ตัดเกรดนักเตะ เชลซี เกม พรีเมียร์ลีก นัดตกค้าง สิงห์กลายเป็นแมวเหมียว โดน แมนยู ขยี้ 4-1 : Player Ratings

Manchester United v Chelsea FC - Premier League
Manchester United v Chelsea FC - Premier League / Naomi Baker/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2022/23
วันแข่งขัน: วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2023
สนาม: โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
ผลการแข่งขัน:
แมนฯ ยูไนเต็ด 4-1 เชลซี

นิยามเกมนี้คงมีสั้นๆ เพียงว่า "สมบูรณ์แบบ" คือสมบูรณ์แบบทั้งฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ชนะเกมสำคัญได้ตามเป้า การันตีตั๋วลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อยไม่ต้องรอถึงนัดสุดท้าย และยังสมบูรณ์แบบสำหรับ เชลซี ว่าเละเทะสะเปะสะปะได้ใจ เป็นภาพที่เผยบทสรุปอันแสนเลวร้ายของทีมตราสิงห์ได้อย่างโป๊เปลือย

คะแนนนักเตะ เชลซี

เคปา อาร์ริซาบาลาก้า - 6
หมดสิทธิ์ป้องกันลูก 1-0 ที่มาจากจังหวะเปิดฟรีคิก ตามด้วยทดเจ็บครึ่งแรกเสีย 2-0 จากลูกช่วยไม่ได้เหมือนเดิม จากนั้นต้นครึ่งหลังมีช็อตเซฟสวยๆ จังหวะเข้าชาร์จโดนไม่ดีของ เอริคเซ่น แต่ท้ายสุดก็มาโดน 3-0 จนได้จากจุดโทษ และ 4-0 จากการพลาดของเพื่อน

ลูอิส ฮอลล์ - 6
แสดงถึงแววดีด้วยการขึ้นสุดทางฝั่งซ้าย เปิดป้อนให้ มูดริค เกือบยิงได้ตั้งแต่ 4 นาทีแรก จากนั้นก็เล่นอย่างมั่นใจ มีจังหวะเอาชนะ เจดอน ซานโช่ ได้ ทว่าก็ยืนตำแหน่งผิดจนเสียลูก 2-0 ส่วนครึ่งหลังมีโอกาสซัด 1 ครั้งติดเซฟ เด เคอา โดยรวมถือว่าเกมรุกน่าสนใจ แต่เกมรับยังมีตำหนิ

เวสลี่ย์ โฟฟาน่า - 0
ตามเข้าประกบ กาเซมิโร่ ไม่ทันจนเสียประตูแรกเร็ว เช่นเดียวกับไม่อาจป้องกันลูก 2-0 ได้ไหว ก่อนจะเตะ บรูโน่ จนเสียจุดโทษ 3-0 แล้วก็ตอกย้ำความเละเทะด้วยการจ่ายไม่ตรงเพื่อน โดนฉกและโดน แรชฟอร์ด ลุยผ่านไปเช็คบิล 4-0 เรียกว่าฟอร์มเกมนี้ อาจแย่สุดเท่าที่เล่นอาชีพมาเลยก็ได้

เทรโวห์ ชาโลบาห์ - 3
ยืนผิดตำแหน่งอย่างสิ้นเชิงในลูกฟรีคิกที่เสียประตูแรกตั้งแต่นาทีที่ 6 จากนั้นก็เล่นอย่างสั่นไหว ไม่มีประโยชน์กับเกมรับอย่างที่ควรจะเป็น ไม่ต้องพูดถึงเกมรุกที่ไร้บทบาทเช่นกัน

เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - 4
สกัดจังหวะสำคัญไม่ให้ มาร์กซิยาล ยิงลูก 2-0 ในนาทีที่ 19 แต่ชัดเจนว่าอายุอานามทำให้เติมเกมไม่ขึ้น เกมรุกทางฝั่งขวาบอดสนิท กระทั่งเสีย 2-0 จนได้ตอนทดเจ็บครึ่งแรก จากนั้นก็ขึ้นสูงจนโดนสวน เสียจุดโทษและ 3-0

