ลิเวอร์พูล 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้: เก็บตกประเด็นร้อนหลังเกม พรีเมียร์ลีก หงส์แดง เจ๊า เรือใบ
การแข่งขัน: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2021/22
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2021
เวลาแข่งขัน: 22:30 น. ตามเวลาประเทศไทย
คู่แข่งขัน: ลิเวอร์พูล 2-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม: แอนฟิลด์
1. สุดยอดมันสมองของสองกุนซือ
เกมนี้ในช่วง 45 นาทีแรก เป๊ป กวาร์ดิโอลา สั่งลูกทีมให้ไล่กดดันสูงตั้งแต่หน้าปากประตูเหมือนในเกมกับ เชลซี ซึ่งนั่นทำให้ ลิเวอร์พูล แทบจะตั้งเกมบุกขึ้นมาไม่ได้ จนทำให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายพับสนามแทบจะฝ่ายเดียวก็ว่าได้ แถม เป๊ป ยังอ่านจุดอ่อนของ หงส์แดง ในวันนี้ออกด้วยการเน้นบุกเจาะที่ เจมส์ มิลเนอร์ แบ็คขวาจำเป็นเป็นหลักซึ่งนั่นก็สร้างโอกาสได้หลายครั้งแต่ยังไม่เฉียบขาดมากพอ จนกระทั่งพักครึ่ง คล็อปป์ โชว์กึ๋นการแก้เกม สั่งลูกทีมเลิกเพลย์เซฟและเปิดเกมบุกเข้าใส่บ้าง ซึ่งนั่นทำให้รูปเกมของพวกเขาดูสดชื่นเป็นธรรมชาติขึ้นมาอย่างทันตาแถมยังออกนำก่อนถึงสองครั้งสองครา แต่ เรือใบสีฟ้าเอง ก็มีดีพอจะไล่ตามตีเสมอจนจบด้วยสกอร์ 2-2 อย่างสุดมันส์นั่นเอง
2. ขาด เทรนต์ เหมือนขาดใจ
เกมนี้ เยอร์เก้น คล็อปป์ ตัดสินใจส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงเล่นในตำแหน่งแบ็คขวาแทนที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ที่ไม่พร้อมลงสนาม ซึ่งนั่นต้องบอกว่าเกือบเป็นความผิดพลาดในเกมวันนี้เพราะแม้ มิลเนอร์ จะมากด้วยประสบการณ์ แต่การต้องถูกบดด้วยพลังหนุ่มชนิดที่ไม่ได้พักหายใจหายคอ ทำให้เขาเหมือนจะกลายเป็นจุดอ่อนของทีมไป โชคดีที่ครึ่งแรกแนวรุก เรือใบสีฟ้า ฉกฉวยโอกาสเอาไว้ไม่ได้ แถมครึ่งหลังก็ยังโชคดีรอบสองที่เขารอดจากการโดนใบเหลืองที่สองไปแบบหวุดหวิดจากจังหวะที่เข้าสะกัดผิดจังหวะใส่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่พริ้วหลบจนล้มกลิ้งไปกองกับพื้นในช่วงครึ่งเวลาหลัง
3. ซาลาห์ "โซโลโกล"
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญในเกมนี้คือจังหวะประตูออกนำ 2-1 ของ ลิเวอร์พูล จาก โม ซาลาห์ ที่ต้องบอกว่ามีลุ้นเป็นอีกหนึ่งจังหวะที่สามารถเข้าชิงประตูยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลได้เลย โดยเริ่มจากจังหวะที่เจ้าตัวรับบอลจาก เคอร์ติส โจนส์ นอกเขตโทษฝั่งขวา ก่อนคลึงบอลหลอกผู้เล่น แมนฯ ซิตี้ รวดเดียว 3 รายเข้าไปลากหลบ ลาปอร์ต ที่เข้ามาประกบชนิดที่ภาษาฟุตบอลเรียกว่า "หลังหัก" เข้าไปยิงด้วยขวามุมแคบผ่านมือ เอแดร์ซอน เอาไปอย่างดงาม
4. แดนกลาง เรือใบ กำลังมั่นใจ
แดนกลางของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้ดูจะเล่นได้อย่างโดดเด่นทั้งรุกและรับ ซึ่งในครึ่งแรกพวกเขาแทบจะเป็นฝ่ายครองเกมอยู่ข้างเดียว โดยทั้ง เดอ บรอยน์ ที่เริ่มกลับมาเข้าฝักก็มีจังหวะจ่ายบอลสวย ๆ หลายครั้ง แถมยังยิงได้ 1 ลูกเป็นการปลดล็อคให้กับตัวเองใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ด้าน แบร์นาโด้ ซิลวา ซีซั่นนี้ดูจะโดดเด่นมากขึ้นกล้าลากกล้าเลี้ยง ซึ่งทักษะอันแพรวพราวบวกกับเท้าที่ยิ่งกว่าตะขอทำให้เจ้าตัวไปกับบอลได้ไหลลื่นจะคู่แข่งต้องไล่ตัดฟาวล์ตลอดทั้งเกม ด้าน โรดรี้ ที่ฟอร์มดีมาหลายนัดติดกัน วันนี้ก็นิ่งพอในจังหวะที่โดนบีบแถมยังสะกัดจังหวะสำคัญสุด ๆ ในช่วงท้ายเกมช่วยทีมเอาไว้ได้ รวมถึงในรายของ กาเบรียล เชซุส เองที่ดูจะเริ่มมั่นใจมากขึ้นเวลาที่ได้ไปกับบอล ซึ่งคงจะเหลือก็แต่เพียงลูกรัก ราฮีม สเตอร์ลิง ที่แฟน ๆ เรือใบ หลายคนต่างลุ้นว่าเมื่อไหร่เจ้าตัวจะคืนฟอร์มเทพอีกครั้งเสียที
สนับสนุนบทความของแท้ไม่ก็อปปี้ต้อง 90min.com เท่านั้น! *ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความหรือรูปภาพไม่ว่าวิธีใดๆ หากฝ่าฝืนมีความผิดตามกฏหมายที่ระบุไว้สูงสุด