บอร์นมัธ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : ประเด็นหลังเกมพรีเมียร์ลีก เรือใบสีฟ้า บุกเฉือนหวุดหวิด
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะ บอร์นมัธ 1-0 ขยับเข้าใกล้จ่าฝูง ลิเวอร์พูล เหลือเพียงแต้มเดียวเท่านั้น
- ฟิล โฟเด้น เป็นพระเอกของงาน หลังยิงประตูชัยตั้งแต่นาทีที่ 24
โดย Asree Samuyae
รายการ | พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023/24 |
---|---|
วันแข่งขัน | วันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 |
สนาม | ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม |
ผลการแข่งขัน | บอร์นมัธ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะ บอร์นมัธ แบบหวุดหวิด 1-0 พร้อมทำแต้มขยับเข้าใกล้จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอย่าง ลิเวอร์พูล เหลือเพียงคะแนนเดียวเท่านั้น
แชมป์เก่าอาจไม่ได้ครองเกมเหนือเจ้าบ้านมากนักจากโอกาสที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นมา แต่ ฟิล โฟเด้น เป็นพระเอกของงานหลังยิงประตูชัยตั้งแต่นาทีที่ 24
สำหรับประเด็นที่น่าสนใจในชัยชนะที่ ไวตาลิตี้ สเตเดี้ยม มีดังนี้
3 แต้มที่คว้ามาได้แบบหวุดหวิด
ถือเป็นเกมที่ไม่ง่ายเลยสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งกำลังรับมือกับโปรแกรมเตะที่ถี่ แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงจะโล่งใจกับวิธีที่ทีมของเขาตอบสนองต่องานในมือ พวกเขาคุมเกมได้ครึ่งแรกและเบิกสกอร์จากการยิงของ โฟเด้น ในนาทีที่ 24
ทีมของ อันโดนี่ อิไรโอล่า ยกระดับขึ้นมาในครึ่งหลังและสร้างความกดดันอย่างมากให้กับผู้มาเยือน โดยเฉพาะ มาร์คัส ทาเวอร์เนียร์ และ โดมินิค โซลันกี้ ที่เกือบมีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่ด้วยคุณภาพของตัวผู้เล่นซึ่งช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" เอาตัวรอดได้หวุดหวิด
จอห์น สโตนส์ เค้นฟอร์มเก่ง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า จอห์น สโตนส์ มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อชัยชนะของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งทำให้สิ่งต่าง ๆ ดูเป็นเรื่องง่าย กับบทบาทเซ็นเตอร์แบ็คและดันสูงเป็นมิดฟิลด์เมื่อทีมได้ครองบอล
บทบาทดังกล่าวช่วยให้ดาวเตะทีมชาติอังกฤษมีสถิติจ่ายบอลแม่นยำมากถึง 87% เลยทีเดียว แต่เขายังขึ้นไปป้วนเปี้ยนแถวพื้นที่สุดท้ายเพื่อซัพพอร์ตเกมรุกได้บ่อยครั้งเช่นกัน
สโตนส์ ลงเล่นเพียง 18 นัดในฤดูกาลนี้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เป็นระยะ หลายอาจคิดถึง เควิน เดอ บรอยน์ ตอนที่สตาร์ทีมชาติเบลเยียมเจ็บ แต่อย่าลืมว่าช่วงที่เกมรับของทีมสั่นคลอนไปมันเกิดขึ้นเมื่อ สโตนส์ ไม่ได้อยู่ในสนามเช่นกัน
นักเตะถนัดยืนตรงกลางถูกถ่างไปริมเส้น
กวาร์ดิโอล่า มักจะปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้กับนักเตะของตัวเองบ่อยครั้งตลอดปีหลัง ๆ เมื่อคุม แมนฯ ซิตี้ และเกมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
นาธาน อาเก้ และ มานูเอล อคานจี ซึ่งปกติเล่นเซ็นเตอร์แบ็คถูกถ่างไปยืนฟูลแบ็ค ในขณะที่มิดฟิลด์อย่าง มาเธอุส นูเนส และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โดนจับไปเล่นเป็นปีก โดยดร็อปพวกริมเส้นธรรมชาติอย่าง แจ็ค กรีลิช, เฌเรมี่ โดกู และ ไคล์ วอล์คเกอร์ เป็นแค่ตัวสำรอง
ความลื่นไหลที่มอบให้กับทีมของเขา โดยผู้เล่นมักสลับตำแหน่งเป็นประจำ เพราะงั้นเป็นเรื่องยากมากที่คู่แข่งจะคาดเดาและรับมือ ดังที่ บอร์นมัธ เจอปัญหาในครึ่งแรก
ฟิล โฟเด้น กำลังตอบแทนอิสระที่ได้รับ
หนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับประโยชน์จากความอิสระและความลื่นไหลของ แมนฯ ซิตี้ มากที่สุดคือ ฟิล โฟเด้น ซึ่งเอ็นจอยกับการได้ลงเล่นในพื้นที่ตรงกลางสนามมากขึ้นในฤดูกาลนี้ หลังจากก่อนหน้ามักถูกจับไปยืนในบทบาทปีก
ดาวเตะวัย 23 ปี ได้รับอิสระให้วิ่งส่ายไปมาจากขวาไปซ้าย และประสานงานร่วมกับผู้เล่นแนวรุกได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งอิสระนี้นี้ที่ทำให้เขาได้สอดไปซ้ำลูกยิงของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นประตูขึ้นนำและประตูชัย
ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ แทบไม่ต้องถกเถียงเลยว่า โฟเด้น ควรติดทีมชาติอังกฤษในศึกยูโร 2024 หรือไม่ บางที แกเร็ธ เซาธ์เกต ควรให้ตำแหน่งจริงด้วยซ้ำ