เอ็นโซ เฟร์นานเดซ - 3
รับบทตัวออกบอลจากแดนกลางเหมือนเช่นเคย แต่ก็ตรงบ้างไม่ตรงบ้าง เช่นเดียวกับเพื่อนรอบข้างที่ตอบสนองบ้างไม่ตอบสนองบ้างเหมือนเดิม แต่ที่เป็นปัญหากว่านั้นคือ หน้าที่ของเขาคือตัวรับ...ที่ไม่ได้เล่นเกมรับเลย ไม่อาจปิดกั้นเกมบุกขึ้นตรงกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สักนิด และยังมีช็อตฮึดฮัดไม่เข้าเรื่องหลังเสียลูกสาม

มิไคโล มูดริค - 3
มีโอกาสจบงามๆ โล่งๆ ตั้งแต่ 4 นาทีแรก แต่ตั้งเท้าผิดจนยิงออกไปง่ายๆ จากนั้นก็เล่นแบบขาดๆ เกินๆ ไม่ลงล็อกอยู่ตลอด จนน่าตั้งคำถามกันแล้วว่า จะต้องใช้เวลาปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษอีกนานแค่ไหน

คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ - 4
ยืนสูงกว่าใครในแผงมิดฟิลด์ จนเหมือนเป็นหน้าต่ำคอยสนับสนุน ฮาแวร์ตซ์ โดยครึ่งแรกมีโอกาสส่องไกล 1 ครั้ง ไม่ตรงกรอบ และส่องใกล้ระยะอันตราย 1 ครั้ง เฉี่ยวเสาอย่างน่าเสียดาย จากนั้นต้นครึ่งหลังเสียบอลง่ายจนหวิดโดนเม็ดสาม และค่อยๆ หายจากเกมจนโดนถอดออก

คาร์นี่ย์ ชุควูเมก้า - 5
ได้สตาร์ทตัวจริงอย่างเซอร์ไพรส์ และเล่นด้วยความมุ่งมั่น มีจังหวะเติมเกมขึ้นสูงอยู่บางครั้ง แต่ก็แน่นอนว่ายังขาดคุณภาพ และต้องสั่งสมประสบการณ์ระดับสูงอีกมาก

โนนี่ มาดูเอเก้ - 5
ได้เล่นกับบอลเยอะทีเดียวที่กราบขวา แต่ก็เจองานหนักกับการเผชิญหน้า ลุค ชอว์ ที่เชิงบอลเหลื่อมกว่าพอตัว ทำให้เอาชนะไม่ค่อยได้ ก่อนที่ครึ่งหลังจะง่ายขึ้นหน่อยเมื่อเปลี่ยนคู่ดวลเป็น ไทเรลล์ มาลาเซีย ทว่าก็ดันได้บอลน้อยลงไปเสีย

ไค ฮาแวร์ตซ์ - 3
ยังคงได้โอกาสลงยืนหน้าเป้าแม้ผลงานช่วงที่ผ่านมาจะไม่ดี ซึ่งเกมนี้ก็ยังคงไม่ดีอยู่นั่นเอง ครึ่งแรกได้โอกาสโขกเหน่งๆ หลุดกรอบไปเอง ตามด้วยยิงเน้นๆ ในจุดอันตราย เฉี่ยวเสาออกไป ส่วนครึ่งหลังได้โหม่ง 1 ครั้ง เบาหยองเข้ามือ เด เคอา

สำรอง
เจา เฟลิกซ์ (แทน ฮาแวร์ตซ์ น.64) - 7

ลงไปค้ำหน้าเป้าแทน ฮาแวร์ตซ์ และกระชากลูกลุยเดี่ยวจากกลางสนามเข้าไปซัดปิดสกอร์แจ่มๆ น่าเสียดายคือเป็นเพียงลูกตีไข่แตก ไล่มาห่างๆ 1-4 เท่านั้น

คริสเตียน พูลิซิช (แทน มูดริค น.64) - 4
เข้าชาร์จ เด เคอา จนเสียฟาวล์และมีเรื่องมีราวปะทะคารม ถ้าทำได้แค่นี้ก็มไรู้จะลงไปทำไม

ดาวิด ดาโตร โฟฟาน่า (แทน กัลลาเกอร์ น.82) N/A
ฮาคิม ซีเย็ค (แทน มาดูเอเก้ น.82) N/A
รูเบน ลอฟตัส-ชีค (แทน ชุควูเมก้า น.82) N/A