ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม เอฟเอ คัพ นัดดราม่าซ้อนดราม่า สิงห์น้ำเงิน รัว เลสเตอร์ 4-2 ฉลุยตัดเชือก : Player Ratings

• ครึ่งแรกฉีกสกอร์นำ 2-0 แต่ครึ่งหลังโดนตามทวง 2-2
• แต่ยังดีว่า เชลซี ฮึดขึ้นถูกที่ถูกเวลา บวกอีก 2 เม็ดช่วงทดเจ็บ คว้าตั๋วตัดเชือก เอฟเอ คัพ ไว้อยู่มือ
• และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะ เชลซี ประจำเกมนี้
FBL-ENG-FACUP-CHELSEA-LEICESTER
FBL-ENG-FACUP-CHELSEA-LEICESTER / GLYN KIRK/GettyImages
facebooktwitterreddit
  • รายการ: ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2023/24 รอบก่อนรองชนะเลิศ
  • วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567
  • สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
  • ผลการแข่งขัน: เชลซี 4-2 เลสเตอร์ ซิตี้

พกเป้าหมายมาจากบ้านอยู่แล้ว ว่า "ถ้วยนี้เอา" สำหรับ เชลซี ซึ่งครึ่งแรกก็ไปยาว 2-0 จาก มาร์ก กูกูเรย่า และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แต่ปรากฏว่ามาโดนทีเด็ดของ เลสเตอร์ ซิตี้ ตามตีเสมอ 2-2 ในครึ่งหลัง (อักเซล ดิซาซี่, สเตฟี่ มาวิดิดี้) ยังดีที่สุดท้าย เชลซี ฮึดขึ้นรัวเพิ่มอีก 2 เม็ดจาก 2 ตัวสำรอง คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า และ โนนี่ มาดูเอเก้ ซึ่งช่วยให้ เชลซี เข้าสู่รอบตัดเชือกได้ตามใจปรารถนา

คะแนนนักเตะ เชลซี

โรเบิร์ต ซานเชซ - 6 - มีครึ่งแรกที่ค่อนข้างสบาย ไม่ได้ถูกทดสอบมากนักนอกจากลูกโยนบอมบ์เข้าใส่ กระนั้นครึ่งหลังก็กลับเสียประตูอย่างรวดเร็ว ที่คงว่าไม่ได้เมื่อ อักเซล ดิซาซี่ คืนบอลมาให้แบบไม่ดีเอง ขณะที่ลูก 2-2 ต้องชมเชยฝั่ง สเตฟี่ มาวิดิดี้ ว่ายิงดีเหลือหลาย โชคดีที่สุดท้ายยังฮึดชนะได้

มาร์ก กูกูเรย่า - 7 - ทำเซอร์ไพรส์ดันเกมขึ้นไปยิงประตูนำ เป็นประตูแรกของการเล่นให้ เชลซี ทีเดียว และจากนั้นก็รับมือกับเกมรุกทีมเยือนได้อย่างยอดเยี่ยม มีตัดจังหวะสำคัญให้เห็น เพียงแต่ครึ่งหลังดูยุบๆ ไปพอสมควร

อักเซล ดิซาซี่ - 5 - มีครึ่งแรกที่ยอดเยี่ยม แต่เริ่มต้นครึ่งหลังอย่างเลวร้าย โดนคู่แข่งกดดันเข้าใส่จนคืนบอลทุ่มให้กับ โรเบิร์ต ซานเชซ แบบไม่ได้กะทั้งทิศทางและน้ำหนัก จนลูกลอยเข้าประตูตัวเองไปอย่างเสียท่า โชคยังดีที่ความผิดพลาดนี้ไม่ส่งผลถึงการทำให้ เชลซี หลุดวงโคจร

เทรโวห์ ชาโลบาห์ - 6 - ไม่เด่นเท่าคู่ขาอย่าง อักเซล ดิซาซี่ แต่ก็ถือว่าปักหลักเล่นเกมรับได้ดีมีมาตรฐาน โดยเฉพาะว่าไม่ได้สร้างข้อผิดพลาดให้เห็นตลอดเกม

มาโล กุสโต้ - 5 - อาจไม่ใช่เกมที่ดีเท่าไหร่ ด้วยการโดน สเตฟี่ มาวิดิดี้ เล่นงานอย่างจังด้วยจังหวะเลี้ยงเข้าใส่แล้วปั่นเข้าเสาสอง เป็นประตูตีเสมอ 2-2 ในครึ่งหลัง แต่คุณภาพการเติมเกมรุกก็ยังโอเค จ่ายเข้าไปจนได้จุดโทษลูกแรก และแอสซิสต์ให้ โนนี่ มาดูเอเก้ ในประตูที่ 4

มอยเซส ไคเซโด้ - 7 - มีเกมที่โอเคเลยทีเดียว แม้จะไม่ได้มีบทบาทกับการช่วยเกมรับมากนัก โดยเฉพาะ 2 ประตูที่ไม่มีส่วนช่วยเหลือ แต่ก็มีจังหวะเสริมเกมบุกที่น่าสนใจ ทั้งการแทงให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดเดี่ยว หรือเติมขึ้นไปกดเองในบางครั้ง

คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - 7 - ทำหน้าที่เดิมคือตัวประสานงานเกมรุกกับรับ เพียงแต่การเสริมเกมรุกของวันนี้ค่อนข้างขาดหาย ไม่สามารถหาช่องสอดเข้าทำจากเสาสองได้

มิไคโล มูดริค - 6 - แสดงออกถึงการเล่นอย่างกระตือรือร้น สบโอกาสซัดเน้นๆ ในนาที 18 แต่ดันกดไปชนขา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เสียได้ แต่หลังจากนั้นก็เงียบๆ ไป มีช่วงที่หายจากเกมด้วยเหมือนกัน

โคล พาลเมอร์ - 9 - ช่วงต้นเกมยังเงียบๆ บอลมาไม่ถึงมากนัก แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงสำคัญก็จัดการให้แบบไม่ต้องใช้โอกาสเปลืองอะไรเลย กับลูกจ่ายของ สเตอร์ลิ่ง มาให้เข้าชาร์จที่เสาแรก จากนั้นครึ่งหลังก้มหน้าก้มตาลุยเข้าใส่ กระทั่งมาจัดแอสซิสต์เลี่ยมทอง เคาะส้นให้ คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า สังหารเม็ด 3-2 ทดเจ็บ 90+2

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง - 3 - สุดๆ ไปเลยกับตอนต้นเกม ที่นอกจากพลาดโอกาสแรกแล้ว พอมาได้จุดโทษจากที่ตัวเองโดนตัดล้ม ก็รับหน้าที่สังหารจุดโทษไปติดเซฟนายทวารแบบไม่ได้ลุ้น ต่อด้วย ไคเซโด้ เคาะให้หลุดเดี่ยวไปยิงหลุดกรอบเอง ยิ่งฟรีคิกบนเส้นเขตโทษ น.75 ก็อัดข้ามไปไร้ทิศทาง น่าแปลกเหมือนกันกว่าจะเปลี่ยนออกก็ 5 นาทีสุดท้าย แง่ดีอยางเดียวคือแอสซิสต์ให้ โคล พาลเมอร์ ยิงลูก 2-0 ท้ายครึ่งแรก

นิโคลัส แจ๊คสัน - 8 - ต้องชมเชยเลยกับจังหวะลุยเดี่ยวเข้าไปหาจุดอันตราย น.13 แล้วเลือกปาดมาเสาสองให้ มาร์ก กูกูเรย่า ยิงง่ายๆ เปิดสกอร์นำ 1-0 เช่นเดียวกับ น.18 แต่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทำเสียอย่างน่าผิดหวัง จากนั้นก็เล่นอย่างเยือกเย็น ทำตัวดีมีประโยชน์ โดยเฉพาะลากเข้าไปโดน คัลลั่ม ดอยล์ ตัดล้มจนได้ใบแดง น.74 อย่างไรก็ตาม โอกาสทอง น.90 กลับงัดข้ามคานไปเสีย

สำรอง

คาร์นี่ย์ ชุคเวเมก้า (แทน มิไคโล มูดริค น.78) - 8 - ทำประตูสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในการเริ่มต้นเส้นทางกับ เชลซี ด้วยการประสานงานกับ โคล พาลเมอร์ ไปยิงลูก 3-2 ซึ่งหากไม่มีประตูนี้ ก็ไม่แน่ไม่นอนเหมือนกันว่า เชลซี จะเข้ารอบหรือไม่

โนนี่ มาดูเอเก้ (แทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.86) - 8 - สมกับเป็น มาดูเอเก้ ว่าวันไหนดีก็ดีใจหาย วันไหนแย่ก็น่าเขกกะโหลก ซึ่งวันนี้เป็นวันดีของเขา กับจังหวะลากเลื้อยหลบ 3-4 ไปซัดปิดกล่องปิดเกม 4-2

เบน ชิลเวลล์ (แทน มาร์ก กูกูเรย่า น.90) - 6 - ลงมาเสริมเกมทางฝั่งซ้ายในช่วงท้ายเกม ทดเจ็บ 8 นาที ซึ่งก็พยายามทำหน้าที่อย่างแข็งขัน แม้ไม่ได้มีบทบาทอะไรก็ตาม

Raheem Sterling
Chelsea FC v Leicester City - Emirates FA Cup Quarter Final / Alex Pantling/GettyImages