อตาลันต้า 0-0 อาร์เซนอล : เก็บตกเกมเปิดหัว UCL อตาลันต้า ฟอร์มสวย ปืนใหญ่ หวิดแตกที่ แบร์กาโม่
• ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กลายเป็นนักเตะคนแรกที่ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับสโมสรจากอังกฤษมากถึง 4 สโมสร
• อาร์เซนอล ได้ยิงเพียงหนึ่งครั้งใน 45 นาทีสุดท้ายของเกม
อตาลันต้า โชว์ผลงานระดับคุณภาพสมดีกรี แชมป์ยูโรป้าลีก กับการไล่บด อาร์เซนอล จนไปไม่เป็นใน 45 นาทีหลังของเกม ขาดเพียงสกอร์เท่านั้นที่พวกเขาทำไม่ได้ในเกมนี้กับผลเสมอ 0-0 ที่ อาร์เซนอล กลับลอนดอนพร้อมกับต้องขอบคุณ ดาบิด ราย่า นายทวารของพวกเขาที่เซฟจุดโทษสำคัญให้ทีมในวันนี้
รายการแข่งขัน : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
วันแข่งขัน :พฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2024
สนามแข่งขัน :เจวิส สเตเดี้ยม
ผลการแข่งขัน :อตาลันต้า 0 - 0 อาร์เซนอล
ทีเด็ดเกมรับอิตาเลี่ยน
วินัยเกมรับ และเพรสซิ่งไม่มีหมด คือเรื่องราวสำคัญในวันนี้สำหรับ อตาลันต้า ที่พิสูจน์ให้เห็นคำกล่าวที่ว่า “เกมรับทำให้คุณเป็นแชมป์” ได้ดี อตาลันต้า พวกเขามีรากฐานที่แข็งแกร่งในระบบและวินัยของเกมรับ เพรสซิ่งได้ดุดัน และทำให้ อาร์เซนอล สรา้งสรรค์เกมได้ยากลำบากอย่างยิ่งตลอด 90 นาที โดยเฉพาะครึ่งหลังที่คุมเกมได้มากกว่าอย่างเป็นเอกฉันท์ สถิติชี้ชัด อตาลันต้า เหนือกว่า ขาดเพียงสกอร์ที่พวกเขายิงไมได้ในเกมนี้ ขณะที่ ปืนใหญ่ เกมนี้เงียบสนิทกับการสร้างโอกาสได้เพียงครั้งเดียวตลอด 45 นาทีหลัง และต้องขอบคุณเกมรับของทีมที่เหนียวแน่นช่วยทีมได้คะแนนกลับออกมาจากแบร์กาโม่ในวันนี้
หน้าเป้าที่เก็บบอลไม่ได้ของอาร์เซนอล
อาร์เซนอล ในเกมนี้เลือกแกมถูกบังคับให้ลงเล่นเกมรับต่ำ คล้ายกับเกมที่แล้วในลีกซึ่งลงเล่นพบกับ สเปอร์ส พวกเขาเล่นเกมรับได้ดี และพูดได้ว่าเป็นจุดขายหลักของพวกเขาในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การที่พวกเขาเกมรับแน่น แต่เกมรุกกลับไม่สามารถเก็บบอลได้เพื่อสร้างจังหวะสวนกลับ หรือเซตเกมบุกก็ทำให้เกมรับของพวกเขาทำงานหนัก กาเบรียล เชซุส ที่เล่นหน้าเป้าตัวจริงในวันนี้ไม่สามารถเก็บบอลเพื่อเชื่อมเกมพื้นที่ด้านบนได้ ขณะที่ 30 นาทีสุดท้ายของเกม อาร์เซนอล พยายามแก้โจทย์นี้ให้แตก ทรอสซาร์ ถูกส่งมาแทนเพื่อหาโอกาสในการเก็บบอลมากขึ้น ก็ยังทำได้ค่อนข้างน้อย ไค ฮาแวตซ์ ดูจะทำได้มากกว่าใครแต่ก็ไม่มากพอให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของกระแสเกม เมื่อ อตาลันต้า เกมรับเหนียวแน่นเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบนและเข้าถึงตัวเร็วเมื่อบอลเข้ามาในแดนของพวกเขา อาร์เซนอล จึงเจอกับงานยากลำบากในการปั้นเกมและนี่จะเป็นการบ้านให้ อาร์เตต้า ต้องหาทางแก้ต่อไป
เด็ดปีกปืน บีบเล่นตรงกลาง และสาดบอลไปข้างหน้า
ฝั่ง อาร์เซนอล เกมนี้สิ่งที่ขาดหายไปเลย คือเรื่องของการสร้างเกมรุกของตัวริมเส้นที่ถูกตัดบทบาทออกไปชัดเจน ไม่ว่าจะ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่ไม่สามารถใช้ความเร็วกระชากไปถึงริมเส้นได้แม้แต่ครั้งเดียวในเกมนี้ หรือว่า บูคาโย่ ซาก้า ที่ทำได้แค่ครองบอลแต่ใช้การกระชากหรือหาจังหวะเปิดบอลแทบไม่ได้
การขาดหายไปของ เออเดการ์ด มีผลต่อมิติการเล่นของ ซาก้า โดยตรง ขณะที่การเติมเกมของ เบน ไวท์ ในครึ่งหลัง มีเพียงครั้งเดียวที่ไปได้ถึงเส้นหลังและบอลก็ไม่ได้จบสกอร์ในจังหวะนั้นอีกต่างหาก
เมื่อปีกถูกตัดออกจากเกม อาร์เซนอล ก็ต้องใช้การขึ้นบอลตรงกลางสนามเป็นหลัก ซึ่งพวกเขาต้องฝ่าการเพรสซิ่งของเจ้าบ้านที่บีบมาตั้งแต่แดนบน และเข้าถึงเร็วเมื่อบอลข้ามมาในแดนของตนเอง ก็ยิ่งสร้างความยากลำบากให้กับอาร์เซนอล ในการขึ้นเกมเข้าไปอีก ปาเตย์ - ไรซ์ หรือกระทั่ง Invert Full back อย่างทิมเบอร์ เจอปัญหาแบบเดียวกันหมด และหลายครั้งต้องไปวนเริ่มต้นกันใหม่ในแนวหลัง
ขณะที่การ Build Up จากแนวรับก็ทำได้ยาก เพราะเพรสซิ่งของอตาลันต้ายังทำได้อย่างแข็งขันไม่มีหมด และยิ่งกดดันหนักขึ้นในครึ่งหลัง ดาบิด ราย่า พยายาม 2-3 ครั้งที่จะเซตบอลสั้นหน้าบ้านตัวเอง แต่ก็ไปไหนไม่ได้ไกล สุดท้ายเลือกจะเล่นเปิดยาวไปข้างหน้า ซึ่งก็มีปัญหาตัวบนของอาร์เซนอลเก็บบอลไม่ได้อีก ทีนี้ก็วนลูปกันไปเลย อตาลันต้า เก็บบอลสองได้มากกว่า ขึงเกมรุกเข้าใส่ และบีบให้อาร์เซนอลต้องพะวงการเล่นเกมรับตลอด 45 นาทีหลัง
ปาเตย์ ผิดพลาด ราย่า เซฟสำคัญ
โธมัส ปาเตย์ ยังไม่มีช่วงเวลาที่ดีเท่าไรนับจากเปิดฤดูกาลเป็นต้นมา กองกลางชาว กาน่า ผู้ซึ่งหายจากอาการบาดเจ็บยาวมาในปีที่แล้ว ได้รับความไว้วางใจจาก มิเคล อาร์เตต้า ในการยืนตัวจริงในตำแหน่งกลางรับ แต่ด้วยอายุที่มากขึ้น ผ่านการพักยาวมา ปาเตย์ คนนี้ไม่เหมือน 2-3 ปีก่อน โดยเฉพาะเรื่องของความเร็วที่แทบไม่เหลือ และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เขาทำพลาดและทำทีมเสียจุดโทษเมื่อโดนกระชากหายไปเลยจนเกิดการฟาลว์ อย่างไรก็ตาม ดาบิด ราย่า ที่อยู่ในช่วงมั่นใจกับฟอร์มยอดเยี่ยม เซฟถึงสองจังหวะสำคัญในเกมนี้ โดยเฉพาะจังหวะการเซฟลูกโหม่งที่ซ้ำดาบสองกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม