เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล : เก็บตกประเด็นหลังเกม พรีเมียร์ลีก สิงห์น้ำเงิน เสมอ หงส์แดง ประเดิมฤดูกาลใหม่

• เชลซี กับ ลิเวอร์พูล จบด้วยผลเสมออีกครั้ง
• เป็นผลเสมอที่ 7 ติดต่อกันแล้วในระยะ 3 ปีหลัง
• ยังมีแง่ดีและแง่มุมน่าสนใจอื่นๆ ที่เห็นได้จากทั้งสองฝั่ง
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Marc Atkins/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน:
เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล


7 นัดของการ "กินกันไม่ลง"

ทั้งที่อุตส่าห์ขึ้นซีซั่นใหม่ กุนซือใหม่ (ฝั่งเชลซี) ขุมกำลังใหม่ วันเวลาใหม่ ก็ยังไม่วายที่คู่นี้จะจบลงด้วยผลเสมอเหมือนเช่นเคย ที่ถึงตรงนี้ ก็เสมอกันมา 7 เกมติดต่อกันเข้าไปแล้ว

  • พรีเมียร์ลีก 2021/22 ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี

    พรีเมียร์ลีก 2021/22 เชลซี 2-2 ลิเวอร์พูล

    คาราบาว คัพ 2021/22 เชลซี 0-0 ลิเวอร์พูล

    เอฟเอ คัพ 2021/22 เชลซี 0-0 ลิเวอร์พูล

    พรีเมียร์ลีก 2022/23 ลิเวอร์พูล 0-0 เชลซี

    พรีเมียร์ลีก 2022/23 เชลซี 0-0 ลิเวอร์พูล

    พรีเมียร์ลีก 2023/24 เชลซี 1-1 ลิเวอร์พูล

คู่นี้ จะเจอกันใหม่อีกทีที่แอนฟิลด์ (ถ้าไม่เลื่อนไม่โยก) ต้นปีหน้า 31 ม.ค. ก็รอดูกันต่อว่าจะออกเจ๊า "8 เกมซ้อน" อีกไหม

Enzo Fernández, Diogo Jota
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Robin Jones/GettyImages

โปเช็ตติโน่ มายืดหยุ่น

แม้จะชัดเจนในทุกนัดของ ปรีซีซั่น ว่า เชลซี ในยุค เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีระบบ 4-2-3-1 เป็นตัวเลือกแรก แต่ปรากฏว่ามาถึงเกมเปิดสนาม พรีเมียร์ลีก นัดนี้ โปเช็ตติโน่ ก็ยืดหยุ่นมากพอที่จะเปลี่ยนเป็นระบบ 3 เซนเตอร์แบ็ก 3-4-2-1

อักเซล ดิซาซี่ กับ ลีวาย โคลวิลล์ ถูกส่งลงแพ็กเกมรับร่วมกับ ติอาโก้ ซิลวา เพื่อรับมือพลังรุกของ ลิเวอร์พูล และก็ถือว่าทั้งสามทำผลงานได้ไม่เลว มีผิดพลาดแค่จังหวะเสียประตู แม้ในทางเดียวกันจะทำให้ นิโคลัส แจ๊คสัน โดดเดี่ยวไปนิดในการยืนหน้าเป้า ก็ตาม

Mauricio Pochettino
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Robin Jones/GettyImages

แจ๊คสัน เล่นไม่ออก

หลังจากโชว์ผลงานน่าประทับใจในเกมปรีซีซั่น พอมาถึงของจริงและของแข็งอย่าง ลิเวอร์พูล แล้ว ก็ชัดเจนว่า นิโคลัส แจ๊คสัน ยังต้องใช้เวลาอีกหน่อยเพื่อสั่งสมประสบการณ์และ "เพิ่มเบอร์กระดูก" ให้พร้อมสำหรับการสร้างผลงานที่ดีใน พรีเมียร์ลีก

เกมนี้ แม้ภาพรวม "แอฟริกันเนย์มาร์" จะมีช็อตสร้างความวูบวาบให้เห็น แต่สิ่งที่ขาดไปคือคุณภาพในการจบสกอร์ โดยเฉพาะจังหวะเข้าชาร์จท้ายครึ่งแรกที่ข้ามคานไปจาก 7-8 หลา ส่วนครึ่งหลังเงียบหาย

Nicolas Jackson, Alexis Mac Allister
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

สเตอร์ลิ่ง ยิ่งหนัก

นิโคลัส แจ๊คสัน ว่าเล่นไม่ค่อยออก แต่ที่น่าผิดหวังมากกว่าคือจอมเก๋าประสบการณ์สูงอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ซึ่งนัดนี้ถูกวางไว้เป็นกึ่งๆ ปีก กึ่งๆ กลางรุก สนับสนุนหน้าเป้าในระบบ 3-4-2-1

จังหวะเดียวที่นับว่าอันตราย คือการลุยถึงสุดเส้นหลังขวาแล้วตบเข้ากลางมาโดนเคลียร์ทิ้ง นอกนั้น สเตอร์ลิ่ง เจอปัญหาตลอดในการเผชิญหน้ากับกองหลังทีมเยือน

กับการเข้าสู่ปี 2 กับทีมตราสิงห์ สเตอร์ลิ่ง ต้องเค้นฟอร์มดีออกมาให้ได้ และต้องโดยเร็วด้วย ไม่เช่นนั้น ตำแหน่งจะกลายเป็นของ โนนี่ มาดูเอเก้ เอาได้

Raheem Sterling, Luis Diaz
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Matthew Ashton - AMA/GettyImages

โคลวิลล์ & ดิซาซี่ ไม่แย่

เกมรุกไม่ค่อยดี แต่เกมรับถือว่าไม่เลวเลย เพราะแม้ อักเซล ดิซาซี่ จะหยุดนิ่งจนโดน หลุยส์ ดิอาซ วิ่งแซงไปยิงลูก 1-0 แต่หลังจากนั้นก็แก้ตัวได้ด้วยการล้มตัวยิงลูก 1-1 เท่ากับเพิ่มความมั่นใจให้กับเซนเตอร์แบ็กฝรั่งเศสได้โดยตรง ขณะที่ ลีวาย โคลวิลล์ ที่กลับมาจากการยืมตัวที่ ไบรท์ตัน ก็ชัดเจนว่าจะมีที่ทางให้ทีมชุดใหญ่ไปยาวๆ และเกมนี้ถือว่าเล่นได้ไม่แย่ด้วยกับการดวล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และคนอื่นๆ

ด้วยอายุอานามของ ติอาโก้ ซิลวา ที่สูงวัยขึ้นทุกขณะ ก็คงจะเป็น โคลวิลล์ & ดิซาซี่ นี่แหละ เป็นแกนหลักหลังบ้าน เชลซี ไปยาวๆ

Axel Disasi
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Marc Atkins/GettyImages

VAR มาแต่เนิ่นๆ

จากผลเสมอ 1-1 ที่นับเป็นการออกเจ๊า 7 เกมติดต่อกัน ก็ควรนับว่า "ยุติธรรมดี" พอสมควรแล้ว หลังจากวิดีโอช่วยตัดสิน VAR มีบทบาทสำคัญในการริบ 2 ประตูออกจากเกม

เริ่มจากลูกแทงสวยๆ ของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย ถูกจับล้ำหน้าย้อนหลัง

จากนั้นเป็นทาง เชลซี บ้างที่อดได้จากจังหวะ เบน ชิลเวลล์ ทะลุเข้าไปล็อกหลบ อลิสซอน เบ็คเกอร์ แล้วยิงเข้าไป เป็นเฮเก้อเช่นกันเมื่อ VAR ตีเส้นล้ำหน้าชัดเจน

Mohamed Salah
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Marc Atkins/GettyImages

2 กลางใหม่หงส์ มีแววไปโลด

อันที่จริง นักเตะที่โดดเด่นมากๆ ของเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไม่ถือว่ามีให้เห็นชัดนัก แต่จากฟอร์มภาพรวมของ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ กับ โดมินิค โซบอสซ์ไล ก็ส่งสัญญาณเหมือนกันว่า คู่มิดฟิลด์ใหม่ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ คู่นี้ มีอนาคตไกลทีเดียว ระดับเดียวกับที่ เชลซี น่าจะพึ่งพาได้จาก ลีวาย โคลวิลล์ & อักเซล ดิซาซี่ นั่นแหละ

Enzo Fernandez, Alexis Mac Allister
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Clive Mason/GettyImages

เสริมกลาง อย่าลืมหลัง

จนกว่าจะปิดตลาดซัมเมอร์ ลิเวอร์พูล ก็ยังคงตกเป็นข่าวกับอีก 1 มิดฟิลด์คนใหม ทั้ง โรมิโอ ลาเวีย ของ เซาแธมป์ตัน และ มอยเซส ไคเซโด้ ของ ไบรท์ตัน ซึ่งอันที่จริง ถ้า คล็อปป์ จะไม่เอาใครมาเสริมแดนกลางอีก ก็อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่เมื่อตัวเลือกมิดฟิลด์ของเขาก็ไม่ได้ขาดแคลน (เมื่อนับรวมดาวรุ่ง)

แต่ที่อยากให้เสริมมากกว่า คืออีกสัก 1 เซนเตอร์แบ็ก เมื่อตัวเลือกสำรองอย่าง โจเอล มาติป หรือ โจ โกเมซ ไม่น่าเพียงพอในระยะยาว โดยเฉพาะว่าถ้ามีใครล้มเจ็บไปสักคน

Luis Diaz, Virgil van Dijk
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Clive Mason/GettyImages

นัดหน้า แบบไหนอย่างไร

เชลซี เริ่มต้น พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่ด้วยผลเสมอ จากนั้นนัดหน้าจะออกไปเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ต่อด้วยเฝ้ารัง 3 เกมซ้อน เจอ ลูตัน ทาวน์, เอเอฟซี วิมเบิลดัน (คาราบาว คัพ) และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

ด้าน ลิเวอร์พูล จะกลับไปเฝ้า แอนฟิลด์ รับมือ บอร์นมัธ เสาร์ 19 ส.ค. จากนั้นอีกสัปดาห์ถัดไปจะเจอของแข็งอีกนัดอย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

Mauricio Pochettino, Jurgen Klopp
Chelsea FC v Liverpool FC - Premier League / Robin Jones/GettyImages