เก็บตกประเด็นหลังเกม เชลซี เปิดบ้านอัด เซอร์เวตต์ 2-0 กุมความได้เปรียบเลกแรก คอนเฟอเรนซ์ลีก - OPINION
- เชลซี เอาชนะ เซอร์เวตต์ ไปได้ 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนลงเตะเลกสองสัปดาห์หน้า
- มิไคโล มูดริก มีโอกาสสัมผัสบอลเยอะ แต่ไม่สามารถสร้างประโยชน์ให้ทีมได้
- โนนี่ มาดูอาเก้ โชว์ฟอร์มโหดท่ามกลางข่าวว่ากำลังจะถูกขายออกจากทีม
รายการ | ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก 2024/25 รอบคัดเลือก |
---|---|
วันแข่งขัน | คืนวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 |
สนาม | สแตมฟอร์ด บริดจ์ |
ผลการแข่งขัน | เชลซี 2-0 เซอร์เวตต์ |
สิงห์บลูส์ เก็บชัยชนะแรกของฤดูกาล แต่ฟอร์มยังน่าเป็นห่วง..
หลังเปิดบ้านแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน เชลซี ตั้งเป้าว่าต้องเอาชนะคู่แข่งที่ระดับฝีเท้าห่างกันหลายขุมอย่าง เซอร์เวตต์ ให้ได้ เพราะนอกจากจะเป็นใบการันตีตั๋วเข้ารอบไปเล่นใน ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก ชัยชนะในนัดนี้ยังมีค่าในแง่ของกำลังใจก่อนที่พวกเขาจะบุกไปเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ในช่วงสุดสัปหาห์นี้ด้วย
ผลการแข่งขันออกมาตามคาด พลพรรค สิงห์บลูส์ เปิดบ้านเอาชนะคู่แข่งจาก สวิตเซอร์แลนด์ ได้สำเร็จที่สกอร์ 2-0 โดยลูกแรกมาจากจุดโทษของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ก่อนที่ตัวสำรองอย่าง โนนี่ มาดูอาเก้ จะมายิงประตูทิ้งห่างให้ทีมกุมความได้เปรียบ
ในแง่ของรูปเกมก็ต้องบอกตามตรงว่า เชลซี ยังมีจุดที่ต้องปรับแก้อีกเยอะพอตัว ทั้งในแง่ของการจัดระเบียบเกมรับยันไปถึงการเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย เพราะนี่ขนาดเจอแค่ทีมอันดับ 5 จาก สวิส ซูเปอร์ลีก รูปเกมยังไม่เป็นต่อจนถึงขั้นพับสนามบุกได้ นับประสาอะไรกับบรรดาทีมเขี้ยวลากดินใน พรีเมียร์ลีก ที่ เชลซี ในตอนนี้จะไปต่อกรด้วยทุกสัปดาห์ได้
แน่นอนว่าความกดดันเริ่มตกมาที่ผู้เป็นโค้ชอย่าง เอ็นโซ่ มาเรสก้า เพราะในขณะที่ทีมใช้จ่ายสะพัดเพื่อดึงวัตถุดิบคุณภาพมากมายเข้ามาสู่ทีม หากเชฟอย่าง มาเรสก้า ยังปรุงไม่กลมกล่อมเสียที เขาอาจโดนริบตำแหน่งก่อนเวลาอันควรก็เป็นได้
ถึงเวลายอมรับว่า มูดริก อาจไม่มีวันถึงระดับโลก ?
