุกของ เปรสตัน ได้ในหลายจังหวะ คุมเชิงหน้าแผงหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เอ็นโซ เฟร์นานเดซ - 7 - ถูกเลือกให้ลงก่อนหน้ากัปตันทีมอย่าง คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ในตำแหน่งกลางรับที่พร้อมสนับสนุนเกมรุกทุกจังหวะ และมีออกบอลสวยๆ ให้เห็นเป็นระยะ โดยแม้ยังมีช็อตยิงพลาดให้เห็น แต่ในที่สุดแล้วก็ยังได้เฮจากการปิดบัญชีลูกจ่ายของ สเตอร์ลิ่ง ท้ายเกม น.85 ช่วยให้ทีมชนะขาด 4-0

มิไคโล มูดริค - 5 - เงียบอย่างน่าใจหายไปนิด ในขณะที่เพื่อนๆ แนวรุกผลัดกันจู่โจมเข้าทำอย่างมันเท้า ปีกยูเครนกลับไม่ค่อยได้บอลสักเท่าไหร่ จนกระทั่งถูกเปลี่ยนออกเป็นเซ็ตแรกหลังครบชั่วโมง

โคล พาลเมอร์ - 7 - พลาดโอกาสทองไปกับการจิ้มโล่งๆ หลุดเสา น.22 แต่หลังจากนั้นก็พยายามสร้างสรรค์เกมด้วยฟอร์มที่ดีได้มาตรฐาน และมี 1 แอสซิสต์จากการเปิดเตะมุมให้ ติอาโก้ ซิลวา ทิ่มโขกเน้นๆ

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - 8 - แสดงถึงความเร็วที่ยากต่อการตามประกบตั้งแต่เนิ่นๆ กระนั้นความเฉียบคมยังขาดๆ ไปหน่อย เช่นจังหวะซัดแรกที่กดไปติดบล็อก น.16 หรืออีก 3 นาทีให้หลังที่ไม่ผ่านเซฟ แต่ก็แก้ตัวได้ในครึ่งหลัง ที่สังหารฟรีคิกเป็นประตู 3-0 พร้อมทำแอสซิสต์ให้ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ยิงปิดกล่อง

อาร์มันโด้ โบรย่า - 8 - ไม่มีส่วนร่วมกับเกมรวมถึงแทบไม่ได้บอลเลยตลอด 25 นาทีแรก กระนั้น ก็คว้าโอกาสได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งหลัง ที่ขวิดประตูสกอร์นำ 1-0 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม รวมถึงเกือบมีเม็ดสองเป็นลูก 4-0 ด้วยที่บอลถูกสกัดไว้คาบเส้น

สำรอง

โนนี่ มาดูเอเก้ (แทน มิไคโล มูดริค น.61) - 5 - เลอะเทอะไปนิดในวันนี้ เมื่อพยายามเน้นยิงเองจากทุกระยะ ใกล้ไกลซัดหมด มากกว่าจะพยายามสานงานกับเพื่อนเพื่อเจาะหลังบ้าน เปรสตัน

ติอาโก้ ซิลวา (แทน อัลฟี่ กิลคริสต์ น.61) - 7 - เบิกสกอร์ 2-0 จากการโถมโขกลูกเตะมุม ซึ่งช่วยให้ เชลซี เล่นง่ายขึ้นเยอะ รวมถึงตัว ซิลวา เองก็ไม่เจองานยากอะไรเลยในเกมรับ เมื่อทีมเยือนถอดใจแล้วหลังโดนยิงรัวๆ สามเม็ด

เดวิด วอชิงตัน (แทน อาร์มันโด้ โบรย่า น.76) - 6 - โฉบเข้าโหม่งเปลี่ยนทิศลูกยิงของ มาดูเอเก้ หลุดกรอบหลังลงสนามไปแวบเดียว และนั่นคือทั้งหมดที่ได้เห็นจากหอกเด็กแซมบ้าวัย 18

คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (แทน โคล พาลเมอร์ น.76) - 6 - ลงไปเป็นตัวจ่ายบอลควบคุมจังหวะเกมในตอนที่สกอร์ขาดลอยไปแล้ว ทำให้ไม่ต้องเน้นอะไรมากมาย

ไมเคิ่ล โกลดิ้ง (แทน เอ็นโซ เฟร์นานเดซ น.89) - 7 - ประเดิมสนามเกมแรกในทีมชุดใหญ่ และเกือบยิงได้ด้วยจากจังหวะเข้าชาร์จที่ลูกติดมือประตูอย่างไร้โชค