เชลซี 1-2 เรอัล มาดริด : เก็บตกประเด็นหลังเกม สิงห์บลูส์ อำลาปรีซีซันที่ อเมริกา ไม่สวยพ่าย ราชัน ชุดขาว 1-2

ยอร์เกนเซ่น ลงประเดิมสนาม

เกมวันนี้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า เลือกใช้ผู้รักษาประตูอย่าง ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น นายทวารป้ายแดงที่ซื้อมาจาก บียาร์เรอัล ประมาณ 21 ล้านปอนด์ลงเฝ้าเสา ซึ่งต้องบอกว่าโดนรับน้องใหม่โดยทันที เพราะพลพรรค สิงโตน้ำเงินคราม โดน ราชันชุดขาว กระหน่ำ 2 ประตูตั้งแต่ในช่วงครึ่งเวลาแรก แถมลูกแรกที่เสียก็เป็นลูกก้ำกึ่งว่าถ้า ยอร์เกนเซ่น พุ่งได้ไกลกว่านี้สักนิดก็อาจทำให้ เชลซี รอดพ้นจากการเสียประตูได้ หลังจากนั้นนายประตูชาว สวีดิช ก็ยังไม่ได้มีโอกาสโชว์ซุปเปอร์เซฟให้เห็น

ข้อดีที่เราได้เห็นจาก ยอร์เกนเซ่น คือการเล่นบอลกับเท้าได้ดี ซึ่งตรงโจทย์กับแท็คติกของ มาเรสก้า ที่ต้องการเน้นการขึ้นเกมจากผู้รักษาประตูและกองหลังเป็นหลัก โดยถ้านับเฉพาะข้อนี้ ยอร์เกนเซ่น ถือว่าสอบผ่านในนัดแรก เพราะถ้าเทียบกับ โรเบิร์ต ซานเชซ เมื่อนัดที่แล้ว ยอร์เกนเซ่น ทำได้ดีกว่าพอสมควร ทีนี้ต้องมาดูกันว่ากุนซือวัย 44 ปีจะเลือกใครลงเล่นในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดสนาม

รายชื่อผู้รักษาประตูของ เชลซี ในขณะนี้

1) ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น
2) โรเบิร์ต ซานเชซ
3) ยอร์เย เปโตรวิช
4) เกปา อาร์ริซาบาลากา
5) มาร์คัส เบตติเนลลี
6) เอ็ดดี้ บีช
7) ลูคัส เบิร์กสตรอม
8) กาเบรียล สโลนิน่า

ราชัดชุดขาว สุดแกร่ง !

จริงอยู่ที่ เรอัล มาดริด ชุดนี้ไม่ใช่ทีมที่ดุดันสมราคาแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สมัยล่าสุด แถมฟอร์มการเล่นช่วงปรีซีซันของพวกเขาก็ไม่ได้ดูสวยหรูสักเท่าไร อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่านี่คือทีม ราชันชุดขาว ที่มาแบบไม่เต็มพิกัด ซึ่งในเกมนี้ คาร์โล อันเชล็อตติ เลือกส่งผู้เล่นชุดสำรองอย่าง บราฮิม ดิอาซ, ดานี่ เซบายอส, มาริโอ มาร์ติน, ฟราน การ์เซีย ลงสนาม เทียบกับ เชลซี ที่แทบจะเต็มแล้วเกือบทุกขุมกำลัง ทีม ราชันชุดขาว ยังครองเกมบุกได้แบบสบาย ๆ

ส่วนทางด้าน วินิซิอุส จูเนียร์, โรดริโก้, และ ลูก้า โมดริช ก็ยังคงเป็นตัวอันตรายเสมอ โดยเฉพาะสองชื่อแรกที่ปั่นป่วนแนวรับฝั่ง เชลซี จนแทบจะไปกันไม่เป็น ขนาดในช่วงแรกของเกม เชลซี ดูเป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่เมื่อผู้เล่นของ มาดริด เครื่องติด บอกได้เลยว่าต่อบอลเชื่อมเกมกันเพลินตามาก โดยที่ข้างสนามยังมีสองดาวรุ่งอย่าง เอ็นดริก และ อาร์ด้า กือแลร์ เป็นอาวุธลับที่วันนี้ยังไม่ได้ลงสนามด้วย

เมื่อซีซันจริงเริ่มต้นการฟาดแข้งขึ้น เรอัล มาดริด จะได้ดาวเตะตัวเก่งอย่าง จู๊ด เบลลิ่งแฮม, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, โอเรเลียง ชูอาเมนี, และ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กลับมา แถมมีอีกหนึ่งคนคือ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่จะเข้ามาเสริมแกร่งทีมได้อย่างไฉไลแน่นอน

บทสรุปปรีซีซันที่ อเมริกา ของ เชลซี

ความพ่ายแพ้ของ เชลซี ต่อ เรอัล มาดริด ในเกมปรีซีซันนัดสุดท้ายที่ สหรัฐอเมริกา ทำให้พลพรรค สิงห์บลูส์ เก็บได้เพียง 1 ชัยชนะเท่านั้นตลอดการแข่งขัน 5 เกมล่าสุด แถมเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือจำนวนประตูที่โดนยิงไปถึง 12 ลูกก็ทำให้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ต้องคิดหนักว่าจะขันน็อตเกมรับอย่างไรดีเมื่อฤดูกาลจริงเร่งฝีเท้าเข้ามาใกล้ทุกขณะ

บาดแผลของ เชลซี ยังมีให้เห็นเต็มไปหมดในช่วงเวลานี้ ทั้งการเล่นบอลในพื้นที่สุดท้ายยังไม่เฉียบขาด และแผนการเล่นของ มาเรสก้า ที่ดูแล้ว นักเตะ เชลซี หลายคนยังมีความสับสนอยู่พอสมควร โดยเฉพาะกัปตันทีมอย่าง รีซ เจมส์ ที่โดนลดประสิทธิภาพลงไปเยอะมากในการลงเล่นภายใต้แท็คติกแบบใหม่

ในนัดหน้า เชลซี จะลงเล่นปรีซีซันนัดสุดท้ายใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ อินเตอร์ มิลาน ต้องมาดูกันว่าต่อหน้าแฟนบอลในประเทศ เชลซี จะมีผลงานที่กระเตื้องขึ้นอย่างไรบ้าง

บทสรุปผลงานปรีซีซันของ เชลซี ที่ สหรัฐอเมริกา

- เสมอ เร็กซ์แฮม 2:2
- แพ้ เซลติก 1:4
- ชนะ คลับ อเมริกา 3:0
- แพ้ แมนฯ ซิตี้ 2:4
- แพ้ เรอัล มาดริด 1:2

เสียประตู 12 ลูก
ยิงได้ 9 ลูก

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทีม เชลซี ได้ที่นี่