ตัดเกรดนักเตะ ทีมชาติอังกฤษ ศึกยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ นัดแซงชนะ เนเธอร์แลนด์ 2-1 : Player Ratings

  • ทีมชาติ อังกฤษ พลิกแซงชนะ เนเธอร์แลนด์ ช่วงนาทีสุดท้าย 2-1 เข้ารอบชิงฯ ยูโร สองสมัยติดต่อกัน
  • ฟิล โฟเด้น และ แฮร์รี่ เคน เค้นฟอร์มเก่งของตนเองออกมาได้แล้ว
  • โอลลี่ วัตกิ้นส์ ใช้โอกาสเดียวที่มียิงบอลผ่านมือนายทวารเข้าไปอย่างเฉียบขาด กลายเป็นผู้ชนะของเกม
Netherlands v England: Semi-Final - UEFA EURO 2024
Netherlands v England: Semi-Final - UEFA EURO 2024 / Richard Sellers/Allstar/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ

ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบรองชนะเลิศ

วันแข่งขัน

คืนวันพุธที่ 10 กรกฎาคม 2567

สนาม

บีวีบี สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์

ผลการแข่งขัน

เนเธอร์แลนด์ 1-2 อังกฤษ

เกมสุดระทึกระหว่าง เนเธอร์แลนด์ และ อังกฤษ จบลงด้วยชัยชนะของทัพ สิงโตคำราม 2-1 ซึ่งต้องบอกว่าวันนี้ลูกทีมของ เซาธ์เกต มาดีจริง ๆ แม้จะพลาดท่าเสียประตูตั้งแต่ช่วง 7 นาทีแรกจากประตูยิงไกลสุดสวยของ ชาบี ซิมอนส์ แต่ไม่กี่นาทีถัดมา อังกฤษ ก็ได้ลูกจุดโทษจากจังหวะเข้าสกัดของ เดนเซล ดุมฟรีส์ ที่เปิดปุ่มพยายามบล็อคลูกยิงของ แฮร์รี่ เคน แต่ดันช้าไปหนึ่งจังหวะ ก่อนจะโดนใบเหลืองและเป็น แฮร์รี่ เคน ซัดเข้าไปไม่เหลือตีเสมอเป็น 1-1

ช่วงเวลากว่า 70 นาทีที่เหลือพลพรรค อัศวินสีส้ม และ สิงโตคำราม ต่อสู้กันได้อย่างสูสี ทั้งคู่มีโอกาสได้ลุ้นประตูอยู่หลายครั้ง ก่อนจะเป็นทีมชาติ อังกฤษ ที่พลิกแซงนำในช่วงนาทีสุดท้ายของเกมจากลูกยิงอันเฉียบขาดของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ เป็นการปล่อยหมัดน็อคใส่ เนเธอร์แลนด์ ส่งให้ อังกฤษ เข้าชิงฟุตบอล ยูโร สองสมัยติดต่อกัน

คะแนนนักเตะทีมชาติ อังกฤษ

จอร์แดน พิคฟอร์ด - 6.5/10

ไม่มีความผิดพลาดน่าเกลียดให้เห็น แถมวันนี้ซุปเปอร์เซฟลูกยิงของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ช่วยให้ อังกฤษ รอดพ้นจากการถูกขึ้นนำอีกครั้ง

คีแรน ทริปเปียร์ - 6.0/10

ลงเล่นเป็นวิงแบ็คซ้ายเหมือนเดิม แต่ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร

ไคล์ วอร์คเกอร์ - 6.5/10

ยังคงเหนียวแน่นและแข็งแกร่งในเกมรับ ตามมาช่วยสกัดลูกยิงสำคัญของผู้เล่น เนเธอร์แลนด์ ได้หนึ่งลูก

จอห์น สโตนส์ - 6.5/10

ทำหน้าที่เป็นตัวขึ้นเกมหลักจากแนวรับ วันนี้ถือว่าโยนบอลได้แม่น เข้าเป้า 4 ครั้งจากความพยายาม 7 ครั้ง ส่วนเกมรับก็ไม่ได้มีปัญหาติดขัดอะไร

มาร์ค เกฮี - 6.5/10

กลับมาลงสนามได้หลังโดนแบนไปเกมที่แล้ว โดยรวมยืนในตำแหน่งหลังสามได้ดี แถมช่วยบล็อคลูกยิงไป 2 ลูกด้วย

ดีแคลน ไรซ์ - 7/10

ถึงจะพลาดการเข้าปะทะกลางสนามจนเป็นเหตุให้เสียประตูแรก แต่โดยรวม ไรซ์ เป็นผู้เล่นที่มีส่วนกับเกมของ อังกฤษ มากที่สุดในวันนี้ โดยการสัมผัสบอลไป 106 ครั้ง (มากสุดในเกม) และยังช่วยปัดป้องเกมรับได้ดีในจังหวะอื่น

ค็อบบี้ ไมนู - 7/10

วันนี้อาจไม่โดดเด่นมากในเกมรุก แต่ในเกมรับช่วย ไรซ์ ตัดเกมและแย่งบอลกลับมาได้ดี น่าจะเป็นตัวจริงคู่กันไปยาว ๆ

จู๊ด เบลลิ่งแฮม - 6.5/10

ค่อนข้างมีผลกระทบกับเกมได้น้อย ถึงจะช่วยเรียกฟาล์วให้ทีมได้ถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้มีจังหวะสำคัญเท่าในเกมอื่น

ฟิล โฟเด้น - 7/10

วันนี้ยกระดับเกมของตัวเองขึ้นมาได้ดีมาก วิ่งไปซัพพอร์ทเพื่อนทั่วสนาม แถมมีโอกาสสับไกเองถึง 3 ครั้ง (ตรงกรอบ 2 ครั้ง) แต่ชนคาน 1 ครั้ง สถิติการผ่านบอลก็น่าประทับใจเพราะทั้ง 40 ครั้งที่ส่งบอลให้เพื่อน เข้าเป้าหมดเลย 100%

บูกาโย่ ซาก้า - 7/10

พอหาฟอร์มของตัวเองเจอแล้วก็ปั่นป่วนแนวรับคู่ต่อสู้ได้มาก แม้จะค่อนข้างได้บอลน้อยทางด้านกราบขวา แต่ก็ใช้โอกาสที่มีเจาะเกมรับคู่ต่อสู้ได้ดี

แฮร์รี่ เคน - 7/10

เป็นเกมที่ แฮร์รี่ เคน เล่นได้ดีที่สุดใน ยูโร 2024 โดยนอกจากจะเป็นคนเรียกจุดโทษได้ คุณภาพการสังหารประตูยังเฉียบคบไร้ที่ติ และยังหาโอกาสจบสกอร์เองได้ถึง 2 ครั้ง (เข้ากรอบทั้งหมด) แถมเลือกจังหวะดึงตัวเองลงมาเชื่อมเกมได้ดีในวันนี้

ตัวสำรอง

ลุค ชอว์ (แทน คีแรน ทริปเปียร์ น. 46') - 6.5/10

ลงมาเล่นเป็นวิงแบ็คซ้ายแทน ทริปเปียร์ แล้วดีขึ้น มีจังหวะขึ้นมาครอสบอล 3 ลูก ช่วยให้เกมด้านข้างกราบซ้ายของ อังกฤษ ไหลลื่นกว่าเดิม

โคล พาลเมอร์ (แทน ฟิล โฟเด้น น. 80') - 7/10

เหมือนเป็นตัวนำโชคของ อังกฤษ เพราะลงมาทุกครั้งทีมชนะทุกครั้ง โดยวันนี้มีโอกาสสัมผัสบอลแค่ 6 ครั้ง แต่ทำได้ 1 แอสซิสต์จากลูกแทงทะลุช่องให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์

โอลลี่ วัตกิ้นส์ (แทน แฮร์รี่ เคน น. 81') - 7/10

แสดงให้ทั้งโลกเห็นว่า 27 ประตูในซีซันล่าสุดไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ใช้เพียงโอกาสเดียวที่มีซัดบอลไปเข้ามุมประตู พา อังกฤษ เข้ารอบชิงด้วยการเป็นฮีโร่ของทีม

เอซรี่ คอนซ่า (แทน บูกาโย่ ซาก้า น. 90+2') - N/A

คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ (แทน ค็อบบี้ ไมนู น. 90+2') - N/A


อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในศึก ยูโร 2024 ได้ที่นี่

feed