เชลซี 2-1 วิมเบิลดัน: ประเด็นหลังเกม คาราบาว คัพ รอบ 2 สิงห์บลู แซงคว้าชัย

เชลซี เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ วิมเบิลดัง คู่แข่งต่างชั้นไป 2-1 ชนิดที่ถูกนำก่อนและต้องไล่ยิงคืนสองประตูรวดและผ่านเข้ารอบไปในที่สุด
Chelsea v AFC Wimbledon - Carabao Cup Second Round
Chelsea v AFC Wimbledon - Carabao Cup Second Round / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages
facebooktwitterreddit

รายการ: ฟุตบอล คาราบาว คัพ อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 30 สิงหาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน:
เชลซี 2-1 เอเอฟซี วิมเบิลดัน


ประเด็นน่าสนใจจากชัยชนะของ เชลซี

กลับสู่ 4-2-3-1

แบ็กทูเบสิก กลับสู่ระบบที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ใช้งานมาตลอดช่วงปรีซีซั่นอีกครั้งอย่าง 4-2-3-1 ภายหลังปรับไปใช้หมาก 3 เซนเตอร์แบ็กมาใน 3 เกมแรกของ พรีเมียร์ลีก และถือว่าสูตรที่ใช้วันนี้ ช่วยให้นักเตะเชลซีเล่นง่ายขึ้นพอสมควร รวมถึงเห็นข้อบกพร่องชัดด้วยว่าเด็กๆ บางคนอย่าง เมสัน เบอร์สโตว์, ดีเอโก้ โมเรยร่า หรือ บาเชียร์ ฮัมฟรีส์ ยังไม่ค่อยพร้อมสำหรับการเป็นตัวจริง แม้ในระยะยาวจะให้เป็นตัวสลับยังพอไหวก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มครึ่งหลัง โปเช็ตติโน่ ลองใช้ 4-4-2 บ้าง ด้วยการส่ง นิโคลัส แจ๊คสัน ลงสำรองไปยืนหน้าคู่ เบอร์สโตว์ ซึ่งก็วูบวาบน่าสนใจดีกับการมีตัวรุกเยอะ ก่อนที่จะปรับคืนสู่ 4-2-3-1 อีกหนในครึ่งชั่วโมงท้าย ที่ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ลงไปเป็นกลางรุกแทนที่ศูนย์หน้าอย่าง เบอร์สโตว์

Josh Davison, Ian Maatsen
Chelsea v AFC Wimbledon - Carabao Cup Second Round / Clive Rose/GettyImages

เอ็นโซ นับ 1

ย้ายเข้ามาด้วยค่าตัวมหาโหด 107 ล้านปอนด์ภายหลังเป็นหนึ่งในดาวเด่นของ อาร์เจนติน่า ชุดแชมป์โลก แต่นอกจากการเล่มเกมพาสซิ่งและครอบครองบอลที่เห็นชัดว่า "เสียยาก" แล้ว สิ่งที่รอคอยอย่างประตูแรก กลับไม่มีเลยในตลอด (ครึ่ง) ซีซั่นที่ผ่านมา

เพียงแต่วันนี้ หลังจากลงเล่นเป็นเกมที่ 26 เม็ดแรกของมิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ก็มาแล้ว จากจังหวะเตะเปิดเกมของนายทวารคู่แข่งที่ไปชน ยาน มาตเซ่น เด้งมาเข้าทางให้ส่องไกลเข้าตาข่ายโล่งๆ

น่าลุ้นว่า ประตูแรกจะช่วยให้ เอ็นโซ เล่นอย่างมั่นใจมากขึ้นในฐานะ "กลางรุก" ที่เป็นบทบาทใหม่ของซีซั่นนี้ ไม่ใช่ตัวรับหรือตัวเชื่อมเกมเหมือนซีซั่นก่อน

Enzo Fernandez
Chelsea v AFC Wimbledon - Carabao Cup Second Round / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

มาดูเอเก้ ของดี

หนึ่งในดีลที่ได้รับคำชมของ ท็อดด์ โบห์ลี่ จนถึงวันนี้ แน่นอนว่าคือการคว้าแข้งนอกสายตาอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้ จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาเมื่อตลาดหน้าหนาวที่แล้ว ด้วยสนนราคาไม่ได้สูง 28.5 ล้านปอนด์

ตัวริมเส้นอดีตเด็กปั้น สเปอร์ส วัย 21 แสดงถึงคุณภาพที่น่าจับตามองตั้งแต่ได้ลงสนามไม่กี่เกมแรก และมี 1 ประตูจาก 12 นัดที่ได้เล่นในซีซั่นก่อน ส่วนซีซั่นนี้ก็กดเม็ดแรกแล้วจากการ "ชงเองกินเอง" เรียกจุดโทษด้วยตัวเองและลุกมายิงเข้าไปอย่างเยือกเย็น

อันที่จริง เมื่อซีซั่นนี้ยังไม่มีคิวเตะบอลยุโรป การทุ่มซื้อ โคล พาล์มเมอร์ (แมนฯ ซิตี้) หรือ เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล) ในช่วงโค้งสุดท้ายตลาดซัมเมอร์ ก็อาจไม่จำเป็นเท่าไหร่ด้วยซ้ำไป เมื่อ มาดูเอเก้ ก็ดีอยู่แล้ว และตัวเลือกแนวรุกก็ไม่ถือว่าขาดแคลนเช่นกัน

Noni Madueke
Chelsea v AFC Wimbledon - Carabao Cup Second Round / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

บอกลา กูกูเรย่า ...?

หนึ่งในจุดน่าสนใจของเกมเมื่อคืนนี้ คือการที่ มาร์ก กูกูเรย่า ยังคงได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และถือว่าเล่นได้ไม่เลว ไม่ได้ก่อความผิดพลาดให้เห็น และมีจังหวะสอดประสานเติมเกมรุกอย่างที่เคยโดดเด่นกับ ไบรท์ตัน มาก่อน

เพียงแต่นี่ก็อาจเป็น "เกมสุดท้าย" ของแบ็กซ้ายสแปนิช ก่อนย้าย (คาดว่าเป็นลักษณะยืมตัว) สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อมีรายงานว่า ตัวนักเตะรอบรับสัญญาจากทีมผีแดงแล้ว เหลือแค่ให้ 2 สโมสรไปทำข้อตกลงกันให้ลุล่วง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ เชลซี การปล่อย กูกูเรย่า ไปก็คงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรนัก เรียกว่าไม่มี กูกูเรย่า ก็คงไม่มีปัญหา เมื่อนอกจากรองกัปตัน เบน ชิลเวลล์ แล้วพวกเขาก็ยังมี ยาน มาตเซ่น แข้งสารพัดประโยชน์ดีกรีติดทีมแห่งปี ชปช. อยู่ทั้งคน

Marc Cucurella
Chelsea v AFC Wimbledon - Carabao Cup Second Round / Sebastian Frej/MB Media/GettyImages

เชียร์ให้ถึงแชมป์

ในหลายๆ คอมเมนต์ของแฟนบอล พยายามเชียร์ให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ วาง คาราบาว คัพ เอาไว้เป็น "เป้าหมายหลัก" ประจำซีซั่น นอกเหนือจากการพยายามแทรกตัวกลับสู่ท็อปโฟร์ พรีเมียร์ลีก ให้ได้อีกครั้ง

บางรายมองว่า การได้แชมป์ แม้จะเป็นแชมป์ใบเล็กสุดอย่างถ้วยนี้ แต่ก็จะเป็นการมอบความมั่นใจในการเล่นให้กับทีมชุด "สายเลือดใหม่" ของ เชลซี ได้เป็นอย่างดี รวมถึงว่าจะเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ความสำเร็จของ โปเช็ตติโน่ ในการขึ้นหลังสิงห์เองด้วย

อย่างไรก็ตาม บอลน็อกเอาต์ก็ไม่เคยง่าย เชลซี คงต้องว่ากันทีละรอบ ทีละเกม

สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย. เชลซี จะลงเล่นรอบ 3 เปิดบ้านพบของแข็งอย่าง ไบรท์ตัน

เอาเป็นว่าผ่าน ไบรท์ตัน ให้ได้ก่อนแล้วกัน ค่อยว่ากันถึงเรื่องแชมป์!

Mauricio Pochettino, Moisés Caicedo
Chelsea FC v Luton Town - Premier League / Visionhaus/GettyImages