เชลซี (2) 0-1 (1) ปอร์โต้: เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สิงห์ พ่าย แต่เข้ารอบ

Chelsea FC v Porto  - UEFA Champions League Quarter Final: Leg Two
Chelsea FC v Porto - UEFA Champions League Quarter Final: Leg Two / Fran Santiago/Getty Images
facebooktwitterreddit

การแข่งขัน : ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย 2020/21
วันแข่งขัน : คืนวันอังคารที่ 13 เมษายน 2021
เวลาแข่งขัน : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน : เชลซี (2) 0-1 (1) ปอร์โต้
สนาม : รามอน ซานเชซ ปิซฆวน


1. รูปเกมชวนง่วงนอน

Christian Pulisic, Marko Grujic
Chelsea FC v Porto - UEFA Champions League Quarter Final: Leg Two / Fran Santiago/Getty Images

ตลอด 90 นาทีในเกมนี้ ต้องบอกเลยว่าแทบจะนับจำนวนครั้งที่แต่ละทีมได้โอกาสง้างเท้ายิงได้เลย เพราะรูปเกมส่วนใหญ่เป็นการสู้กันในแดนกลาง และค่อนข้างสดุดบ่อยไม่ต่อเนื่อง มีการทำฟาวล์กันค่อนข้างเยอะ ด้าน เชลซี ก็เน้นคุมเกมเป็นหลัก ไม่โหมบุกหวังเอาประตูเหมือนในเกมก่อน ๆ ส่วน ปอร์โต้ ก็แทบหาวิธีในการเจาะเข้าพื้นที่อันตรายของ สิงห์บลู ไม่ได้ จนทำให้เกมดูจืด ๆ ไม่ตื่นเต้น แต่ก็ยังโชคดีที่ยังมีประตูสุดสวยจากลูกตีลังกายิงของ ตาเรบี ตัวสำรองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ทำให้ช่วงเวลานาทีกว่า ๆ ทีเหลือ ดูจะบีบหัวใจมากกว่าช่วง 90 นาทีก่อนหน้านั้นเสียอีก

2. พูลิซิช กับความมั่นใจที่กลับมา

Mateus Uribe, Christian Pulisic
Chelsea FC v Porto - UEFA Champions League Quarter Final: Leg Two / Fran Santiago/Getty Images

เกมนี้ต้องบอกว่า สิงห์บลู มีสิ่งที่น่าสนใจตรงที่ คริสเตียน พูลิซิช ดูจะสามารถเรียกความมั่นใจกลับมาได้บ้างแล้วหลังจากยิง 2 ประตูใส่ คริสตัล พาเลซ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพราะตลอด 90 นาทีในวันนี้ จะพูดว่าเขาเป็นคนเดียวที่แทบจะแบกภาระในเกมรุกเลยก็ดูจะไม่โอเวอร์จนเกินไปชนิดที่โดนไล่เตะล้มลุกคลุกคลานเรียกฟาวล์ให้กับทีมนับสิบ ๆ ครั้ง ที่สำคัญคือเราได้เห็นความมั่นใจ กล้าลาก กล้าเลี้ยง กล้าโชว์ของเขาที่กลับมาสร้างสีสันให้ทีมได้บ้างแล้วหลังจากห่างหายจากภาพเหล่านี้ไปนานนั่นเอง

3. คู่แข่งรอบ 4 ทีม หงส์แดง หรือ ราชัน

Casemiro, Mohamed Salah, Nacho
Real Madrid v Liverpool - UEFA Champions League / Soccrates Images/Getty Images

จัดเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมที่ โธมัส ทูเคิล เข้ามายกระดับทีมให้กลับมาคืนฟอร์มเก่งจนทะลุเข้าสู่รอบ 4 ทีมสุดท้ายฟุตบอลยุโรปได้ในซีซั่นนี้ ซึ่งเราจะทราบชื่อคู่แข่งในรอบต่อไปในคืนวันพรุ่งนี้ว่าจะเป็นใครระหว่าง ลิเวอร์พูล หรือ เรอัล มาดริด ซึ่งหากดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน ราชันชุดขาว อาจจะกุมความได้เปรียมเอาไว้มากกว่าจากชัยชนะในเกมแรก แต่ปัจจุบันพวกเขาก็ประสบปัญหาผู้เล่นไม่พร้อมลงสนามหลายราย และก็อย่าลืมว่า หงส์แดง เองก็เป็นทีมที่มักจะมีปาฏิหาริย์พลิกล็อคในเกมสำคัญ ๆ อยู่เสมอ เพราะงั้นจึงยากที่จะบอกอะไรได้ตอนนี้ แต่ที่รู้แน่ ๆ เลยคือ ไม่ว่าจะเป็นใคร เกมรอบ 4 ทีมสุดท้ายนี้จะเป็นอีกหนึ่งนัดที่น่าติดตามและแฟน ๆ สิงโตน้ำเงินคราม จะพลาดไปไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง...