ตัดเกรดนักเตะ ลิเวอร์พูล เกม พรีเมียร์ลีก นัดหวิดหลับยังกลับมาได้ รัวแซง ลูตัน ทาวน์ 4-1 : Player Ratings

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567
สนาม: แอนฟิลด์
ผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 4-1 ลูตัน ทาวน์

แม้โดยชื่อชั้น โดยฟอร์มการเล่น ลิเวอร์พูล จะเหนือกว่า ลูตัน ทาวน์ เยอะอยู่แล้ว แต่เมื่อดูไลน์อัพแล้วก็น่าเสียวไส้แทน เดอะ ค็อป ว่านี่มันทีมสำรองชัดๆ และจะไหวหรือไม่อย่างไร ซึ่งครึ่งแรกก็ยิ่งทำให้หนักใจขึ้นอีกเมื่อ ลูตัน ออกนำจาก ชิโดซี่ อ๊อกเบเน่ กระนั้นครึ่งหลังปรากฏว่า ลิเวอร์พูล เร่งเครื่องได้ทัน จนจ้วงเอาๆ จาก เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โคดี้ กัคโป, หลุยส์ ดิอาซ, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ จนกำชัยขาดลอย 4-1 ทิ้ง แมนฯ ซิตี้ 4 แต้มตามเดิม

คะแนนนักเตะ ลิเวอร์พูล

ควีวิน เคลเลเฮอร์ - 6 - ออกสตาร์ทได้เยี่ยมเลยกับจังหวะสาดให้ หลุยส์ ดิอาซ หลุดเดี่ยว (แต่ทำเสียของ) ใน 3 นาทีแรก กระนั้นก็ออกจะพลาดหน่อยๆ กับลูกซัดของ ทาฮิธ ชอง ที่เอาไม่อยู่ ปลิ้นไปเสาสองจนเสร็จ อ๊อกเบเน่ โขกประตูนำในนาที 12 ส่วนถัดจากนั้นแล้วแทบไม่มีงานให้ทำ

โจ โกเมซ - 7 - ได้โอกาสกลับคืนตัวจริงอีกครั้งแทนที่ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน และแม้ไม่ใช่เกมที่มีบทบาทมากนัก แต่ก็มีส่วนสร้างประโยชน์ในการเติมเกมรุกอยู่หลายจังหวะ รวมถึงต้องโยกไปเล่นแบ็กขวาด้วยในครึ่งหลัง

เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - 8- ที่จริงไม่ใช่เกมที่ต้องทำงานหนัก เมื่อ ลิเวอร์พูล ครองบอลเหนือกว่ามาก และไม่ถูกทดสอบจากเกมรุก ลูตัน มากนัก แต่ก็เป็นคนสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญกับการโขกเตะมุมเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ต้นครึ่งหลัง น.56 ที่ทำให้หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล รัวใส่เป็นชุดจนกำชัยได้

จาร์เรลล์ ควอนซาห์ - 7 - เช่นเดียวกับ ฟาน ไดค์ คือนอกจากจังหวะเสียประตูเปิดเกมแล้ว ก็ไม่ได้ถูกทดสอบจากเกมรุก ลูตัน ทาวน์ เท่าไหร่นัก โดยรวมถือว่าเอาอยู่ แม้ไม่โดดเด่นมีส่วนร่วมกับเกมมากมาย

คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์ - 7 - ยังคงเล่นด้วยมาตรฐานสูงอย่างต่อเนื่อง เกมรับไม่ใช่ปัญหา และเกมรุกก็สร้างปัญหาให้ ลูตัน ได้ชัดเจน เกือบจะยิงแซง 2-1 ด้วยในนาที 58 แต่ติดเซฟ โธมัส คามินสกี้ หวุดหวิด

ไรอัน กราเฟนแบร์ก - 7 - ได้โอกาสลงตัวจริงบ้าง และเน้นเกมรุกมากเป็นพิเศษ ครึ่งแรกมีทั้งโอกาสส่องไกลด้วยตัวเองและจ่ายสวยๆ ให้เพื่อน แต่ยังไม่เห็นผล ส่วนครึ่งหลังเงียบๆ ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้สร้างข้อผิดพลาดอะไร

วาตารุ เอ็นโด - 7 - แสดงให้เห็นชัด (มาพักใหญ่แล้ว) ว่าสอบผ่านกับเกมระดับ พรีเมียร์ลีก อย่างไม่มีปัญหา ทั้งการคุมแดนกลาง การออกบอล การตัดจังหวะคู่แข่ง สำหรับการเน้นรับ ยืนต่ำสุดในแผงมิดฟิลด์

อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ - 8 - เล่นด้วยความเยือกเย็น ไม่ตื่นตระหนก และมีคุณภาพสูงเหมือนเช่นเคย แอสซิสต์สำคัญจากเตะมุมให้ ฟาน ไดค์ โหม่งตีเสมอ 1-1 ก่อนตวัดจากสุดเส้นหลังให้ โคดี้ กัคโป โขกประตูแซงนำ 2-1 หลังตีเสมอได้แวบเดียว เท่ากับเกมนี้มี 2 แอสซิสต์เลย

หลุยส์ ดิอาซ - 8 - เริ่มต้นได้ไม่ดีนักกับช็อตสาดให้หลุดเดี่ยวแล้วของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ซึ่งปีกโคลอมเบียมัวแต่แต่ง ไม่ยอมยิงจนเสียจังหวะไปเอง และยังต่อเนื่องด้วยอีกนาทีถัดมา ที่ได้ส่องเข้าข้อเท้าซ้ายแต่กดหลุดเสาไปเอง จนครึ่งแรกมีโอกาสเยอะกว่าใครแต่พลาดไปหมด แต่ครึ่งหลังก็แก้ตัวสำเร็จ พังประตู 3-1 จังหวะโยกไปส่องเสียบเสาแรกสวยๆ

โคดี้ กัคโป - 8 - ทำได้ดีเลยกับจังหวะซันแบ๊ก ทิ้งตัวยิงกลับหลังในสิบนาทีแรก ที่ดันไปตรงตัวนายด่านทีมเยือนเสีย จากนั้นต้นครึ่งหลังก็น่าได้อีกกับช็อตกดยัดเสาแรก ติดซูเปอร์เซฟ คามินสกี้ จนคลำเป้าเจอจนได้ในนาที 59 ที่โขกยัดลูกตวัดเปิดของ แม็ค อัลลิสเตอร์ เข้าไปในสกอร์แซงนำ 2-1

ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ - 8 - แม้โดยธรรมชาติจะเป็นมิดฟิลด์ แต่ไม่เคอะเขินเลยแม้แต่น้อยกับการดันสูงขึ้นยืนปีกซ้าย ด้วยลักษณะการเล่นที่เน้นจ่ายบอลมากกว่ากระชากลากเลื้อยด้วยตัวเอง ก็ทำให้เพื่อนได้ประโยชน์ไปด้วย ก่อนปิดเกมอย่างยอดเยี่ยมด้วยประตูปิดกล่อง เก็บตกลูกสกัดกองหลังมาเข้าทาง น.90

สำรอง

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (แทน คอเนอร์ แบร๊ดลี่ย์ น.68) - 7 - แม้ไม่ได้โอกาสเล่นกับลูก หรือกระชากลากเลื้อยเติมเกมขึ้นสุดมากครั้งนัก แต่ยังมี 1 แอสซิสต์จังหวะจิ้มให้ หลุยส์ ดิอาซ สอยเม็ด 3-1

บ๊อบบี้ คล้าร์ก (แทน ไรอัน กราเฟนแบร์ก น.78) - 6 - ได้โอกาสสัมผัสเกมช่วงท้าย รวมถึงทดเจ็บ 8 นาที แต่ไม่ถือว่าได้โชว์ผลงานอะไรมากมาย

เจมส์ แม็คคอนเนลล์ (แทน อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ น.89) N/A อยู่ในสนามแค่แวบเดียว ถือเสียว่าแค่ให้ได้สัมผัสบรรยากาศ พรีเมียร์ลีก

เจย์เดน แดนน์ส (แทน หลุยส์ ดิอาซ น.89) N/A เช่นเดียวกับ แม็คคอนเนลล์ คือถูกเปลี่ยนลงไปผลาญเวลาตอนท้าย รวมถึงให้ได้ลองลิ้มชิมรสเกมระดับสูงดูบ้าง