แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (1-4) อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ นัดดวลเดือดถึงจุดโทษ ปืนใหญ่ แซงคว้าชัย
- อาร์เซนอล คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 17 ของสโมสร
- คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2023 เป็นเกมแรกอย่างเป็นทางการที่มีการทดเวลาบาดเจ็บแบบ Real-Time เหมือนที่ใช้ในฟุตบอลโลก 2022
รายการ : คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2023
วันแข่งขัน : 6 สิงหาคม 2023
สนาม : เวมบลีย์
ผลการแข่งขัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1 – 1 อาร์เซนอล
[อาร์เซนอล ชนะ จุดโทษตัดสิน 4-1]
หนึ่งเกมคุณภาพที่จบลงด้วยชัยชนะของอาร์เซนอล เหนือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในแบบที่ต้องยื้อกันจนถึงการดวลจุดโทษตัดสิน และทำให้อาร์เซนอล คว้าแชมป์รายการคอมมิวนิตี้ ชิลด์ เป็นสมัยที่ 17 ของสโมสร
เกมแห่ง “แท็คติก” และความ “อดทน”
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นชื่อเรื่องการครองบอล กดเกมรับคู่แข่งอยู่แล้ว ซึ่งไม่แปลกที่พวกเขาจะใช้งานมันได้แบบคุ้นเคย แต่ อาร์เซนอล เกมนี้ก็ทำได้ดี พวกเขาอาจจะเริ่มต้นด้วยการเกร็ง ๆ ไปหน่อย เมื่อเจอการกดดันด้วยการครองบอล และเพรสซิ่งแย่งบอลเร็วตั้งแต่ต้นเกม แต่เมื่อเวลาผ่านไป พวกเขายังไม่เสียประตู พวกเขาก็เริ่มตั้งหลักได้ และสุดท้าย พวกเขาก็สามารถกดดันคืนกลับได้
นี่คือเกมวัดความอดทนของทั้งสองทีม โดยเฉพาะอาร์เซนอล ที่อยากยกระดับขึ้นมาสู้กับทัพเรือใบให้ดียิ่งกว่าเดิม และสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถฉวยโอกาสจากความผิดพลาดเล็กน้อยในการเปิดพื้นที่ของอาร์เซนอล นำมาซึ่งประตูขึ้นนำ อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล ในวันนี้ก็ยกระดับเกมด้วยวินัยเกมรับ และหัวใจนักสู้ที่สุดท้ายพวกเขา สุดท้ายเอาคืนได้ในแบบวินาทีสุดท้ายของเกมที่ทำให้พวกเขาได้ยื้อถึงจุดโทษและคว้าแชมป์ได้ในที่สุด
เรือใบสีฟ้ายังคงแกร่งทั้งลำเรือ
“สามแชมป์” ของฤดูกาลที่แล้วไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่นี่คือเรือใบเวอร์ชันสมบูรณ์ที่สุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เข้าใจระบบการเล่น และหน้าที่ของแต่ละคน ที่สำคัญแท็คติกการเล่นครองบอลสุดโหด เพรสซิ่งดุดันของพวกเขา ยังหายากที่จะมีทีมเลียนแบบพวกเขาได้ในคุณภาพมาตรฐานของพวกเขา แม้เกมนี้จะจบด้วยความพ่ายแพ้ก็ตาม
การได้ตัว ยอสโก้ กวาร์ดิโอล รวมถึง มาเตโอ โควาซิช มาร่วมงานด้วย กับการเสีย อิลคาย กุนโดกัน ออกไป ก็มารอดูว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไร แต่หากดูเพียงแค่เกมนี้ พวกเขายังคงดุดันไม่เปลี่ยน
อาร์เซนอล "หัวใจนักสู้" ที่ยังมีปัญหาเรื่องสมาธิ
เกมนี้ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสนุก และเต็มไปด้วยคุณภาพเรื่องของแท็คติก และพละกำลังในการไล่ล่าบอลเมื่อไม่ได้ครอบครอง สุดท้ายเกมนี้ตัดสินกันที่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวก็มากพอตัดสินเกม เกมนี้อาร์เซนอลสามารถทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าครั้งล่าสุดที่พบกัน แต่ก็ยังไม่มากพอจะได้ชัยชนะ พวกเขามีจังหวะสังหารในเกมนี้ไม่มากนัก แต่ก็มากสำหรับการเจอกับทีมระดับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้ การไม่มีกองหน้าเป้าตัวเป้าธรรมชาติที่ดีกว่า กาเบรียล เฆซุส ซึ่งวันนี้บาดเจ็บ อาจเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องคิดถึงว่าพวกเขาต้องเพิ่มเติมอะไรหรือเปล่า
เช่นเดียวกับปัญหาเรื่องของสมาธิในเกมในช่วงการเปลี่ยนตัวสำรองที่พวกเขามักจะใช้เวลาเยอะพอสมควรในการปรับจูนเข้ากับเกม
อาร์เซนอลชุดนี้ได้ลุ้นเต็มตัวแน่นอนกับพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลใหม่ ที่ขึ้นกับพวกเขาเองว่า ปัญหาที่มองเห็นจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ เช่นเดียวกับความสม่ำเสมอที่พวกเขาขาดไปเพียงน้อยนิดมหาศาลที่ทำให้พวกเขาพลาดแชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว จะได้รับการเติมเต็มหรือไม่