อาร์เซนอล 3-1 เชลซี : เก็บตกประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก ปืนใหญ่ ซิวชัยเหนือ สิงโตน้ำเงินคราม
รายการ: พรีเมียร์ ลีก 2022/23
วันแข่งขัน: วันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 2023
สนาม: เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน: อาร์เซนอล 3-1 เชลซี
อาร์เซนอล กลับมาสู่เส้นทางของชัยชนะได้อีกครั้ง หลังจากไม่ชนะใครมา 4 เกมติดต่อกัน กับชัยชนะในลอนดอนดาร์บี้ เหนือเชลซี 3-1 ที่ส่งพวกเขากลับสู่จ่าฝูงชั่วคราว และไปรอลุ้นว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะผิดพลาดบ้างหรือไม่ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้
บอลเป็นระบบ กับ บอลไร้ระบบ
เกมนี้ตอกย้ำความล้มเหลวของเชลซีในฤดูกาลนี้ กับการลงทุนนักเตะหลายร้อยล้านปอนด์แลกกับนักเตะมากกว่าสิบคนที่ย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ และพวกเขาไม่สามารถรวมกันเป็นทีมได้เลย ต่อให้ผู้เล่นความสามารถส่วนตัวดีกว่า แต่ฟุตบอลลงเล่นกันเป็นทีม ตราบใดที่ทีมเวิร์คไม่มี ก็ยากจะมีชัยชนะในเกมได้ เกมนี้คือตัวอย่างที่เห็นได้อย่างยิ่ง
บอลไร้แรงกดดัน แต่ประมาท
อาร์เซนอล เสียตำแหน่งจ่าฝูงไปแล้วก่อนลงเล่นในเกมนี้ และพวกเขาถูกมองว่ายังไงก็ยากจะคว้าแชมป์ได้แล้ว แรงกดดันที่ก่อนหน้านี้แบกเอาไว้แทบจะหายไปหมด พวกเขาเล่นกันได้อย่างเป็นตัวเองมากกว่า 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และนั่นทำให้เกมนี้เมื่อเจอกับเชลซี ที่เต็มไปด้วยปัญหา พวกเขาก็เล่นได้อย่างไหลลื่น และไล่บดได้แบบเต็มสูบ
อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอล ชุดนี้แสดงถึงอาการเนือยเมื่อนำห่างคู่แข่งหลายต่อหลายครั้งในปีนี้ ไม่ต้องมองไกล 4 เกมที่ผ่านมามีถึง 2 ที่พวกเขานำห่างสองประตูแล้วปล่อยให้โดนตีเสมอ เกมนี้ก็เช่นกัน พวกเขานำสามประตู มีโอกาสมากมายจะบวกสกอร์เพิ่ม แต่พวกเขากลับไม่ย้ำซ้ำให้ตาย สุดท้ายกลายเป็นเสียประตู นี่คือ “นิสัย” ที่ห้ามมีสำหรับทีมที่คิดจะเป็นแชมป์
การโจมตีจากด้านข้าง คีย์สำคัญในการคว้าชัย
อาร์เซนอล เป็นหนึ่งในทีมที่มีการเล่นเกมรุกด้านข้างได้เด่นมากที่สุดในพรีเมียร์ ลีก และเกมนี้การเจาะริมเส้นของพวกได้ผลชะงัด สามประตูที่ได้ทั้งหมดเกิดจากการเน้นเจาะด้านข้าง และเปิดเข้าทำในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งเกมนี้ 2 จาก 3 ประตูของอาร์เซนอล มาจากการเปิดบอลในรูปแบบเดียวกัน แนวคิดเดียวกัน
เชลซี โดนอัด 6 นัดติด ยิงได้ 2 ลูก
สิงห์บลู ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด เรียกได้ว่าผลงานสุดจะบรรยายนับตั้งแต่กองกลางระดับตำนานสโมสรกลับมาคุมทีมเป็นหนที่สอง ด้วยสถิติแพ้รวดทุกเกม 6 นัดติดต่อกันตั้งแต่ วูล์ฟส์ เรอัล มาดริด สองนัด ไบรท์ตัน เบรนท์ฟอร์ด และ ล่าสุดกับ อาร์เซนอล ซึ่ง 5 เกมดังกล่าว เชลซี ยิงได้เพียง 2 ลูกและเสียไปถึง 12 ประตู
พอช จะมาก็รีบมา
ดูเหมือนว่า ณ เวลานี้ แฟนบอล เชลซี จะต้องการความเปลี่ยนแปลงแบบสุด ๆ หลังจากผลงานที่เห็นแล้วน้ำตาจะไหล ซึ่งการนำ แฟรงค์ แลมพาร์ด เข้ามากลับยิ่งทำให้อะไรหลาย ๆ อยู่นอกจากจะไม่ดีขึ้นแล้วยังแย่ลงไปอีกด้วยซ้ำ ฉนั้นบางทีไหน ๆ ก็ว่างงานอยู่และเป็นข่าวขนาดนี้แล้วสำหรับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ดึงเข้ามาคุมทันทีเลยจะเป็นไรไป