อาร์เซนอล 3-0 บอร์นมัธ : ประเด็นหลังเกม “ปืนใหญ่” ยิงรัวตามเป้าไล่ล่าแชมป์ลีก
• ดาบิด ราย่า คว้ารางวัลถุงมือทองคำอย่างแน่นอนแล้วในฤดูกาลนี้ และทำไปแล้ว 15 คลีนชีต
รายการ | พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2023/24 |
---|---|
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2024 |
สนาม | เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | อาร์เซนอล 3-0 บอร์นมัธ |
อาร์เซนอล โยนแรงกดดันไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อีกครั้ง หลังจากลงเล่นเกมแรกของสุดสัปดาห์นี้และไม่พลาดกับการเก็บชัยชนะเหนือ บอร์นมัธ 2-0 พร้อมฉีกหนีเป็น 4 คะแนนในขณะที่เหลืออีกสองเกมสุดท้ายสำหรับทัพปืนใหญ่
ความเร่งรีบ - ความอดทน และความเฉียบคม
อาร์เซนอล ได้ลงเล่นก่อนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบนี้ แน่นอนว่ามันหมายถึงโอกาสโยนแรงกดดันเพิ่มให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะลงเล่นในเกมสุดท้ายของคืนนี้ พวกเขาชัดเจนกับเป้าหมายด้วยการเดินเกมบุกตั้งแต่วินาทีแรกของเกม พวกเขาขึงเกมได้, เก็บจังหวะสองได้ และสร้างสรรค์โอกาสได้เยอะ สถิติ 16 : 1 ในการสร้างสรรค์ประตูของ 45 นาทีแรก บ่งบอกถึงความดุดันของเจ้าบ้าน แต่สิ่งที่ไม่เกิดขึ้นคือจำนวนที่ไหลมาเทมาแบบที่ควรจะเป็น ต้องให้เครดิต แนวรับทีมเยือน โดยเฉพาะ มาร์ค ทราเวอร์ส นายทวารที่เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม
การได้จุดโทษที่นำมาซึ่งประตูแรก เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของครึ่งแรก และทำให้สถานการณ์ครึ่งหลังของทีมเจ้าบ้านเล่นได้ง่ายยิ่งขึ้นแต่ก็ยังไม่มากพอกับการไว้วางใจ
ครึ่งหลังอาร์เซนอล เล่นเกมรุกสนุกตามเสียงเชียร์ และความมุ่งมั่นกับเป้าหมาย พวกเขาเหนือกว่า กดทีมเยือนจนมิด แต่หากประตูที่สองไม่มาถึง พวกเขาก็พยายามเร่งเกม ซึ่งในการเร่งเหล่านั้นทำให้รายละเอียดขาดหายไปด้วย ทุกอย่างมีครบยกเว้นประตูที่ต้องการเพิ่ม
บอร์นมัธ เล่นอย่างอดทน โอกาสไม่มากแต่เกมรับยังไม่มีเสีย พวกเขาก็ยังคงอยู่ในเกมต่อไป แถมจะสร้างโอกาสได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วในจังหวะที่ “สวนกันไปมา” สุดท้ายความผิดพลาดของบอร์นมัธ เกิดขึ้นก่อน และกลายเป็นประตูที่สองของเกมที่ทำให้งานยากขึ้นสำหรับทีมเยือน
เกมนี้เป็นเกมที่ตัดสินกันที่เรื่องของความเฉียบคมของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะกับทีมเยือนที่วันนี้แม้จะมีโอกาสสวนกลับได้มากขึ้นใน 45 นาทีสุดท้าย แต่ก็ต้องยอมรับว่า อาร์เซนอล มีโอกาสจะแจ้งกว่า และได้รับการชูมือในท้ายที่สุด
ไค ฮาแวตซ์ ยอดเยี่ยมกับ “False 9”
ไม่นับเรื่องของการเรียกจุดโทษให้กับทีมได้ ฮาแวตซ์ เล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้กับเรื่องของการพักบอลในพื้นที่แดนบนและการเชื่อมเกมด้วยบอลสั้นที่แตะจังหวะเล็กน้อยก็ทำให้ทีมเดินเกมได้ต่อไป ขณะที่เกมรับก็ลงมาช่วยหลายครั้ง นับเป็นเกมที่ดีสำหรับเขาในการทำงานนี้ สิ่งที่ยังเป็นปัญหาเรื่อยมาคือการเสียใบเหลืองง่าย และเรื่องของความเร็วที่ไม่มากนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่ครบเครื่องเท่าไรนัก อย่างไรก็ตามเขาคือคนสำคัญสำหรับปืนใหญ่ในฤดูกาลนี้ โดยประตูที่สองของเกมนี้ก็มาจากการลงไปช่วยเกมรับของเจ้าตัว และบอลต่อยาวไปจนถึงจังหวะจบสกอร์
105 ล้านปอนด์ที่คุ้มค่าของ ดีแคลน ไรซ์ และ การกลับมาของปาเตย์
ประตูที่ 3 ของเกมนี้เป็นการตอกย้ำการเซ็นสัญญาอันยอดเยี่ยมของอาร์เซนอล ที่ทำให้ “ความเสี่ยง” มูลค่า 105 ล้านปอนด์ในวันแรกของการเซ็นสัญญากลายเป็นความเสี่ยงราคาถูกไปเลย เมื่อกองกลางทีมชาติอังกฤษกลายเป็นส่วนสำคัญของทีมที่ยิ่งเฉิดฉายออกมามากขึ้น ในฐานะของ Box to Box ที่เคลื่อนที่เกมรุกเกมรับได้อย่างไม่มีหมดแรง และเด่นทั้งเกมรับเกมรุก ต้องยกเครดิตให้กับ โธมัส ปาเตย์ ในบทบาทของกลางรับที่ปัดกวาดหน้าแผงกองหลัง และรับบทในการเชื่อมเกมจากหลังมากลาง เพื่อให้ ไรซ์ ดันขึ้นไปเล่นเกมรุกได้อย่างเต็มตัว ยิ่งในเกมที่ได้ขึงเกมต่อเนื่องแบบนี้ ไรซ์ ยิ่งเด่นเหลือเกิน
การที่อาร์เซนอลมีกลางเชิงรับอย่าง ปาเตย์ และ จอร์จินโญ่ อยู่ในทีม นับเป็นจุดแข็งหนึ่ง ไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่นของพวกเขาก็ว่าได้ในฤดูกาลนี้
การเก็บคะแนนที่มากกว่าปีที่แล้วของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล ต้องการอีกหนึ่งคะแนนจากสองเกมที่เหลือนับจากนี้ จะทำสถิติคะแนนเท่ากับฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขาจบด้วยรองแชมป์ แต่ถ้ามากกว่านั้นจะกลายเป็นสถิติใหม่ทันทีในยุคของ มิเคล อาร์เตต้า ซึ่งแน่นอนว่าด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่พวกเขามองถึง 6 คะแนนเต็มที่จะส่งให้พวกเขาไปสู่การเป็นผู้ท้าชิงที่ได้ลุ้นจนถึงวันสุดท้ายของฤดูกาล ขณะที่ทีมเยือน การเข้ามาของ อันโดนี่ อเรโอล่า นายใหญ่ชาวสเปน พวกเขาสร้างสถิติใหม่ที่น่าพอใจไปเรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือ พวกเขาทำไปแล้ว 48 คะแนนจาก 36 เกม นี่คือคะแนนที่มากที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่เลื่อนชั้นมาเล่นในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในปี 2015 ในยุคของ เอ็ดดี้ ฮาว นับเป็นการเริ่มต้นปีแรกของกุนชือสแปนิชเช่นกัน ทั้งสถิติของคะแนนและการที่พวกเขาจะมีสองเกมสุดท้ายที่จะเพิ่มสถิติได้มากยิ่งขึ้นไปอีก