มิไคโล มูดริก ได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมวันนี้ แถมได้อยู่ในสนามครบ 90 นาทีด้วย แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ดาวเตะชาว ยูเครน ส่อแววออกมาว่าจะล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จกับ เชลซี
ตลอดทั้งเกม มูดริก สัมผัสบอลไปทั้งหมด 51 ครั้ง เทียบกับ เปโดร เนโต้ ซึ่งเล่นตัวริมเส้นอีกฝั่งก็เป็นจำนวนสองเท่าโดยประมาณ และถ้าดูผ่าน ๆ การเล่นของ มูดริก สร้างอิมแพ็คต่อเกมวันนี้ได้ไม่น้อย เขามีโอกาสสับไกยิงไปทั้งหมด 3 ครั้ง แถมสามารถเลี้ยงผ่านคู่ต่อสู้ได้อีก 3 ครั้ง คือตัวเลขออกมาดูดีเลยทีเดียว
ปัญหาคือความพยายามทั้งหมดที่ตัว มูดริก และ เพื่อนร่วมทีม ปลุกปั้นมา มักจะจบลงในจังหวะสุดท้ายเสมอ ยกตัวอย่างจังหวะในเกมวันนี้ที่ มูดริก หลุดเข้าไปได้ดวลกับผู้รักษาประตูเน้น ๆ โดยที่พื้นที่ตรงเสาสองเปิดโล่ง แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ มูดริก จัดการแปบอลเข้าไปที่เสาแรกที่แทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้บอลวิ่งผ่านเข้าไปเป็นประตูเลย และที่น่าอับอายกว่านั้นคือ มูดริก ยิงบอลไม่เข้ากรอบเลยด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่ลูกนั้นเป็นจังหวะจะแจ้งที่สุดที่ เชลซี มีในเกมวันนี้
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่ มิไคโล มูดริก โยนโอกาสทองทิ้งไปดื้อ ๆ เพราะตลอดทุกนัดที่ลงเล่นเราจะเห็นว่าดาวเตะผู้นี้มักจะส่งบอลไม่ตรงเพื่อนบ้าง เลี้ยงไปทำบอลออกเองบ้าง หรืออยู่ดี ๆ ก็ปล่อยไก่แบบที่แฟนบอลและเพื่อนร่วมทีมไม่เข้าใจเหมือนกัน
แน่นอนว่าเราทุกคนเห็นศักยภาพว่า มูดริก มีแววไปได้ไกลขนาดไหนหากเขาตัดสินใจเลือกจังหวะการเล่นให้ดีขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันค่าตัวเกือบ 100 ล้านปอนด์ที่ เชลซี จ่ายไปยังไม่มีผลงานความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็นสักอย่าง ซึ่งแม้กระทั่งเจอทีมอย่าง เซอร์เวตต์ มูดริก ก็ยังงัดฟอร์มเก่งออกมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
มาร์ค กิว พลาดหมูหก ส่วน โนนี่ ท้าชิงตำแหน่งปีกขวา
หนึ่งในจังหวะสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในวันนี้คือจังหวะจบสกอร์ฉบับ นิโคลัส แจ็คสัน เรียกพี่ ซึ่งเป็นจังหวะที่ มาร์ค กิว ฉกบอลจากเท้าผู้รักษาประตูไปได้ ส่งผลให้เหลือแค่ตัวเขากับประตูโล่ง ๆ แต่ กิว กลับสร้างโมเมนต์ช็อคโลกด้วยการยิงไปติดผู้รักษาประตูที่วิ่งตามมาแบบดื้อ ๆ แถมซ้ำร้ายไปกว่านั้นหากลองย้อนคลิปดูซ้ำ ๆ จะเห็นได้ว่าบอลที่ออกจากเท้า กิว ไม่ตรงประตูด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าต่อให้นายทวารวิ่งกลับมาบล็อคไม่ทัน ลูกยิงของ กิว ก็ไม่เพิ่มสกอร์ให้ทีมอยู่ดี
ส่วนอีกคนที่ฟอร์มการเล่นสวนทางกันคือ โนนี่ มาดูอาเก้ ซึ่งมีข่าวว่ากำลังจะถูกขายในเร็ววันนี้ด้วยความหนาแน่นของเหล่าบรรดาผู้เล่นในทีม ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้ง โคล พาลเมอร์ ที่จองตำแหน่งริมเส้นด้านขวาอยู่แล้ว และยังมี เปโดร เนโต้ กับ เจา เฟลิกซ์ ที่สามารถโยกไปเล่นตรงนั้นได้ แต่ในวันนี้ มาดูอาเก้ แสดงให้เห็นอีกครั้งว่า เชลซี อาจต้องคิดทบทวนใหม่อีกครั้ง
โดยถ้านับตั้งแต่ช่วงปรีซีซันที่ผ่านมา โนนี่ มาดูอาเก้ ถือเป็นนักเตะที่ฟอร์มดีที่สุดของ เชลซี ชุดนี้เลยก็ว่าได้ เพราะในขณะที่ทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ยังไม่ลงตัว มาดูอาเก้ คือหนึ่งคนที่สร้างอิมแพ็คภายในเกมได้ตลอด รวมถึงยังมีผลงานน่าประทับใจโดยทำไปได้ถึง 4 ประตูกับอีก 1 แอสซิสต์ ซึ่งแน่นอนว่าแฟน เชลซี อาจไม่ได้ยกให้ โนนี่ เป็นนักเตะในดวงใจสักเท่าไร แต่ถ้าวัดจากฟอร์มการเล่น ณ เวลานี้ มาดูอาเก้ คือหนึ่งคนที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด