ตัดเกรดนักเตะทีมชาติ อังกฤษ เกมอุ่นเครื่อง นัดเปิดบ้านชนะทีมชาติ บอสเนียฯ 3-0 : Player Ratings
- ทีมชาติ อังกฤษ เปิดบ้านเอาชนะ บอสเนียฯ ไปได้อย่างไม่ยากลำบาก 3-0 เปิดหัวได้ดีก่อนลุย ยูโร 2024
- เป็นนัดที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต ได้โอกาสทดลองผู้เล่นหน้าใหม่ลงสนามพร้อมกัน
- โคล พาลเมอร์ เบิกประตูแรกของตนเองในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จ
รายการ | ฟุตบอลกระชิบมิตร |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน 2567 |
สนาม | เซนต์ เจมส์ พาร์ค |
ผลการแข่งขัน | อังกฤษ 3-0 บอสเนีย |
แม้ขาดผู้เล่นตัวจริงไปหลายคน แต่ลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต สามารถเปิดบ้านเอาชนะ บอสเนียฯ ไปได้ตามคาด 3-0 โดยในนัดนี้กุนซือทีมชาติ อังกฤษ ได้โอกาสทดลองตัวผู้เล่นหน้าใหม่หลายคน ซึ่งก็ได้แสดงให้เห็นถึงปัญหาของเหล่าผู้เล่นที่ไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อนภายใต้ระบบของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ส่งผลให้ยังมีความไม่ลื่นไหลในเกมรุก รวมถึงมีจังหวะขาด ๆ เกิน ๆ ไปบ้างในช่วงครึ่งแรก ก่อนที่ในครึ่งหลังจะมาได้จุดโทษจากจังหวะ เอซรี่ คอนซ่า ถูกผลักในกรอบเขตโทษ และเป็น โคล พาลเมอร์ สังหารบอลเข้าไปตุงตาข่ายสำเร็จ หลังจากนั้น อังกฤษ เปลี่ยนตัวเอาผู้เล่นชุดตัวจริงลงมาทำให้เกมดูมั่นคงขึ้น ก่อนจะได้ประตูที่ 2 และ 3 ตามมาในช่วงท้ายเกมจาก อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แฮร์รี่ เคน
คะแนนนักเตะทีมชาติ อังกฤษ
จอร์แดน พิคฟอร์ด - 6.5/10
งานไม่ชุกสักเท่าไร ในช่วงต้นเกมมีจังหวะเตะเปิดเกมเสียไปบ้าง แต่นอกจากนั้นก็พยายามเป็นที่ซัพพอร์ทของเพื่อนได้ดีเมื่อทีมถูกบีบสูง
เอซรี่ คอนซ่า - 7.5/10
โชว์ผลงานเล่นสามตำแหน่งในหนึ่งเกม ช่วยสอดประสานเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง มีจังหวะเติมขึ้นไปช่วยเพื่อนเล่นเกมรุก แถมเป็นคนเรียกจุดโทษจนเป็นที่มาของประตูขึ้นนำในครึ่งหลัง
คีแรน ทริปเปียร์ - 6/10
ลงเล่นในฐานะกัปตันทีมในวันนี้ ยังไม่มีความโดดเด่นมากสักเท่าไร เพราะเจ้าตัวได้รับมอบหมายให้เล่นในตำแหน่ง แบ็คซ้าย ซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งที่เขาถนัด จึงไม่ได้เติมขึ้นไปทำเกมรุกเท่าที่ควร
ลูอิส ดังค์ - 6.5/10
เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น มีความแข็งแกร่งในการดวลลูกกลางอากาศชนะทุกครั้ง และมีส่วนร่วมในการช่วยเซ็ตบอลจากแดนหลังขึ้นมาได้โอเค
มาร์ค เกฮี - 6/10
แม้จะมีส่วนร่วมช่วยให้บรรดาตัวรุก บอสเนียฯ เล่นกันไม่ค่อยออก แต่ เกฮี ในวันนี้ยังเล่นได้ไม่ละเอียดเท่าที่ควร เสียใบเหลืองและมีจังหวะจ่ายบอลตัดสนามจนโดนฉกไปยิงเกือบเสียประตู
โคล พาลเมอร์ - 7.5/10
เบิกประตูแรกของตนเองกับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่ได้สำเร็จ ลงเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุก และมีหลายจังหวะที่ผ่านบอลเร็วให้เพื่อนเข้าไปทำประตูได้ดี เรียกได้ว่าไม่ต่างกับตอนเล่นให้ เชลซี ในฤดูกาลนี้
