เชลซี 0-2 เบรนท์ฟอร์ด : ประเด็นที่ได้จากเกม พรีเมียร์ลีก นัด สิงห์น้ำเงิน เตะหลุดดื้อๆ แพ้คาบ้านอีกนัด - FEATURE

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 0-2 เบรนท์ฟอร์ด

หายอีก 2

ข่าวร้ายของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และชาวคณะสิงห์น้ำเงิน มีมาตั้งแต่ก่อนเกม ด้วยเรื่องสภาพทีมที่ก็ยังติดขัดอยู่นั่น เดี๋ยวคนนี้้เดี้ยง เดี๋ยวคนนั้นหาย จนถึงวันนี้ โปเช็ตติโน่ ก็ยังสะกดคำว่า "ฟูลทีม" ไม่เป็นเลย

"เอ็นโซ กับ มิช่า รู้สึกถึงบางอย่างในการซ้อมเมื่อวาน" โปเช็ตติโน่ แจงเหตุไร้ชื่อ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ จอมทัพคนสำคัญ กับ มิไคโล มูดริค ปีกฟอร์มกำลังขึ้น ในวันนี้ "ทั้งคู่มีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อเล็กๆ"

"ที่จริงเราหวังไว้ว่าทั้งสองจะพร้อมสำหรับอยู่ในทีมวันนี้ แต่ที่สุดแล้วก็ไม่ไหว มันไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่หรือบาดเจ็บหนักอะไร แต่เราก็ไม่อยากเสี่ยง"

ฟอร์มดีๆ หายวับ

การขาดหายของทั้ง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ และ มิไคโล มูดริค อาจเป็นส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดแน่นอนที่ทำให้ เชลซี เตะหลุดในวันนี้

เพราะมันก็เพิ่งไม่กี่วันผ่านมาเองที่ เชลซี ร่ายหนึ่งในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของซีซั่น จู่โจมและเข้าเป้าจน อาร์เซน่อล ตกที่นั่งลำบาก ตามหลัง 0-2 และเกือบเป็น 0-3 ในบางจังหวะด้วย

แต่เมื่อเกิดข้อผิดพลาดที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ โรเบิร์ต ซานเชซ (เตะเปิดเข้าเท้า ดีแคลน ไรซ์ ยิงสวน 1-2) ในวันนั้นแล้ว เชลซี ก็เสียแต้มในที่สุด

และดูเหมือนว่า จะเมาหมัดติดพันมาจนวันนี้

แม้จะครองบอลเหนือกว่า เบรนท์ฟอร์ด ชัด (70:30%) รวมถึงสร้างโอกาสจบรวมได้มากกว่า (17:7) แต่เล่นไปเล่นมา เชลซี ก็ไม่ได้ทำอันตรายอะไรเป็นการกดดันทีมเยือนเท่าไหร่เลย ผิดกับ เบรนท์ฟอร์ด ที่สวนเหมาะๆ ทีเดียวก็ถึงตาข่าย

1-0 ไบรอัน เอ็มเบโม่ โยนเข้าหัว อีธาน พินน็อค โขกง่ายๆ เข้าไป

2-0 โรเบิร์ต ซานเชซ ยอมเสี่ยงดันขึ้นเล่นลูกเตะมุม และโดนสวน จบที่ ไบรอัน เอ็มเบโม่ ปิดสกอร์ไม่พลาด

กลับมาปุ๊บ...เจ๊งปั๊บ

คงไม่ถึงขั้นเป็น "ตัวซวย" เหมือนอย่างที่ครั้งหนึ่ง แกเร็ธ เบล เคยเป็นในสมัยขึ้นมาใหม่ๆ กับ สเปอร์ส ที่เมื่อลงเล่นเมื่อไหร่ทีมก็ไม่ชนะเมื่อนั้น

แต่ก่อนหน้านี้ หนสุดท้ายที่ นิโคลัส แจ๊คสัน ลงตัวจริงค้ำหอกเป้า เชลซี คือเกมแพ้ แอสตัน วิลล่า คาบ้าน 0-1 เมื่อ 24 ก.ย.

และล่าสุดวันนี้ กองหน้าเซเนกัลถูกเรียกลงตัวจริงอีกครั้งในรอบเดือน...ก็แพ้ เบรนท์ฟอร์ด อย่างที่เห็น

อย่างไรก็ตาม การที่ลงปุ๊บแพ้ปั๊บคงเป็นแค่เรื่องบังเอิญมากกว่าอย่างอื่น สิ่งที่น่ากังวลของ แจ๊คสัน มากกว่าคือคุณภาพการเล่นที่จนป่านนี้ก็ยังดู "ไม่ถึงระดับพรีเมียร์ลีก" อยู่ดี

11 นัด 3 ประตู

แม้จะเทียบกันไม่ได้ เป็นต่างกรรมต่างวาระ ต่างสถานการณ์

แต่ โรเมลู ลูกากู ที่โรม่า... 10 นัด 8 ประตู!

ท้ายตารางรออยู่

แพ้แล้ว 4 จาก 10 เกมแรก และชนะแค่ 3 นัด นี่คือ เชลซี 2023/24

การที่สองนัดหลังมีเข้ากระเป๋าแต้มเดียว ทำให้แต้มสะสมของ เชลซี จอดนิ่งอยู่ที่ 12 คะแนน

ตำแหน่งที่ยืน ณ ตอนนี้ ยังไม่ถึงกับเลวร้าย แต่นั่นก็ยึดโยงอยู่กับผลของทีมอื่นรายรอบ

เพราะถ้าบรรดาทีมล่างๆ ลงไป สามารถเอาชนะได้โดยพร้อมเพรียงกัน เชลซี ก็มีสิทธิ์หล่นมาเป็นอันดับ 14-15 ได้เลย ด้วยช่องห่างแต้มที่พวกเขามีเหนือกว่าอันดับ 15 น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ แค่ 2 คะแนน (12:10)

และนี่คือ 5 นัดถัดไปที่กำลังรอ เชลซี อยู่... (เฉพาะในลีก)

• 6 พ.ย. เยือน สเปอร์ส
  
  11 พ.ย. เหย้า แมนฯ ซิตี้
  
  25 พ.ย. เยือน นิวคาสเซิ่ล
  
  3 ธ.ค. เหย้า ไบรท์ตัน
  
  6 ธ.ค. เยือน แมนฯ ยูไนเต็ด
  

คงพูดได้แค่ว่า... "อ้วกแตก!"

สแตมฟอร์ด บริดจ์ สิ้นมนตร์ขลัง

และนี่คือ เชลซี 13 นัดหลังสุดของการเล่นเกม พรีเมียร์ลีก ในบ้านตัวเอง

• เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2
  
  แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2
  
  เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
  
  แพ้ ไบรท์ตัน 1-2
  
  แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2
  
  เสมอ ฟอเรสต์ 2-2
  
  เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1
  
  เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
  
  ชนะ ลูตัน ทาวน์ 3-0
  
  แพ้ ฟอเรสต์ 0-1
  
  แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1
  
  เสมอ อาร์เซน่อล 2-2
  
  แพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2
  

13 เกมหลัง ชนะ 1 เสมอ 6 แพ้คาบ้าน 6

และสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นภายหลังการลงทุนร่วมพันล้านปอนด์ของ ท็อดด์ โบห์ลี่

น่าผิดหวังขนาดไหน?

ภาพที่แฟนบอล เชลซี จำนวนมากทยอยกันเดินคอตกออกจาก สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยไม่รอเกมจบ คือคำตอบ