อาร์เซนอล 3-2 บอร์นมัธ : เก็บตกประเด็นหลังเกมสุดดราม่า ปืนใหญ่ พลิกแซงคว้าชัยทดเจ็บ

อาร์เซนอล ทำให้แฟนบอลของพวกเขาหัวใจจะวายกับการเสียประตูแรกของเกมในไม่กี่วินาทีแรก และตามหลังถึงสองประตูหลังผ่านครึ่งหลังไปได้ไม่นาน ก่อนจะใช้เวลา 30 นาทีสุดท้ายกลับมาตีเสมอ พร้อมปาดคว้าชัยชนะในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ทำให้สถานการณ์ลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ ลีก ยังคงเป็นของพวกเขาแบบเต็มตัว

ประตูที่เร็วที่สุดของฤดูกาลนี้

ประตูแรกของเกมนี้จาก ฟิลลิป บิลลิ่ง เกิดขึ้นในเวลาเพียง 9.11 วินาที กลายเป็นประตูที่เร็วที่สุดของฤดูกาลนี้ และเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ ลีก ตามหลังอันดับหนึ่งของ เชน ลอง ซึ่งทำเอาไว้ที่ 7.69 วินาที และการเสียประตูนี้ส่งผลร้ายแรงกับรูปเกมที่เหลือของอาร์เซนอลทันที

การเร่งเกมจนเกินไปของ อาร์เซนอล

อาร์เซนอลนับตั้งแต่การตามหลังจนกระทั่งเสียประตูที่สอง พวกเขาเปรียบเสมือนกับรถยนต์ที่เร่งด้วยความเร็วสูงสุดตลอดเวลานาน พวกเขาไม่มีเบรค ไม่มีผ่อน และสุดท้ายความผิดพลาดมันก็เกิดขึ้น ยิ่งเร็วยิ่งพลาด แม้ช้าแต่ชัวร์ อาร์เซนอล ได้สติคืนกลับมาจากการเสียประตูที่สองของเกมนี้ เมื่อพวกเขาลดการเร่งเกมลงและเริ่มกลับมาเล่นในแบบของตนเอง ก่อนจะนำมาซึ่งสองประตูใน 8 นาที 

คุณสมบัติของการลุ้นแชมป์ของอาร์เซนอล

ฤดูกาลนี้อาร์เซนอลแสดงให้เห็นถึงการมีหัวใจนักสู้อย่างแท้จริง หลายเกมพวกเขากลับมาเอาชนะได้ในนาทีสุดท้ายของเกมอย่างเช่นในเกมวันนี้ และมีหลายเกมที่พวกเขาได้คะแนนในวันที่ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม ที่สำคัญ พวกเขามี “โชค”ในหลายครั้งที่ผิดพลาด แต่คู่แข่งทั้งในสนาม หรือในตารางแข่งขันกลับพลาดตาม และทำให้พวกเขายังคงอยู่ในเส้นทางของการลุ้นความสำเร็จเต็มตัว

ผู้ชนะที่ชื่อ เนลสัน ผู้ผิดหวังที่ชื่อ สมิธ โรว์

เอมิล สมิธ โรว์ กองกลางอังกฤษลงสนามมาในช่วงนาทีที่ 20 ของเกม และออกจากสนามช่วงนาทีที่ 68 เป็นการโดนเปลี่ยนตัวออกทั้งที่ไม่มีอาการบาดเจ็บใด ตลอดเวลาในสนามเขาทำผลงานได้ไม่โดดเด่น และการโดนเปลี่ยนออกแม้จะเป็นเรื่องแท็คติกหรืออย่างไรก็ตาม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นที่โค้ชมีต่อนักเตะ และในเวลาเดียวกัน คนที่ได้รับโอกาสทีหลังอย่าง รีส เนลสัน ลงมาแทนและสร้างอิมแพคให้ทีมแบบเต็มตัว สถานการณ์เช่นนี้ไม่ดีเลยสำหรับหมายเลข 10 ของอาร์เซนอล