คอเนอร์ กัลลาเกอร์ - 7/10
เล่นได้โอเคในฐานะมิดฟิลด์คู่กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โดย กัลลาเกอร์ในบทบาททีมชาติ อังกฤษ จะไม่ได้สอดตัวขึ้นไปทำเกมรุกเหมือนตอนเล่นให้ เชลซี แต่เจ้าตัวก็ปัดกวาดชิงจังหวะเอาบอลมาให้เพื่อนได้อยู่เรื่อย ๆ รวมถึงท้ายเกมที่มีจังหวะลากลุยเดี่ยวขึ้นไปจนได้จบสกอร์
เอเบเรชี เอเซ - 7.5/10
ถือว่าหวือหวาใช้ได้สำหรับเกมที่สองของเขากับทีม สิงโตคำราม กล้าเลี้ยง กล้าเล่น ลากตะลุยเปิดทางให้เพื่อนได้เป็นอย่างดี รวมถึงเป็นผู้เล่นที่พยายามเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากที่สุดในเกมนี้อีกด้วย ดูแล้วคล้าย ๆ กับ ราฮีม สเตอริ่ง ช่วงพีค
จาร์รอด โบเวน - 6.5/10
ในครึ่งแรกดูไม่มีส่วนร่วมในการเล่นกับเพื่อนสักเท่าไร ส่วนครึ่งหลังมีความกล้าลากตะลุยมากขึ้น รวมถึงโอกาสได้สับไกแต่ไม่เป็นประตู ยังไม่ใช่ฟอร์มเหมือนตอนเล่นให้กับ เวสต์แฮม
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ - 7.5/10
ได้รับโอกาสลงเล่นในฐานะมิดฟิลด์ตามคาด ในช่วงครึ่งแรกเจ้าตัวยังดูไม่ได้มีความอันตรายในการทำเกมตามตำแหน่งสักเท่าไร แต่ในครึ่งหลัง เทรนต์ ปรับมาเล่นในตำแหน่ง แบ็คขวา จนสามารถเรียกคะแนนได้จากการสอดขึ้นมายิงประตูสุดสวยแบบไม่จับ ช่วยให้ อังกฤษ ทิ้งห่างออกไป 2-0
โอลลี่ วัตกินส์ - 6.5/10
ถือว่าแปลกใหม่สำหรับศูนย์หน้าทีมชาติ อังกฤษ เพราะเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งและความเร็ว น่าเสียดายที่ฟอร์มการจบสกอร์ในวันนี้ยังไม่เด็ดขาดมากพอ แต่สามารถหาช่องว่างวิ่งเข้าไปทำประตูได้ดีเลยทีเดียว
ตัวสำรอง
จาร์ราด แบรนธ์เวต - (แทน มาร์ค เกฮี น. 62') - 6/10
ถือว่าทำได้ไม่แย่ในเกมเดบิวต์ของเขากับทีมชาติ อังกฤษ ชุดใหญ่ ช่วยเกมรับได้พอสมควร แม้รับไป 1 ใบเหลือง
แจ็ค กรีลิช - (แทน เอเบเรชี เอเซ น. 61') - 6.5/10
ในขณะที่ เอเซ มอบความหวือหวาในเกมรุกให้กับ อังกฤษ กรีลิช ที่ลงมาให้ความรู้สึกมั่นคงทางด้านฝั่งซ้าย แนวรับคู่แข่งดูมีความผวามากขึ้น จน กรีลิช ได้โอกาสโยนเข้าไปให้ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงแบบไม่จับเป็นประตู
เจมส์ แมดดิสัน - (แทน โคล พาลเมอร์ น. 61') - 6.5/10
ลงมาสร้างโอกาสสวย ๆ ให้เพื่อนได้หลายลูก รวมถึงมีส่วนในการเล่นเกมรับอยู่พอสมควร
แฮร์รี่ เคน - (แทน ออลลี่ วัตกินส์ น. 61') - 7.5/10
แสดงให้เห็นว่าทำไมเขาจึงสำคัญกับทีมชาติ อังกฤษ มาตลอดหลายปี ลงมามีส่วนร่วนกับเกมไม่น้อย ช่วยให้เกมรุกของ อังกฤษ ยกระดับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด มีลูกยิงทักทายผู้รักษาประตูจากนอกกรอบ ก่อนจะมาทำประตูได้สำเร็จในนาทีที่ 89 ของเกม
อดัม วอร์ตัน - (แทน คีแรน ทริปเปียร์ น. 62') - 6.5/10
เล่นได้อย่างไม่เคอะเขินรุ่นพี่ กล้าเล่น กล้าเลี้ยง มีส่วนร่วมในการเชื่อมเกม และเข้าปะทะ ถือว่าใช้ได้เลยสำหรับเจ้าหนูคนนี้
โจ โกเมซ - (แทน ลูอิส ดังค์ น. 73') - 6/10
ลงมาวิ่งเล่นเรียกความฟิตช่วงท้ายเกม ไม่ได่มีจังหวะสำคัญอะไรมาก