อาร์เซน่อล 2-0 ลูตัน ทาวน์ : เก็บตกหลังเกม พรีเมียร์ลีก นัด ปืนโต กำชัยได้ไม่พลาด แม้ขนสำรองลง - FEATURE
• อาร์เซน่อล ผ่าน ลูตัน ทาวน์ ด้วย 2 ประตูที่ได้ในครึ่งแรก
• ระดับขั้นต่างกันเยอะ และจุดหมายปลายทางก็แตกต่างเช่นกัน
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก 2023/24
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 3 เมษายน 2567
สนาม: เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน: อาร์เซน่อล 2-0 ลูตัน ทาวน์
ก็เรานั้นมันคนละชั้น
- • อาร์เซน่อล ชนะมา 8 นัดรวด ก่อนออกเสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0
• ลูตัน ทาวน์ ไม่ชนะใครมาตั้งแต่ 30 ม.ค. เกมพลิกล็อกอัด ไบรท์ตัน 4-0
• ที่นี่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม... อาร์เซน่อล ชนะ (พรีเมียร์ลีก) ได้ 9 จาก 10 เกมหลัง
• เมื่อต้องออกนอกบ้าน ลูตัน ทาวน์ ชนะหนเดียวจาก 11 เกมหลัง
• อาร์เซน่อล กำลังสู้เพื่อแชมป์ พรีเมียร์ลีก หนแรกรอบ 20 ปี
• ลูตัน ทาวน์ กำลังจะตกชั้น ถ้าเร่งเครื่องไม่ขึ้นในโค้งสุดท้าย
• มิเกล อาร์เตต้า ขาดตัวเจ็บ 1 คนถ้วนคือ ยูร์เรียน ทิมเบอร์ ส่วน ลูตัน ขาดอย่างน้อย 9 แถมเช็คฟิตอีก 4!
• สกอร์ที่คาดสำหรับเกมนี้จากบางกูรู ท่านว่า อาร์เซน่อล น่ายิงขาดสัก 3-0 ไม่ก็ 4-0
เสี่ยงเป็นเสี่ยง
ก็เพราะมัน "คนละชั้น" กันแบบนั้น มิเกล อาร์เตต้า จึงตัดสินใจจัดทีมแบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน ปรับทัพจากเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ถึง 5 ตำแหน่ง
หลุดไป : ยาคุบ กิวิออร์, จอร์จินโญ่, ดีแคลน ไรซ์, กาเบรียล เชซุส, บูกาโย่ ซาก้า
มาแทน : โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, โธมัส ปาร์เตย์, เอมิล สมิธ โรว์, เลอันโดร ทรอสซาร์, รีสส์ เนลสัน
ก็แม้ว่าจะเป็นเกมประเภท "บังคับชนะ" แต่ด้วย...
1) เพิ่งผ่านศึกหนักกับ แมนฯ ซิตี้ มา แล้วเสาร์นี้ต้องออกไปเยือน ไบรท์ตัน ต่ออีก
2) อาร์เตต้า มั่นใจว่าการหย่อนสำรองครึ่งทีม จะไม่ทำให้เกิดความเสียหาย
ก็ทำให้ อาร์เตต้า จัดทีมชุดผสมสำรอง ลงไปบู๊เกมนี้
เอมิล สมิธ โรว์
แน่นอนว่าหนึ่งในไฮไลท์สำคัญ คือการกลับคืนสู่ทีมตัวจริงอีกครั้งของ เอมิล "คนไม่เข้าตา" สมิธ โรว์ จอมทัพวัย 23 ที่ว่ากันว่าเกือบจะถูกปล่อยไปแล้วในตลาดหน้าหนาว
จะด้วยอะไรก็ตามแต่ มันก็ชัดเจนว่า อาร์เตต้า มองเห็นว่าแข้งดีกรี รองดาวซัลโวปืนใหญ่ 2021/22 (11 ประตู) ไม่ดีพอสำหรับเป็นหนึ่งในขุนพลตัวจริงของเขา
ผลคือ สมิธ โรว์ ทำได้แค่ ซ้อม-นั่งสำรอง-ซ้อม-นั่งสำรอง-ซ้อม-นั่งสำรอง วนไปแบบนี้ทุกสัปดาห์...ถ้าไม่เกิดปัญหาบาดเจ็บแทรกซ้อน
เกมนี้ คือการลงเล่นตัวจริงนัดที่ 4 เท่านั้นของซีซั่นนี้
อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนเกมไทม์จะน้อย แต่คุณภาพฝีเท้าของ สมิธ โรว์ ก็ยังดีพอจะเล่นงาน ลูตัน ทาวน์ ได้ ด้วยทักษะ ด้วยเทคนิค ด้วยคลาสที่ตัวเองมี -- น่าได้แอสซิสต์จากการปาดเข้าในไปให้ รีสส์ เนลสัน เข้าชาร์จประตู 2-0 ท้ายครึ่งแรก (สุดท้ายเป็น ไดจิ ฮาชิโอกะ ยิงตัวเอง)
ก็น่าจับตาว่าหลังจากนี้ โอกาสจะเป็นของเขามากขึ้นกว่าเดิม หรือกลับไปนั่งสำรองก้นด้านตามเดิม มากกว่ากัน
ถ้าหวยออกอย่างหลัง ก็โทรฯ หาเอเยนต์ได้เลย
ไดจิ ฮาชิโอกะ
สำหรับผู้มาเยือน คงไม่ได้มีอะไรให้เอ่ยถึงนัก เมื่อแม้กระทั่งว่า อาร์เซน่อล จะปรับทีมกระจัดกระจายแบบนี้ ลูตัน ทาวน์ ก็ยังบ้อท่าจนปัญญาเกินกว่าจะทำอะไรได้
แต่ก็อาจเป็นคำถามเล็กๆ ว่า อาตี๋หัวทองในสนามนั่นน่ะใครกัน
ไดจิ ฮาชิโอกะ - อีกหนึ่งแข้งญี่ปุ่นในเวที พรีเมียร์ลีก เป็นชาวไซตามะ เล่นตำแหน่งแบ็กขวา ตอนนี้อายุ 24 เล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่มาไม่มากแค่ 8 ครั้ง ในอดีตเป็นผลผลิตของ อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ก่อนย้ายไป แซงต์ ทรุยด็อง ที่เบลเยียมเมื่อปี 2021 (ยืมตัวก่อนซื้อขาด) และเพิ่งถูกดึงมา ลูตัน ทาวน์ เมื่อต้นปี ถึงตรงนี้เพิ่งได้ลงสนาม 4 นัด
สำคัญคือ ท้ายเกม น.74 ก็เกิดเป็น "ศึกสายเลือดซามูไร" ขึ้นกลางสนามด้วย เมื่อ อาร์เตต้า เปลี่ยนส่ง ทาเคฮิโร่ โทมิยาสุ ลงไปแทน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
ในมุมของญี่ปุ่น อาจไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอะไรนัก เมื่อพรีเมียร์ลีกไม่ใช่เรื่องใหม่ ยังเคยมีแข้งซามูไรไปถึงแชมป์มาแล้วด้วยซ้ำ
แต่สำหรับบางชาติในอาเซียนที่ยังไม่เคยไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และยังไม่เคยมี "คนแรก" ใน พรีเมียร์ลีก มาก่อนนั้น
คงต้องบอกว่าภาพที่ ฮาชิโอกะ ดวลกับ โทมิยาสุ นั้น... น่าอิจฉาจ่ะ!
มุ่งสู่แชมป์
- 06/04 เยือน ไบรท์ตัน
14/04 เหย้า แอสตัน วิลล่า
20/04 เยือน วูล์ฟส์
23/04 เหย้า เชลซี
28/04 เยือน สเปอร์ส
04/05 เหย้า บอร์นมัธ
11/05 เยือน แมนฯ ยูไนเต็ด
19/05 เหย้า เอฟเวอร์ตัน
ชัยชนะนัดนี้ซึ่งไม่ได้ผิดจากคาด ช่วยให้ อาร์เซน่อล ขึ้นสู่ตำแหน่งจ่าฝูงชั่วคราว นำหน้า ลิเวอร์พูล 1 แต้ม (68:67)
ไม่ว่า ลิเวอร์พูล จะกลับมาทวงบัลลังก์สำเร็จในข้ามคืนไหม
ชัดเจนว่าถึงตรงนี้ การลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้คือเรื่องของ "ม้าสามตัว" ลิเวอร์พูล - อาร์เซน่อล - แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ก็อยู่ที่ว่า ใครจะเร่งเครื่องได้แรงกว่า และก้าวพลาดน้อยกว่ากัน
มุ่งสู่ช้ำ
เวลาเดียวกันกับที่ อาร์เซน่อล ลุ้นแชมป์เต็มตัว ก้าวเดินของ ลูตัน ทาวน์ หากฮึดไม่ขึ้น ก็ถือการถอยกลับสู่ อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ จากที่ 10 เกมหลังสุด ทำแต้มเข้ามือได้แค่ 3 คะแนน (เสมอ 3 แพ้ 7)
โดยไม่ต้องเสียเวลาดูหรอกว่า 8-9 นัดที่เหลืออยู่ต้องเจอใครบ้าง แต่เอาเป็นว่า ทีมของ ร๊อบ เอ๊ดเวิร์ดส์ มีหน้าที่แค่ 2 อย่างเท่านั้น
1) โกยแต้มให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
2) แช่งให้ ฟอเรสต์, เอฟเวอร์ตัน หรือ เบรนท์ฟอร์ด สะดุดรัวๆ
ครั้นถ้าทำไม่สำเร็จ ก็ให้ถือเสียว่า นี่คือความทรงจำอันแสนงดงาม
จนกว่าจะพบกันใหม่...