เชลซี 2-1 วิมเบิลดัน: ประเด็นหลังเกม คาราบาว คัพ รอบ 2 สิงห์บลู แซงคว้าชัย
รายการ: ฟุตบอล คาราบาว คัพ อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันพุธที่ 30 สิงหาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: เชลซี 2-1 เอเอฟซี วิมเบิลดัน
ประเด็นน่าสนใจจากชัยชนะของ เชลซี
กลับสู่ 4-2-3-1
แบ็กทูเบสิก กลับสู่ระบบที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ใช้งานมาตลอดช่วงปรีซีซั่นอีกครั้งอย่าง 4-2-3-1 ภายหลังปรับไปใช้หมาก 3 เซนเตอร์แบ็กมาใน 3 เกมแรกของ พรีเมียร์ลีก และถือว่าสูตรที่ใช้วันนี้ ช่วยให้นักเตะเชลซีเล่นง่ายขึ้นพอสมควร รวมถึงเห็นข้อบกพร่องชัดด้วยว่าเด็กๆ บางคนอย่าง เมสัน เบอร์สโตว์, ดีเอโก้ โมเรยร่า หรือ บาเชียร์ ฮัมฟรีส์ ยังไม่ค่อยพร้อมสำหรับการเป็นตัวจริง แม้ในระยะยาวจะให้เป็นตัวสลับยังพอไหวก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มครึ่งหลัง โปเช็ตติโน่ ลองใช้ 4-4-2 บ้าง ด้วยการส่ง นิโคลัส แจ๊คสัน ลงสำรองไปยืนหน้าคู่ เบอร์สโตว์ ซึ่งก็วูบวาบน่าสนใจดีกับการมีตัวรุกเยอะ ก่อนที่จะปรับคืนสู่ 4-2-3-1 อีกหนในครึ่งชั่วโมงท้าย ที่ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ลงไปเป็นกลางรุกแทนที่ศูนย์หน้าอย่าง เบอร์สโตว์
เอ็นโซ นับ 1
ย้ายเข้ามาด้วยค่าตัวมหาโหด 107 ล้านปอนด์ภายหลังเป็นหนึ่งในดาวเด่นของ อาร์เจนติน่า ชุดแชมป์โลก แต่นอกจากการเล่มเกมพาสซิ่งและครอบครองบอลที่เห็นชัดว่า "เสียยาก" แล้ว สิ่งที่รอคอยอย่างประตูแรก กลับไม่มีเลยในตลอด (ครึ่ง) ซีซั่นที่ผ่านมา
เพียงแต่วันนี้ หลังจากลงเล่นเป็นเกมที่ 26 เม็ดแรกของมิดฟิลด์อาร์เจนไตน์ก็มาแล้ว จากจังหวะเตะเปิดเกมของนายทวารคู่แข่งที่ไปชน ยาน มาตเซ่น เด้งมาเข้าทางให้ส่องไกลเข้าตาข่ายโล่งๆ
น่าลุ้นว่า ประตูแรกจะช่วยให้ เอ็นโซ เล่นอย่างมั่นใจมากขึ้นในฐานะ "กลางรุก" ที่เป็นบทบาทใหม่ของซีซั่นนี้ ไม่ใช่ตัวรับหรือตัวเชื่อมเกมเหมือนซีซั่นก่อน
มาดูเอเก้ ของดี
หนึ่งในดีลที่ได้รับคำชมของ ท็อดด์ โบห์ลี่ จนถึงวันนี้ แน่นอนว่าคือการคว้าแข้งนอกสายตาอย่าง โนนี่ มาดูเอเก้ จาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาเมื่อตลาดหน้าหนาวที่แล้ว ด้วยสนนราคาไม่ได้สูง 28.5 ล้านปอนด์
ตัวริมเส้นอดีตเด็กปั้น สเปอร์ส วัย 21 แสดงถึงคุณภาพที่น่าจับตามองตั้งแต่ได้ลงสนามไม่กี่เกมแรก และมี 1 ประตูจาก 12 นัดที่ได้เล่นในซีซั่นก่อน ส่วนซีซั่นนี้ก็กดเม็ดแรกแล้วจากการ "ชงเองกินเอง" เรียกจุดโทษด้วยตัวเองและลุกมายิงเข้าไปอย่างเยือกเย็น
อันที่จริง เมื่อซีซั่นนี้ยังไม่มีคิวเตะบอลยุโรป การทุ่มซื้อ โคล พาล์มเมอร์ (แมนฯ ซิตี้) หรือ เอมิล สมิธ โรว์ (อาร์เซน่อล) ในช่วงโค้งสุดท้ายตลาดซัมเมอร์ ก็อาจไม่จำเป็นเท่าไหร่ด้วยซ้ำไป เมื่อ มาดูเอเก้ ก็ดีอยู่แล้ว และตัวเลือกแนวรุกก็ไม่ถือว่าขาดแคลนเช่นกัน
บอกลา กูกูเรย่า ...?
หนึ่งในจุดน่าสนใจของเกมเมื่อคืนนี้ คือการที่ มาร์ก กูกูเรย่า ยังคงได้ลงเล่นเป็นตัวจริง และถือว่าเล่นได้ไม่เลว ไม่ได้ก่อความผิดพลาดให้เห็น และมีจังหวะสอดประสานเติมเกมรุกอย่างที่เคยโดดเด่นกับ ไบรท์ตัน มาก่อน
เพียงแต่นี่ก็อาจเป็น "เกมสุดท้าย" ของแบ็กซ้ายสแปนิช ก่อนย้าย (คาดว่าเป็นลักษณะยืมตัว) สู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อมีรายงานว่า ตัวนักเตะรอบรับสัญญาจากทีมผีแดงแล้ว เหลือแค่ให้ 2 สโมสรไปทำข้อตกลงกันให้ลุล่วง
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ เชลซี การปล่อย กูกูเรย่า ไปก็คงไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรนัก เรียกว่าไม่มี กูกูเรย่า ก็คงไม่มีปัญหา เมื่อนอกจากรองกัปตัน เบน ชิลเวลล์ แล้วพวกเขาก็ยังมี ยาน มาตเซ่น แข้งสารพัดประโยชน์ดีกรีติดทีมแห่งปี ชปช. อยู่ทั้งคน
เชียร์ให้ถึงแชมป์
ในหลายๆ คอมเมนต์ของแฟนบอล พยายามเชียร์ให้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ วาง คาราบาว คัพ เอาไว้เป็น "เป้าหมายหลัก" ประจำซีซั่น นอกเหนือจากการพยายามแทรกตัวกลับสู่ท็อปโฟร์ พรีเมียร์ลีก ให้ได้อีกครั้ง
บางรายมองว่า การได้แชมป์ แม้จะเป็นแชมป์ใบเล็กสุดอย่างถ้วยนี้ แต่ก็จะเป็นการมอบความมั่นใจในการเล่นให้กับทีมชุด "สายเลือดใหม่" ของ เชลซี ได้เป็นอย่างดี รวมถึงว่าจะเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ความสำเร็จของ โปเช็ตติโน่ ในการขึ้นหลังสิงห์เองด้วย
อย่างไรก็ตาม บอลน็อกเอาต์ก็ไม่เคยง่าย เชลซี คงต้องว่ากันทีละรอบ ทีละเกม
สัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย. เชลซี จะลงเล่นรอบ 3 เปิดบ้านพบของแข็งอย่าง ไบรท์ตัน
เอาเป็นว่าผ่าน ไบรท์ตัน ให้ได้ก่อนแล้วกัน ค่อยว่ากันถึงเรื่องแชมป์!