ตัดเกรดนักเตะ แมนซิตี้-อาร์เซนอล ศึกพรีเมียร์ลีก นัดเจ๊าเดือด 2-2 เมื่อคืนที่ผ่านมา : Player Ratings

  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกือบเอาตัวไม่รอดยิงท้ายเกมตีเสมอ อาร์เซนอล 2-2
  • ปืนใหญ่ เหลือ 10 คนตั้งแต่ท้ายครึ่งเวลาแรก
  • เรือใบสีฟ้า กลับขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง
Manchester City FC v Arsenal FC - Premier League
Manchester City FC v Arsenal FC - Premier League / James Gill - Danehouse/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ

พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2024/25

วันแข่งขัน

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567

สนาม

เอติฮัด สเตเดี้ยม

ผลการแข่งขัน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-2 อาร์เซนอล


เกมพรีเมียร์ลีก นัดบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อาร์เซนอล

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ยิงประตูได้อีกแล้ว เมื่อซัดให้ แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 9 แต่จากนั้น อาร์เซนอล ยิงคืนสองลูกรวดจากสองกองหลังอย่าง ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ และ กาเบรียล มากัลเญส นาทีที่ 22 และ 45+1 ตามลำดับ

"ปืนใหญ่" ต้องเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก หลังจาก เลอันโดร ทรอสซาร์ ไปเตะบอลทิ้ง เลยได้ใบเหลืองที่สองโดนไล่ออกจากสนาม

ครึ่งหลังทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ที่เป็นรองตัวผู้เล่นเล่นเกมรับแบบเต็มสูบ แล้วทำท่าว่าจะเก็บ 3 แต้มอยู่หลัด ๆ แต่สุดท้าย จอห์น สโตนส์ ยิงตีเสมอให้ "เรือใบสีฟ้า" แบบเหลือเชื่อนาที 90+8 จบเกมเสมอกันไป 2-2


คะแนนนักเตะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เอแดร์ซอน – 4/10

หมดสิทธิ์ป้องกันประตูสุดสวยของ คาลาฟิออรี่ แต่น่าจะออกมาตัดบอลกดดันได้ดีกว่านี้สำหรับลูกโหม่งระยะเผาขนของ กาเบรียล

ไคล์ วอล์คเกอร์ – 3/10

แม้มีความเร็วเป็นจุดแข็ง แต่เกมนี้โดน มาร์ติเนลลี่ เผาขนหลายครั้ง รวมถึงประตูแรกของ อาร์เซนอล รวมถึงเบียดเอาชนะ กาเบรียล ไม่ได้จนเสียประตูที่สอง แม้มีโอกาสยิงไกลทดสอบ ราย่า อยู่บ้างก็ตาม

มานูเอล อคานจี – 6/10

คุมแผงเกมรับได้ดี จ่ายบอลแม่นยำ นอกเหนือจากประตูของ กาเบรียล แล้ว กองหลังสวิสรายนี้เล่นลูกกลางอากาศได้อย่างแข็งแกร่ง

รูเบน ดิอาส – 6/10

มีส่วนอย่างมากทั้งเกมรับและเกมรุก ไม่มีอะไรผิดพลาดก็จริง แต่ก็ไม่ยังไม่ได้อยู่ในระดับมาตรฐานที่สูงของตัวเอง

ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – 6/10

บีบไม่ให้ ซาก้า เล่นได้ง่าย จนสุดท้ายแนวรุกชาวอังกฤษต้องถูกเปลี่ยนตัวช่วงพักครึ่ง ครึ่งหลังได้เติมเกมบุกรัว ๆ แล้วน่าจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูด้วยซ้ำ

โรดรี้ – 6/10

โชคร้ายที่เจ็บจังหวะกระแทกกับ ปาร์เตย์ จนอยู่ในสนามได้ไม่ถึง 20 นาทีเท่านั้น ต้องมาลุ้นอีกทีว่าพักนานแค่ไหน แต่เมื่ออยู่ในสนามเกมของเจ้าบ้านดูดีมาก ๆ

อิลคาย กุนโดกัน – 5/10

น่าจมีชื่อเป็นผู้ทำประตูตั้งแต่ต้นเกม รวมถึงจังหวะฟรีคิกที่ดันยิงไปชนเสา ฟอร์มค่อย ๆ หดหายไประหว่างเกม โดยเฉพาะการประสานงานกับ ฮาแลนด์ ที่ดูติด ๆ ขัด ๆ

ซาวินโญ่ – 8/10

น่าจะเป็นนักเตะ แมนฯ ซิตี้ ที่ดีที่สุดในเกมนี้แล้ว จับบอลจังหวะแรกได้เปรียบได้แทบตลอด และเป็นคนแอสซิสต์อย่างสวยงามให้กับ ฮาแลนด์ ยิงขึ้นนำ เขาทำให้ คาลาฟิออรี่ ต้องเจองานที่ยากลำบากตลอดทั้งเกม และยังเรียกใบเหลือง 2 ใบด้วย

แบร์นาร์โด้ ซิลวา – 7/10

เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น พยายามสอดเข้าไปในเขตโทษบ่อยครั้ง แต่ไม่สามารถปลดล็อกแนวรับที่แข็งโป้กของ อาร์เซนอล ได้

เฌเรมี่ โดกู – 4/10

โดน ทิมเบอร์ ปิดตายจนทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแทบไม่ได้เลย เมื่อเปรียบเทียบกับ ซาวินโญ่ ในตำแหน่งปีกฝั่งตรงข้าม ไม่แปลกใจเลยว่าที่ โฟเด้น จะถูกส่งลงมาแทนในช่วงครึ่งหลัง

เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ – 6/10

ทำประตูได้อีกแล้ว ยิงได้ทุกเกมเลย และนับเป็นประตูที่ 100 ของเจ้าตัวในสีเสื้อ แมนฯ ซิตี้ อีกด้วย! ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายแล้ว

ตัวสำรอง

มาเตโอ โควาซิช (แทน โรดรี้ น. 21') – 5/10 – มีช็อตที่จ่ายบอลพลาดไปบ้าง ขาดความเด็ดขาดเมื่อเทียบกับตอนมี โรดรี้

ฟิล โฟเด้น (แทน โดกู น. 70') – 6/10 – พยายามอย่างสุดความสามารถแล้วแต่เอาชนะแนวรับทีมเยือนไม่ได้

จอห์น สโตนส์ (แทน วอล์คเกอร์ น. 79') – 7/10 – ยืนถูกที่ถูกเวลาจนเป็นที่มาของประตูตีเสมอก่อนจบเกม

แจ็ค กรีลิช (แทน ซาวินโญ่ น. 79') – 6/10 – มีส่วนสำคัญสำหรับประตูตีเสมอ เมื่อเปิดบอลยัดเข้าเขตโทษ


คะแนนนักเตะ อาร์เซนอล

ดาบิด ราย่า – 9/10

เซฟมือเป็นระวิงเลย เมื่อทีมต้องเป็นฝ่ายเล่นเกมรับตลอดครึ่งหลัง น่าเสียดายที่เซฟลูกยิงจ่อ ๆ ของ สโตนส์ ไม่ไหว แต่กระนั้นก็คู่ควรกับแมนออฟเดอะแมตช์

เยอร์เรียน ทิมเบอร์ – 8/10

ดูเป็นธรรมชาติเลยเมื่อขยับมาเล่นเป็นแบ็คขวาเมื่อเทียบกับแบ็คซ้ายก่อนหน้านี้ ต้องรับมือกับความเร็วของ โดกู แต่ก็ทำได้ดีเกินคาด

วิลเลี่ยม ซาลิบา – 8/10

นิ่งใช้ได้เลยเมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน และแข็งแกร่งเมื่อต้องดวลกับ ฮาแลนด์ แม้ปล่อยให้หัวหอกชาวนอร์เวย์ยิงขึ้นนำได้ แต่นอกนั้นเขารับมือได้ดีเลย

กาเบรียล มากัลเญส – 8/10

อาจมีส่วนรับผิดชอบกับประตูแรกที่ยืนห่างเกินไปจนปล่อย ฮาแลนด์ ได้มีพื้นที่ยิง แต่เป็นอีกครั้งที่กองหลังชาวบราซิลขึ้นไปโหม่งทำประตู ตั้งแต่นั้นมาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างเกม

ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ – 8/10

โดน ซาวินโญ่ เล่นงานจนปล่อยให้รายหลังจ่าย ฮาแลนด์ ทำประตูขึ้นนำ และต้องดิ้นรนรับมือกับปีกรายนี้หลายครั้งในครึ่งแรก กระนั้นยิงประตูตีเสมอ 1-1 ได้อย่างสุดสวย ก่อนเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัว

บูกาโย่ ซาก้า – 6/10

ทำไป 1 แอสซิสต์จากการเปิดเตะมุมให้ กาเบรียล โหม่งแซงขึ้นนำ แม้ไม่มีอะไรผิดพลาด แต่ต้องเสียสละถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง

โธมัส ปาร์เตย์ – 7/10

ทำหน้าที่ป้องกันแนวรับได้ดี และครึ่งหลังไม่ต้องวิ่งเยอะนักเพราะ อาร์เซนอล ตั้งรับลึก จนกลายเป็นเกราะป้องกันอีกชั้นในแนวรับของเจ้าบ้าน

เดแคลน ไรซ์ – 7/10

แสดงให้เห็นว่าสำคัญต่อแดนกลางของทีมมากขนาดไหน เกมรับแทบไม่มีอะไรผิดพลาดเลย รวมถึงพยายามสนับสนุนเกมรุกยามจำเป็นด้วย แต่ครึ่งหลังเน่รับอย่างเดียวเลย

กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ – 8/10


โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในครึ่งแรกที่แอสซิสต์ให้ คาลาฟิออรี่ ยิงสุดสวย เอาชนะ วอล์คเกอร์ ได้หลายครั้ง ถือเป็นตอบโต้เสียงวิจารณ์ก่อนหน้านี้ได้ดีทีเดียว

ไค ฮาแวร์ตซ์ – 8/10

ไม่หวั่นที่จะต้องเล่นเกมรับ แล้วก็ช่วยได้เยอะมาก ๆ รวมถึงคอยสอดซ้อนพื้นที่ด้านข้างของ ทิมเบอร์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

เลอันโดร ทรอสซาร์ – 3/10

ผลงานที่น่าประทับใจทำให้เขาได้เล่นตัวจริง แต่ใบเหลืองที่สองของเขาที่ไปเตะบอลทิ้งนั้นโหดร้ายไปหน่อย

ตัวสำรอง

เบน ไวท์ (แทน ซาก้า น. 46') – 7/10 – เซอร์ไพรส์เล็กน้อยที่ออกสตาร์ทในฐานะตัวสำรอง แต่เมื่อลงมาแล้วก็ช่วยยกระดับเกมกราบขวาได้ดีเลย

ยาคุบ คิวิออร์ (แทน คาลาฟิออรี่ น. 74') – 6/10 – ไม่มีข้อผิดพลาดอะไร แถมยังช่วยให้เกมรับฝั่งซ้ายรัดกุมขึ้นด้วย

กาเบรียล เชซุส (แทน มาร์ติเนลลี่ น. 88') – N/A –

ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ (แทน ทิมเบอร์ น. 90') – N/A –