เชลซี 2-0 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด : ประเด็นจากเกม พรีเมียร์ลีก นัด สิงห์น้ำเงิน ฟื้นฟอร์มกลับคว้าชัยได้อีกครั้ง - FEATURE
• แต่ครึ่งหลัง เชลซี เร่งเครื่องกด เชฟยู 2 ตุง
• เป็นการกลับมาเข้าวินอีกครั้งของ เชลซี ให้หลังจากการแพ้ 3 จาก 4 เกมหลังสุดก่อนหน้านี้
รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 2-0 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
เปลี่ยนทีมเซอร์ไพรส์
ไลน์อัพของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ วันนี้ เรียกเสียงฮือฮาได้พอสมควรทีเดียว
แรกสุดคือ ยอร์เย่ เปโตรวิช มือสองเซอร์เบีย ที่ย้ายมาจาก นิว อิงแลนด์ เรฟโวลูชั่น ได้โอกาสลงประเดิมตัวจริงนัดแรก แทนที่ โรเบิร์ต ซานเชซ ซึ่งบาดเจ็บจากนัดที่แล้ว (0-2 เอฟเวอร์ตัน)
ถัดมา เอ็นโซ เฟร์นานเดซ โดนดร็อป ที่ถ้าจำไม่ผิดคือแทบจะเป็นครั้งแรกที่มิดฟิลด์แชมป์โลกเจ้าของค่าตัว 107 ล้านปอนด์ ถูกตัดออกจาก 11 คนแรก หลังย้ายมาเมื่อต้นปี
มิดฟิลด์คู่กลางเป็น คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ กับ มอยเซส ไคเซโด้ ส่วนแนวรุกมี ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, โคล พาล์มเมอร์ และ มิไคโล มูดริค หลังหน้าเป้า นิโคลัส แจ๊คสัน
อีกอย่าง คือการกลับมามีชื่อสำรองเกม พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกของ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ที่ล้มเจ็บมาตั้งแต่ตอนปรีซีซั่น เท่ากับสภาพร่างกายเริ่มกลับมาฟิตถึงระดับแล้ว
ไม่ชนะ ควรไปบวช
ในแง่ของสถิติการพบกัน เชลซี อาจไม่ได้ถึงกับผูกปีกำชัยเหนือทีมดาบคู่ แต่ว่าการเจอกัน 3 หนหลังในซีซั่น 2020/21 เชลซี ก็เอาชนะได้ทั้ง 3 (พรีเมียร์ลีก 2 เอฟเอ คัพ 1) ด้วยสกอร์ 4-1, 2-1 และ 2-0 ตามลำดับ
แต่ที่มากกว่านั้น และ เชลซี ควรยกขบวนไปเข้าอุปสมบทภาคดูหนาว หากไม่สามารถเอาชนะเกมนี้ได้ ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ณ ปัจจุบันขณะ
แม้บอลเปลี่ยนโค้ชอย่าง เชฟยู จะฟื้นกลับมาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ได้ 1-0 ในเกมล่าสุด แต่ว่าก่อนหน้านั้น พวกเขาแพ้ไปถึง 13 จาก 16 นัดแรก จมบ๊วยแบบได้แค่แหงนคอมองทีมด้านบน
นี่คือโอกาสแก้ตัวที่ดีมากของ เชลซี หลังจากแพ้มา 3 จาก 4 นัดหลังสุด จนจมอันดับ 12 ของตาราง
84% - 14% - 2%
แต่หลังจากครึ่งแรกที่ผ่านไป 0-0 และรูปเกมที่แม้จะครองบอลมากกว่า แต่โอกาสเข้าทำก็ยังมีจำกัด เชื่อได้ว่าแฟนสิงห์บางท่านคงแอบปาดเหงื่อ และคิดล่วงหน้าไปว่า หรือเกมนี้จะกล้าๆ เจาะบ๊วยไม่เข้า
อย่างไรก็ตาม โคล พาล์มเมอร์ จัดสกอร์นำ 1-0 ให้ในนาที 54 หลังสบโอกาสเข้าชาร์จลูกจ่ายของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เข้าไป
ประตูนำทำให้ทีมถ่ายทอดสด ประเมินโอกาสชนะเกมนี้ของ เชลซี ว่าขยับขึ้นไปอยู่ที่ 84% ส่วนผลเสมอ 14% และการที่ เชฟยู จะพลิกกลับมาชนะได้ มีสิทธิ์เกิดขึ้นแค่ 2% เท่านั้น
แล้วต่อจากลูก 1-0 ไม่ถึง 5 นาทีให้หลัง พาล์มเมอร์ ก็ตามไปเก็บลูกที่สุดเส้นหลังขวา ก่อนปาดไปเสาสองให้ นิโคลัส แจ๊คสัน ยิงเข้าไปง่ายๆ
ยังควรถ่างเป็น 3-0 อย่างน้อยจากโอกาสทอง 1 ครั้ง จังหวะ พาล์มเมอร์ ถวายพานทองให้หอกสำรอง อาร์มันโด้ โบรย่า แต่ปรากฏว่าการเข้าชาร์จจ่อยิ่งกว่าจ่อ 2 ก้าวหน้าปากประตูของกองหน้าอัลเบเนีย กลับยิงออกข้างเสาอย่างไม่น่าเชื่อ
9/10
นี่คือเกมที่ยอดเยี่ยมมากอีกครั้งของ โคล พาล์มเมอร์ เด็กปั้น แมนฯ ซิตี้ ที่ขอมาแจ้งเกิดเบ่งบานกับ เชลซี
ทั้งเป็นคนยิงประตูนำ 1-0
เป็นคนแอสซิสต์ให้กับประตู 2-0
และที่จริงก็ควรมีอีก 1 แอสซิสต์ หาก อาร์มันโด้ โบรย่า ไม่ทำหมูหก
นอกเหนือจากผลงานเหล่านี้ที่ส่งอิทธิพลอย่างแรงต่อผลการแข่งขัน ฟอร์มของหนุ่มวัย 21 ก็ออกมาดีเยี่ยมแต่ต้นยันจบ สร้างอันตรายและความปวดหัวให้กับแนวรับทีมเยือนอยู่ตลอกทุกครั้งที่ได้บอล
ในการตัดเรต เรายกให้ พาล์มเมอร์ ไปเลย 9/10
ถ้ายืนระยะสร้างผลงานดีงามแบบนี้ได้ตลอดทุกเกม หรือแทบทุกเกม จะแจ่มวับแวววาวมากทีเดียว
มิติใหม่จาก ไคเซโด้
อีกหนึ่งประเด็นที่เห็นได้จากเกมนี้ อย่างที่ว่า คือการหลุดออกเป็นสำรองของ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ
แต่การตัดสินใจนี้ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไม่ได้ส่งผลเสียแต่อย่างใด
ตรงกันข้าม ยังทำให้เราได้เห็น มอยเซส ไคเซโด้ ในเวอร์ชั่นที่ใกล้เคียงช่วงเวลาแจ้งเกิดกับ ไบรท์ตัน มากที่สุดด้วย
เพราะเกมนี้ ไคเซโด้ ไม่ต้องปักหลักช่วยเกมรับในแดนตัวเองแล้ว เขาได้รับอิสระในการเติมเกมสูงขึ้น ผลคือการได้เล่นกับบอลหลายจังหวะ มีโอกาสโชว์เซนส์และทักษะสวยๆ มีช็อตตัดบอลงามๆ และจ่ายบอลคมๆ ให้เพื่อน
นี่แหละ ฟอร์มที่แฟนๆ เชลซี อยากเห็น--ตั้งนานแล้ว
ลูกที่ 8 แล้วครับ
ในส่วนของ นิโคลัส แจ๊คสัน ที่กลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง ที่จริง ไม่ใช่เกมที่น่าประทับใจอะไรเลย ยังคงเล่นอย่างกระโดกกระเดก เก้งก้างๆ ไม่อาจสร้างอันตรายเล่นงานเกมรับทีมเยือนได้อย่างที่ควรจะเป็น
แต่แม้ฟอร์มส่วนตัวจะไม่สวย หอกเซเนกัลก็จัดประตูที่ 8 ให้กับ เชลซี ในซีซั่นนี้แล้ว เป็นประตูที่ 8 จากการเล่น 19 นัด
เห็นเล่นทื่อๆ แบบนี้ ดีไม่ดีจะยิงขึ้นเลข 2 หลักให้ เชลซี เอาได้
สำหรับเรื่องน่าเสียดายของ เชลซี จากเกมนี้ คงมีแค่ 1. คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ไม่ได้ลงเคาะสนิมสักนาที แม้มีชื่อนั่งสำรอง
กับ 2. อาร์มันโด้ โบรย่า พลาดได้ยังไงกับจังหวะชาร์จจ่อๆ 2-3 หลาแบบนั้น
นอกนั้นไม่มีปัญหา และถือเป็นการเรียกความมั่นใจได้เยี่ยมเลยก่อนเตะรอบ 8 ทีมสุดท้าย คาราบาว คัพ กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด อังคาร 19 ธ.ค. นี้