อาร์เซนอล 4 – 1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน : สรุปประเด็นหลังเกม ปืนใหญ่ รัวยิงแชมป์ไร้พ่ายศึก เอมิเรตส์ คัพ

อาร์เซนอล กลับมาลงเล่นในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เป็นครั้งแรกในการเตรียมทีมลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2024-2025 และก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังกับการถล่มแบบไม่ไว้หน้า 4-1 และเหลืออีกหนึ่งเกมรออยู่สำหรับการเตรียมทีมในฤดูกาลใหม่นี้

การแข่งขัน : เอมิเรตส์ คัพ 2024
วันแข่งขัน : 8 สิงหาคม 2024
สนามแข่งขัน : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 4 – 1 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

การเจอกันของทีม “ไร้พ่าย”

นี่คือการพบกันครั้งแรกนับจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ทำสถิติเป็นทีมแรกในบุนเดสลีกาที่ไม่แพ้ใครทั้งฤดูกาล ขณะที่อาร์เซนอลก็ยังคงเป็นทีมเดียวที่ทำสถิติเดียวกันได้ในปี 2004 การเตรียมทีมครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจัดทัพใหญ่เรียกความพร้อมก่อนเปิดลีกในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งผลที่ออกมา อาร์เซนอล ดูจะค่อนข้างพร้อมกว่าแชมป์จากเยอรมัน ทั้งผลการแข่งขัน, ความลงตัวในเกม และความฟิตของผู้เล่นในทีม

การกลับมาของ “Invert Fullback”

เกมนี้เป็นเกมที่เราได้เห็นการลงเล่นของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ในฐานะตัวจริงอีกเกม และเขามักถูกจดจำในฐานะของแบ็คคนแรกของทีมที่เล่นในระบบ Invert Fullback ที่จะเติมเกมมาตรงตำแหน่งกองกลาง เป็นทั้งตัวเชื่อมบอล และตัวออกบอลอีกคน ซึ่งมันจะเกิดขึ้นเวลาเล่นเกมรุก และจะถอนกลับไปเล่นแบ็คในเกมรับ ความยากง่ายในการเล่นตำแหน่งนี้ คือช่วงเวลาในการสลับตำแหน่งที่ต้องดูจังหวะเกมให้ดี ซินเชนโก้ ทำตรงนี้ได้ดีกว่าหลายคนที่ทีมพยายามสอนเล่นระบบนี้ และนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาได้อยู่กับทีมต่อไป หลายเพลย์ของเขาคือการเชื่อมเกม และหาจังหวะแทงบอลจังหวะเดียวทะลุช่องไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามเขาเองก็มีปัญหาในการเล่นเกมรับที่มักถูกติติงเป็นประจำจากแฟนบอล ยิ่งเทียบกับ ยาคุบ คิวิออร์ ที่เด่นเกมรับก็ยิ่งชัด แต่เกมรุก และการเล่นในระบบนี้ ซินเชนโก้ ทำได้ดีกว่าชัดเจน

อาร์เซนอลในฤดูกาลที่แล้ว ไม่ใช้ระบบนี้ตลอดทุกเกม ส่วนหนึ่งเพราะ ซินเชนโก้ บาดเจ็บ และแท็คติกการเล่นของทีมมีความหลากหลายมากขึ้น แต่การที่ทีมยังเล่นระบบนี้ในช่วงท้ายของปรีซีซั่นก็ชัดเจนแล้วว่า ระบบนี้จะเป็นหนึ่งในออฟชั่นสำคัญของทีมในแง่ของแท็คติก

กาเบรียล เชซุส คืนฟอร์ม

หัวหอกบราซิเลี่ยน จบฤดูกาลที่แล้วด้วยความผิดหวังกับทั้งการเสียตำแหน่งตัวจริงในทีม จากอาการบาดเจ็บ และเรียกฟอร์มไม่ได้แบบปีแรกของเขากับปืนใหญ่ ขณะที่ถูกหมางเมินจากทีมชาติบราซิลในโคปา อเมริกา 2024 มาครั้งนี้เขาเริ่มต้นด้วยการเก็บตัวซ้อมส่วนตัวตั้งแต่ปิดดูกาลที่แล้วไปได้ไม่นาน และนั่นทำให้เขาฟิตเต็มที่ และเกมนี้ประตูที่สามของปืนใหญ่แสดงให้เห็นถึงผลของการทำงานหนักมาตลอดร่วมสองเดือนของเจ้าตัว

ตัวตายตัวแทนของทัพปืนใหญ่

อาร์เซนอล ชุดนี้ยังไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด จากการที่นักเตะหลายคนยังไม่ฟิตพร้อมสำหรับการลงเล่น โดยเฉพาะกลุ่มผู้เล่นทีมชาติอังกฤษ แน่นอน บูคาโย่ ซาก้า เป็นตำแหน่งที่หาใครมาทดแทนได้ยากมาก ฟาบิโอ วิเอร่า คือคนที่ได้รับโอกาสในช่วงปรีซีซั่น เช่นเดียวกับ รีส เนลสัน แต่เกมนี้ ครึ่งแรกของวิเอร่า และ ครึ่งหลังของซาก้า จบลงด้วยความแตกต่างที่ชัดเจน ความอันตรายในการคุกคามกองหลัง และการพาบอลอยู่ในพื้นที่อันตราย ซาก้าทำได้ดีมาก ตรงส่วนนี้คือสิ่งที่ยังหาคนที่เข้ามาทดแทนได้ไม่ดีพอ

ขณะที่เรื่องของการดันดาวรุ่งของอาร์เซนอลปีนี้ มีความชัดเจนอย่างมาก เกมนี้มีผู้เล่นดาวรุ่งถึง 4 คนที่ได้ลงเล่นในเกมที่เป็นช่วงสุดท้ายของการเตรียมทีมแล้ว นั่นหมายความว่ากลุ่มนี้มีโอกาสขึ้นชุดใหญ่กันไม่มากก็น้อย อีธาน เอนวาเนรี่ ในส่วนของพื้นที่เกมรุก ขณะที่ ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่, เอเดน เฮเว่น และ โจชัว นิโคล คือผู้เล่นเกมรับทั้งหมด หากมองจากพื้นที่ว่างในทีมแล้ว มีโอกาสมากว่า 1-2 คนในกลุ่มนี้ อาจจะได้เห็นพวกเขาใน พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม อาร์เซนอล ได้ที่นี่