อาร์เซนอล 4-2 เลสเตอร์ : ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก ปืนใหญ่ บุกไม่ยั้งก่อนคว้าชัยหืดจับทดเจ็บ

  • ปืนใหญ่ เอาชนะ จิ๊กจอกสยาม ไปได้แบบหืดจับ 4-2
  • อาร์เซนอล เก็บชัยชนะได้ในการพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นเกมที่ 6 ติดต่อกัน
Arsenal FC v Leicester City FC - Premier League
Arsenal FC v Leicester City FC - Premier League / Shaun Botterill/GettyImages
facebooktwitterreddit

อาร์เซนอล โกงความตายอีกครั้งในเกมที่พวกเขานำก่อนไป 2-0 ในครึ่งเวลาแรกก่อนที่จะโดนตามตีเสมอ 2-2 หลังเกมครึ่งหลังผ่านไปเพียง 15 นาที แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ยังเอาอยู่กับการเร่งเครื่องสุดตัวกลับมาคว้าชัยชนะเหนือเลสเตอร์ ซิตี้ แบบหืดจับที่สุดครั้งหนึ่งสำหรับพวกเขา

รายการแข่งขัน : พรีเมียร์ ลีก 2024-2025
วันแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2024
สนามแข่งขัน : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน : อาร์เซนอล 4 – 2 เลสเตอร์ ซิตี้


เกมบุกสวนทางคำวิจารณ์ของ อาร์เซนอล

อาร์เซนอล เล่นเกมนี้ด้วยความมุ่งมั่นโดยเฉพาะการเล่นเกมรุก เพื่อเป็นการตอกกลับสื่อที่พูดถึงการเล่นเกมรับของพวกเขาในเกมก่อน ๆ มาวันนี้ตั้งแต่นาทีแรก พวกเขาดันเกมรุกสูงเกินครึ่งสนาม บีบพื้นที่แนวรับให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ถอยร่นไปกองในเขตโทษแทบทั้งหมด พร้อมกับสามารถเก็บ “บอลสอง” ทำให้พวกเขาขึงเกมอัดเข้าใส่ได้ต่อเนื่อง

อาร์เซนอล จุดขายหลักในเกมรุกคือพื้นที่ด้านข้างซึ่งใช้เป็นอาวุธหลักในการเข้าทำ โดยเกมนี้ เลสเตอร์ ปิดพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้เลย ยิ่งวันนี้ อาร์เซนอล ดันเกมรุกสุดตัว ทั้งการใช้งาน ทิมเบอร์ และ คาลาฟิออรี่ มาช่วยยิ่งทำให้ เลสเตอร์ เจอกับความยากขึ้นเท่าทวีคูณ สองประตูในเกมนี้เกิดจากการเข้าทำจากด้านข้างทั้งหมด

Bukayo Saka, Victor Kristiansen
Arsenal FC v Leicester City FC - Premier League / Julian Finney/GettyImages

การเล่นอินเวิร์ตของ “คาลาฟิออรี่”

วันนี้ อาร์เซนอล ในช่วง 20 นาทีแรกใช้การดันเกมดันขึ้นสูงทั้งแนวรับเดินหน้าบดขยี้คู่แข่ง จน เลสเตอร์ ต้องแก้เกมด้วยการดันพื้นที่ขึ้นมานอกเขตโทษเพื่อให้ตัวเองสามารถที่จะต่อบอลขึ้นมาได้บ้าง แต่ก็จะถูกแผงกลาง ปืนใหญ่ ที่วันนี้ คาลาฟิออรี ดันขึ้นมาเป็น Invert Fullback ทางฝั่งซ้ายขึ้นมาเป็นเหมือนกองกลางหมายเลข 8 อีกคน ที่เติมเกมขึ้นสูงช่วยเหลือ มาร์ติเนลลี่ ทั้งในแบบตัวเชื่อมเกมและแบบที่เป็นการดึงตัวประกบได้ในเวลาเดียวกัน ยิ่งทำให้เกมรุกของ อาร์เซนอล โดดเด่นยิ่งกว่าเดิม

FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEICESTER
FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEICESTER / ADRIAN DENNIS/GettyImages

ความอดทน - โชค และ ความยอดเยี่ยมของ เฮอมันเซ่น

ครึ่งหลังสถานการณ์พลิกผันสุด ๆ จากจังหวะที่ เลสเตอร์ ได้ประตูไล่มาหนึ่งประตูตั้งแต่นาทีแรกของครึ่งหลังที่บอลแฉลบเปลี่ยนทาง ขณะที่ประตูตีเสมอก็มาจากความยอดเยี่ยมของ เจมส์ จัสติน อย่างไรก็ตามทั้งหมดมาจากความอดทนในการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น และฟอร์มเซฟของ แมดส์ เฮอมันเซ่น นายทวารทีมเยือนที่เซฟไปมากถึง 13 ครั้งตลอดทั้งเกมจากการยิงเข้ากรอบทั้งสิ้น 16 ครั้งของ ปืนใหญ่ (หนึ่งในประตูของอาร์เซนอลมาจากเข้าประตูตัวเอง)  

ในครึ่งหลัง เลสเตอร์ สามารถยกระดับการเล่นขึ้นมาเทียบเคียงกับ อาร์เซนอล มากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะเล่นเกมรับหนักแต่ก็มีโอกาสสวนกลับได้น้ำได้เนื้อ ผิดกับครึ่งแรกที่แทบทำอะไรในเกมรุกไม่ได้เลย นี่คือส่วนที่ต้องชื่นชมในความยอดเยี่ยมของทีมเยือนกับการแก้เกมที่เข้าเป้าและตรงจุด

FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEICESTER
FBL-ENG-PR-ARSENAL-LEICESTER / ADRIAN DENNIS/GettyImages

“เกมบุกคือวิถีทางของผู้ชนะ”

อาร์เซนอล ได้ชัยชนะในเกมนี้ก็นับว่าเป็นชัยชนะที่มาอย่างคู่ควร พวกเขาสร้างโอกาสได้มากถึง 36 ครั้ง แม้สุดท้ายอาจจะต้องลุ้นกันหนักมากกว่าจะเกิดประตูกลับขึ้นมานำได้อีกครั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็ตาม เกมรุกของอาร์เซนอล ทำให้พวกเขาได้รับการชูมือในฐานะผู้มีชัยในวันนี้ และชัดเจนว่าพวกเขาจะบุกไม่หยุดจนกระทั่งหมดเวลา ขณะที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็ทำทุกอย่างที่ควรทำและทำได้ซึ่งก็ต้องบอกว่าเหนือความคาดหมายเช่นกัน เพียงแต่วันนี้มันยังไม่ดีพอจะทำให้พวกเขารอดพ้นความพ่ายแพ้ไปได้ในที่สุด

Mikel Arteta
Leicester City v Arsenal FC - Premier League / Visionhaus/GettyImages