แอสตัน วิลล่า 0-2 อาร์เซนอล : ประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก ปืนใหญ่ คว้าชัยด้วยวินัย-แท็คติก และความเฉียบคม

• อาร์เซนอล ชนะ แอสตัน วิลล่า เป็นเกมแรกในรอบสามนัดหลังสุดที่พบกัน

• พวกเขายังคงไม่เสียประตูหลังผ่านไปสองเกมในฤดูกาลนี้
Aston Villa FC v Arsenal FC - Premier League
Aston Villa FC v Arsenal FC - Premier League / Shaun Botterill/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการแข่งขัน : พรีเมียร์ ลีก 2024/25
วันแข่งขัน : วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2024
สนามแข่งขัน : วิลล่า พาร์ค
ผลการแข่งขัน : แอสตัน วิลล่า 0 – 2 อาร์เซนอล


อาร์เซนอล ผ่านหนึ่งเกมยากในการมาเยือนทีมที่ปีที่แล้วพวกเขาพ่ายแพ้ในแบบไป-กลับเป็นทีมเดียวใน พรีเมียร์ ลีก แถมชัยชนะเหนือแอสตัน วิลล่า 2-0 ในเกมที่ วิลล่า พาร์ค ทำให้พวกเขาออกสตาร์ทด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยม 6 คะแนนเต็มจากการลงเล่นสองเกม

เกมระดับคุณภาพแชมเปี้ยนส์ ลีก

นี่คือการเจอกันนัดแรกของฤดูกาลนี้ที่ทีม 4 อันดับแรกของฤดูกาลก่อนโคจรมาพบกันเอง และรูปเกมตลอด 90 นาทีแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยมต่อยอดมาจากฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งชัยชนะของ อาร์เซนอล ในเกมนี้ไม่ได้บ่งบอกว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีกว่าอย่างชัดเจน แต่มันบ่งบอกถึงความแม่นยำในเกมรุกและเกมรับที่เล่นกันผิดพลาดน้อยกว่าคู่แข่ง บนข้อเท็จจริงที่ว่า อาร์เซนอล เอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ตนเองผิดพลาดแต่ไม่เสียประตู ทั้งที่มีจังหวะ 2-3 ครั้งที่พวกเขาน่าจะโดนใส่สกอร์ แต่ฟอร์มการเล่นของผู้เล่นในทีมโดยรวมก็สามารถพาทีมเอาตัวรอดมาได้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ กับการพลาดโอกาสทองยิงหลุดกรอบช่วงครึ่งแรกนับเป็นจุดพลิกผันของเกมได้เลย

William Saliba, Ollie Watkins
Aston Villa FC v Arsenal FC - Premier League / Malcolm Couzens/GettyImages

เพรสซิ่งเกม

เกมนี้เป็นเกมที่ต่างฝ่ายเล่นเกมเพรสซิ่งเข้าใส่กัน อาร์เซนอล นั้นพยายามดันขึ้นไปเล่นกันในพื้นที่แดนบนเป้าหมายเพื่อให้เกิดการความผิดพลาดในแนวรับ ขณะที่ วิลล่า เล่นแบบเดียวกันในครึ่งแรก และก็เกือบได้ผลหาก โอลลี่ วัตกิ้นส์ ไม่ยิงหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย แต่พอครึ่งหลังพวกเขาเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นเพรสซิ่ง ถอยต่ำยืนเป็นแนวคุมโซนกันบริเวณวงกลมกลางสนาม ปล่อยให้ อาร์เซนอล ครองบอลได้เยอะก็จริง แต่ก็เป็นการผ่านบอลกันในแนวรับ หากข้ามเส้นมาเมื่อไรพวกเขาก็พร้อมจะหา หากแย่งบอลได้ก็จะเล่นเกมสวนกลับทันที

เกม อาร์เซนอล เจอกดดันสูงเข้าไป การต่อบอลออกบอลในแนวรับเพื่อสร้างเกมรุกก็ยากที่จะทำเกมขึ้นมาได้ ขณะที่หาก วิลล่า ตัดบอลได้พร้อมจะเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้ทันที เช่นเดียวกับ ปืนใหญ่ ที่หากสามารถออกบอลจากพื้นที่กลางสนามได้ โอกาสสร้างเกมบุกก็จะเกิดขึ้นได้เช่นกัน นั่นทำให้การมี “วินัย” ในเกมนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถชี้ชัดผลการแข่งขันได้

FBL-ENG-PR-ASTON VILLA-ARSENAL
FBL-ENG-PR-ASTON VILLA-ARSENAL / ADRIAN DENNIS/GettyImages

ดาบิด ราย่า และซูเปอร์ซับเปลี่ยนเกม

“นักเตะชั้นยอด” จะสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้ ซึ่ง ดาบิด ราย่า นายทวาร อาร์เซนอล ที่กำลังมั่นใจ หลังจากที่คว้าแชมป์ยูโร 2024 ตามด้วยการเป็นหนึ่งในทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก เกมนี้มีเจ้าตัวมีถึง 3 เซฟสำคัญที่เกิดขึ้นจากการยิงเข้ากรอบ 3 ครั้งของเจ้าบ้าน แน่นอนเขามีส่วนสำคัญช่วยให้ อาร์เซนอล ยังคงไม่เสียประตูในฤดูกาลนี้

ขณะที่การลงสนามของ เลอันโดร ทรอตซาร์ สัมผัสแรกของเขาคือการยิงประตูและเป็นประตูขึ้นนำในเกมนี้ ในขณะที่ก่อนหน้านี้ วิลล่า มีโอกาส 2-3 ครั้งที่น่าจะเป็นประตู ไม่ผ่านมือ ราย่า ไปได้ รวมถึงยิงหลุดกรอบไปเอง แต่แตกต่างกันตรงที่ อาร์เซนอล กลับคว้าโอกาสแรกของครึ่งหลังเอาไว้ได้กลายเป็นประตูจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมนี้ไป

ทรอตซาร์ ลงมาแล้วเกิดความแตกต่างเรื่องการทำประตู ขณะที่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยังไม่สามารถสร้างอันตรายได้มากนัก สถานการณ์ตัวจริงในแดนหน้าบริเวณปีกซ้ายอาจมีการเปลี่ยนมือในนัดต่อ ๆ ไปก็เป็นได้


มอร์แกน โรเจอร์ส ดาวเด่นที่ต้องขัดเกลา

ตัวรุกวัย 22 ปี คือหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างปัญหาให้กับ อาร์เซนอล มากที่สุดคนหนึ่งในเกมนี้ จังหวะการเลี้ยงบอลตะลุยฝ่าแนวรับทำได้ดีมาก ขาดเพียงแค่จังหวะเข้าพื้นที่สังหารเท่านั้นที่ทำได้ไม่ดีพอจะเปลี่ยนโอกาสเป็นประตู นี่คือหนึ่งในคนที่น่าจับตามองหลังจาการย้ายมาแล้วยึดตัวจริงได้ทันทีตั้งแต่ช่วงกลางฤดูกาลที่แล้ว

Jurrien Timber
Aston Villa FC v Arsenal FC - Premier League / Shaun Botterill/GettyImages

ยูเรี่ยน ทิมเบอร์ และ โธมัส ปาเตย์

ทิมเบอร์ ได้รับโอกาสลงตัวจริงเป็นครั้งแรกในรอบเกินหนึ่งปี หลังการผ่าตัดครั้งใหญ่ที่ต้องพักยาวในฤดูกาลที่แล้ว แบ็คชาวดัตซ์เล่นฟุตบอลเกมรุกได้โดดเด่นด้วยระบบ Invert Fullback ที่เคลื่อนที่สูงขึ้นไปเหมือนผู้เล่นตัวรุกอีกหนึ่งคน เป็นเหมือนกับ Box To Box เลยก็ว่าได้ นี่คือสิ่งที่เห็นถึงความแตกต่างในระบบการเล่นเดียวกันเมื่อใช้งาน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่จะยืนตำแหน่งต่ำกว่านี้ ซึ่งนั้นทำให้ อาร์เซนอล มีผู้เล่นในเกมบุกมากกว่าเดิม สามารถดันแนวรับขึ้นสูง กาเบรียล มากัญเยส จะกลายเป็นอีกหนึ่งคนที่มาออกบอล ร่วมกับ โธมัส ปาเตย์ โดยจังหวะประตูที่สองในเกมนี้ จุดเริ่มมาจากการวางบอลยาวของเซนเตอร์แบ็คบราซิลนั่นเอง

ขณะที่ ปาเตย์ ในเกมนี้บนวัย 32 ปี ที่เคยถูกตั้งคำถามจากอาการบาดเจ็บและฟอร์มที่หดหายไปในปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงได้รับโอกาสในปีนี้กับ อาร์เซนอล และวันนี้เขาทำผลงานได้ดีในครึ่งแรกที่เป็นคนกำหนดจังหวะเกมตรงกลางสนามและสามารถทำลายจังหวะเกมของคู่แข่งเพื่อเก็บบอลสองได้ดีมาก ครึ่งหลังเมื่อต้องเจอกับการเพรสซิ่งทำให้เขาเจอกับงานยากในการเล่นเกมรุก แต่สุดท้ายก็ออกจากสนามด้วยการมีหนึ่งประตูที่รอคอยมานานนับจากยิงได้ครั้งสุดท้ายในเดือนมีนาคม 2023  นั่นทำให้ฤดูกาลนี้เขาดูน่าจะยังคงเป็นคนสำคัญของทีมในสัญญาที่เหลืออยู่อีกเพียงหนึ่งฤดูกาลเท่านั้น


อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม อาร์เซนอล ได้ที่นี่

feed