ตัดเกรดนักเตะ สเปน และ เยอรมนี รอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024 นัดกระทิงดุทำช็อค ต่อเวลาสยบเจ้าภาพ 2-1 : Player Ratings
• เยอรมนี ตามตีเสมอ สเปน ท้ายเกม น.89 สเปน ก็กำชัยเขี่ยเจ้าภาพตกรอบ น.119
• และนี่คือคะแนนความสามารถของนักเตะ สเปน และ เยอรมนี ประจำเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024 นัดนี้
รายการ: ฟุตบอล ยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
วันแข่งขัน: วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2567
สนาม: เอ็มเอชพี อารีน่า, สตุ๊ตการ์ท
ผลการแข่งขัน : 90 นาทีเสมอ 1-1, ต่อเวลาพิเศษ สเปน ชนะ เยอรมนี 2-1
เดือดจัดๆ สมกับเป็นเกมที่ถูกจับตามอง เกมใหญ่สุดของรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024 โดยเฉพาะครึ่งหลังที่ สเปน เปิดสกอร์นำก่อนได้จาก ดานี่ โอลโม่ ซึ่งก่อนที่เกมจะจบด้วยสกอร์ 1-0 เยอรมนี ก็ฮึดทวงคืนได้จาก ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ กระนั้นก่อนจะต้องถึงดวลจุดโทษชี้ขาด มิเกล เมริโน่ ก็สวมบทฮีโร่ของชนชาติสเปน โขกพังประตูชัย 2-1 เขี่ยเจ้าภาพ เยอรมนี พ้นทางไป และ สเปน ได้เข้าสู่รอบตัดเชือก
คะแนนนักเตะ สเปน
อูไน ซิมอน - 7 - ไม่ต้องออกแรงเซฟประตูมากนัก และก็ต้องเป็นลูกเหนือบ่ากว่าแรงเท่านั้นถึงจะยอมปล่อยให้เป็นประตู ก่อนจะมาเซฟสำคัญอีกครั้งในนาที 116 ป้องกันลูกโขกของ นิคลาส ฟุลล์ครุก
มาร์ก กูกูเรย่า - 6 - ไม่ใช่เกมที่โดดเด่นหรือมีบทบาทมากมาย โดยเฉพาะเกมรุกที่เติมแทบไม่ขึ้น ก่อนที่จะมีโชค ทำแฮนด์บอลแต่ไม่เสียจุดโทษ จังหวะ จามาล มูเซียล่า ซัดมาชนแขนช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง
อายเมอริก ลาป๊อร์กต์ - 7 - นอกจากคุมเกมรับได้ดี ไม่เปิดช่องให้เจ้าภาพได้ลุ้นเสียวมากมาย ยังหาโอกาสดันช่วยเกมรุก เช่นนาที 23 ที่เดินหน้าขึ้นไปส่องเต็มข้อ เข้ามือ มานูเอล นอยเออร์ กระนั้นในที่สุดแล้วก็ต้านความคมของ สเปน ไม่อยู่
โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์ - 7 - เล่นด้วยความนิ่ง เข้าคู่กับรุ่นพี่อย่าง ลาป๊อร์กต์ ได้ดี แต่ก็ดันไปเสียใบเหลืองในครึ่งชั่วโมงแรก ซึ่งทำให้โดนถอดออกอย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มครึ่งหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนใบแดง
ดานี่ การ์บาฆัล - 6 - วิ่งขึ้นวิ่งลงประหนึ่งหุ่นยนต์ และเล่นเกมหนักเข้าปะทะแบบไม่หวั่นเกรงอยู่ตลอด กระทั่งต้องยอมสังเวยตัวเอง ดึงคู่แข่งล้มลงก่อนจะหลุดขึ้นริมเส้น จนตัวเองโดนเหลืองแดง และติดแบนอดเล่นรอบตัดเชือก
ฟาเบียน รุยซ์ - 8 - สอดเข้าซัดหน้าเขตโทษช่วงนาทีที่ 19 ซึ่งที่จริงน่าส่งให้เพื่อนมากกว่า จากนั้นโชว์เทคนิคชั้นเชิงได้อย่างน่าชมเชย หลายครั้งเอาชนะเกมแดนกลางด้วยการเล่นเหนือชั้น คู่แข่งจับทางไม่ถูก
โรดรี้ - 7 - เล่นด้วยความแข็งแกร่ง มีทั้งจังหวะเอาชนะแย่งบอลมาครอง และจังหวะทำเสียให้เห็นก็มี แต่แม้สุดท้ายจะไม่ใช่เกมที่โดดเด่นมากนัก ไม่มีโอกาสเติมขึ้นส่อง ก็ยังเป็นผู้ชนะ ได้ไปต่อในรอบตัดเชือก
เปดรี้ - 6 - สบโอกาสเติมเข้าซัดตั้งแต่นาทีเศษ แม้ยังเบาเข้ามือ นอยเออร์ แต่ก็ถือเป็นการส่งสัญญาณสำคัญ กระนั้นกลับโชคร้ายล้มเจ็บตั้งแต่นาทีที่ 7 หลังโดน โทนี่ โครส เหยียบเท้า จนต้องออกจากเกมตั้งแต่เนิ่นๆ
นิโก้ วิลเลี่ยมส์ - 7 - โอกาสจบแรกเป็นการลองส่องไกล ไม่ตรงกรอบ และต้องรอถึงนาที 36 ถึงจะมีโอกาสอีกครั้ง จังหวะลากผ่าน รูดิเกอร์ ไปส่องหาเสาแรก ไม่ผ่าน นอยเออร์ เท่ากับภาพรวมวูบวาบดี ที่จริงยังไม่น่าถูกถอดในครึ่งชั่วโมงท้าย
อัลบาโร่ โมราต้า - 6 - ครึ่งแรกยังเงียบๆ ไม่มีโอกาสจบ แต่ครึ่งหลังสามารถหาโอกาสทองได้ในเพียงนาที 47 ที่พลิกตัวตวัดยิงไปจากระยะแค่ 7 หลา แต่งัดข้ามคานไปน่าเสียดาย กระนั้นภาพรวมคือเกมนี้เงียบไปนิด
ลามีน ยามัล - 7 - พยายามใช้ทริกช็อต ยิงฟรีคิกต่ำระยะอันตราย นาทีที่ 15 แต่ก็ออกนอกกรอบไปไม่ได้ลุ้น แล้วจากนั้นต้องเจองานหนักในการบู๊กับ ดาวิด เราม์ รวมถึงแข้งตัวเก่งหลายรายของเจ้าภาพ ทำให้เป็นเกมที่ร่ายรำทำอะไรไม่สะดวก กระนั้นก็ทำแอสซิสต์ลูกสำคัญ เปิดสกอร์นำ 1-0 ต้นครึ่งหลัง ก่อนถูกถอดออก
สำรอง
ดานี่ โอลโม่ (แทน เปดรี้ น.8) - 9 - ลงไปยืนกลางรุกตรงกลางแทน เปดรี้ ที่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บ และมีจังหวะเล่นกับบอลไม่มากครั้งนักในครึ่งแรก แต่ก็มีโอกาสส่องสวยๆ นาที 39 ที่บีบให้ นอยเออร์ ต้องพุ่งเซฟไว้ แล้วเมื่อเข้าครึ่งหลัง ก็สอดจากแถวสองมายิงไม่จับ เปิดสกอร์นำ 1-0 ทำให้จากนั้นเล่นด้วยความมั่นใจ เทคนิคชั้นเชิงขนมาโชว์เต็มๆ กระทั่งบวก 1 แอสซิสต์ให้ มิเกล เมริโน่ โขกประตูชัย
นาโช่ เฟร์นานเดซ (แทน โรแบ็ง เลอ นอร์กม็องด์ น.46) - 7 - พยายามอย่างเต็มที่ในการสกัดกั้นเกมรุกของเจ้าถิ่น ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำได้ดี
เฟร์ราน ตอร์เรส (แทน ลามีน ยามัล น.62) - 5 - ลงไปเรียกใบเหลืองจากคู่แข่งได้ แต่ให้หลังแวบเดียวก็เสียใบเหลืองคืน และตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในสนาม ไม่ได้ทำประโยชน์เหมือนตอนมี ลามีน ยามัล อยู่ในเกม
มิเกล เมริโน่ (แทน นิโก้ วิลเลี่ยมส์ น.79) - 8 - เกือบจะเป็นสำรองที่ลงไปแค่ให้คนครบ ไม่มีประโยชน์อันใดจากเกมการเล่น แต่แล้วก็กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ขึ้นโขกลูกเปิดจาก โอลโม่ จมตาข่าย พา สเปน คว้าชัยอย่างไม่น่าเชื่อ
มิเกล โอยาร์ซาบัล (แทน อัลบาโร่ โมราต้า น.79) - 6 - ไม่ได้ทำอะไรมากนักเมื่อ เยอรมนี เอาบอลไปครองมากกว่าตอนท้าย โดยพอจะมีโอกาสส่องบ้างในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่ยังไม่อันตรายมากพอ
โฆเซลู (แทน ฟาเบียน รุยซ์ น.103) - 5 - ลงไปเสริมเกมรุกในช่วงท้ายครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แต่แทบไม่ได้สัมผัสบอล แม้สุดท้ายจะได้ฉลองใหญ่ก็ตาม
คะแนนนักเตะ เยอรมนี
มานูเอล นอยเออร์ - 7 - ครึ่งแรกมีจังหวะเซฟช่วยทีมไว้ 2-3 หน ซึ่งไม่นับว่าเหนือบ่ากว่าแรง แต่ก็ช่วยไม่ได้ในประตู 1-0 ของ สเปน ที่ โอลโม่ ยิงเข้ามุมพอดิบพอดี รวมถึงลูกตัดสินเกม ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกันเมื่อเป็นการโหม่งที่ยอดเยี่ยมมากของ มิเกล เมริโน่
ดาวิด เราม์ - 7 - เผชิญหน้ากับเด็กระเบิดอย่าง ยามัล ได้อย่างยอดเยี่ยม แสดงถึงความแข็งแกร่งกว่าในหลายจังหวะ แถมยังเติมเกมรุกได้ดีด้วย ซึ่งก็น่าแปลกใจที่ถูกเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง ทั้งที่ควรใช้โควตาไปกับเกมรุกมากกว่า
โจนาธาน ทาห์ - 6 - มีประโยชน์สูงในเกมรับ โดยเฉพาะการตามประกบติด อัลบาโร่ โมราต้า ชนิดเป็นเงาตามตัว และมีจังหวะการเล่นลูกกลางอากาศที่เชื่อถือได้
อันโตนิโอ รูดิเกอร์ - 7 - โดนใบเหลืองเร็วมากในเพียงนาทีที่ 13 ซึ่งทำให้ต้องระมัดระวังตัวทุกจังหวะหลังจากนั้น แต่ภาพรวมก็ถือว่าไม่ใช่เกมที่แย่ แค่ปิดการเจาะ 2 ครั้งของ สเปน ไม่อยู่เท่านั้น
โยชัว คิมมิช - 8 - เล่นด้วยคุณภาพสูงทั้งรุกรับ โดยเฉพาะการเติมเกมริมเส้น เช่นการทะลุขึ้นไปเปิดเข้าหัว ไค ฮาแวร์ตซ์ โหม่งลุ้นสกอร์ น.21 และในขณะที่ทีมจะเพลี่ยงพล้ำ ก็ดันเกมขึ้นสุด ไปโขกชงให้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ลั่นไกตีเสมอก่อนจบ 90 นาที
โทนี่ โครส - 6 - เล่นผิดจังหวะเล็กๆ ในตอนต้น โดยเฉพาะช็อตเหยียบเท้า เปดรี้ จนฝ่ายหลังเดี้ยงต้องเปลี่ยนออกทันที จากนั้นจังหวะออกบอลสวยๆ มีให้เห็นค่อนข้างจำกัด รวมถึงต้องพยายามช่วยเกมรับ และโดนใบเหลืองไปหลังฟาวล์เล็กฟาวล์น้อยหลายครั้ง
เอ็มเร่ ชาน - 6 - แทรกลงตัวจริงอย่างเซอร์ไพรส์ ทั้งที่ถูกเรียกติดธงในฐานะมวยแทน โดยแม้ครึ่งแรกจะไม่มีบทบาทเล่นกับบอลมากจังหวะนัก แต่ก็เผชิญหน้ากับแดนกลางของ สเปน ได้อย่างไม่เป็นรอง ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าคู่แข่ง
เลรอย ซาเน่ - 6 - ได้ลงตัวจริงต่อเนื่องแทน ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ แต่ครึ่งแรกแทบไม่ได้โชว์ลีลาอะไรเลย ตรงกันข้ามต้องถอยร่นมาช่วยจัดการกับ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ อยู่หลายครั้ง และไม่ได้ไปต่อในครึ่งหลัง
อิลคาย กุนโดกัน - 5 - ถัดจากเกมที่แล้วซึ่งเล่นได้ค่อนไปทางไม่ค่อยดี มาเกมนี้แม้จะพยายามวิ่งเยอะ แต่ก็แทบหาโอกาสเจาะหลังบ้าน สเปน เพื่อเข้าทำไม่ได้ เช่นเดียวกับไม่สร้างประโยชน์ในเกมรับ จนถูกเปลี่ยนออกอีกครั้งในนาที 57
จามาล มูเซียล่า - 6 - วิ่งขึ้นวิ่งลง สอดส่ายหาบอล ช่วยทีมเยอะทั้งเกมรุกเกมรับ แต่ขณะเดียวกันก็โดนปิดกั้นเกมบุกจนทำอะไรได้ไม่ถนัด ไม่เฉิดฉายเหมือนเกมก่อนๆ
ไค ฮาแวร์ตซ์ - 4 - สบโอกาสขึ้นโขกลูกเปิดของ คิมมิช โล่งๆ ในนาที 21 แต่ขวิดเบาไปหน่อยจนลูกเข้ามือ อูไน ซิมอน ไม่ลำบาก เช่นเดียวกับนาที 35 ที่ได้กดระยะอันตราย ก็เบาไปเช่นเดิม ส่วนครึ่งหลังก็แทบไม่ต่าง คือแม้จะหาพื้นที่ดี สร้างโอกาสได้ แต่จบทื่อเกินไปมาก โดยเฉพาะท้ายเกมที่่ชิปโล่งๆ จากนอกเขตโทษ ข้ามคานน่าผิดหวัง ต่อด้วยโขกเน้นๆ ไม่ผ่านเซฟนายทวาร
สำรอง
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ (แทน เลรอย ซาเน่ น.46) - 8 - สร้างความวูบวาบในเกมรุกได้มากกว่า ซาเน่ ชัดเจน โดยมีโอกาสส่องเข้าข้อนาที 60 แต่ติดบล็อกจนได้แค่เตะมุม โดยแม้บางครั้งจะขาดความเนี้ยบไปบ้าง แต่ท้ายเกมนาที 89 ก็มาเป็นฮีโร่ของทีม ตวัดยิงชนเสาไกลเป็นประตูตีเสมอ 1-1
โรเบิร์ต อันดริช (แทน เอ็มเร่ ชาน น.46) - 5 - ลงไปเพื่อเพิ่มความสดและความดุดันในแดนกลาง แต่ก็ช่วยไม่ได้สำหรับการเสียประตู 0-1 ต้นครึ่งหลังที่โดน โอลโม่ โฉบมายิงต่อหน้า และจากนั้นยังเสียใบเหลืองอย่างไม่จำเป็นอีก แต่ก็เกือบยิงตีเสมอได้เหมือนกัน น.69 ที่ติดซูเปอร์เซฟ อูไน ซิมอน
นิคลาส ฟุลล์ครุก (แทน อิลคาย กุนโดกัน น.57) - 7 - ใช้ความแข็งแกร่งสร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับ สเปน ได้ดี และน่าทำประตูได้อย่างยิ่งในนาที 77 ที่โชคร้ายลูกเข้าชาร์จของเขาไปชนเสาเข้าอย่างจัง เช่นเดียวกับลูกโขก น.120+ ที่หลุดเสาแค่คืบ
มักซิมิเลียน มิทเทลสตัดท์ (ดาวิด เราม์ น.57) - 6 - ลงไปเสริมความสดชื่นเกมรับริมเส้นซ้าย แต่ที่จริงน่าเก็บโควตาเปลี่ยนตัวไว้ใช้กับจุดอื่นมากกว่า
โธมัส มุลเลอร์ (แทน โจนาธาน ทาห์ น.80) - 7 - ลงไปสร้างความวูบวาบคุกคามได้ดีพอสมควร น่าเสียดายที่โอกาสจบด้วยตัวเองไม่มีมาถึง
วัลเดมาร์ อันโทน (แทน ไค ฮาแวร์ตซ์ น.91) - 6 - โควตาที่ 6 ของการเปลี่ยนตัว สำหรับเติมเกมรับช่วงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งก็ไม่ได้เล่นแย่ เพียงแต่เปิดที่ทางให้ มิเกล เมริโน่ โขกประตูชัยเท่านั้น